กูเกิลปรับนโยบายรับกฎใหม่อียู กรณีห้ามติดตั้งบริการเสิร์ช – เบราเซอร์โครมลงในระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ด้วยการออกไลเซนต์ซอฟต์แวร์แบบพิเศษ พร้อมมีค่าใช้จ่ายเรียกเก็บจากบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่จะวางจำหน่ายในสหภาพยุโรป เริ่ม 29 ตุลาคมนี้
โดยผู้บริหารของกูเกิลอย่างฮิโรชิ ล็อกไฮม์เมอร์ (Hiroshi Lockheimer) ได้อธิบายในบล็อกของกูเกิลว่า การที่บริษัทติดตั้งกูเกิลเสิร์ช และเบราเซอร์โครม (Chrome) มาบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ร่วมกับแอพอื่น ๆ นั้น ทำให้ทางกูเกิลสามารถมีเงินทุนไปพัฒนาระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ต่อไปได้ แต่เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของอียู ทางบริษัทจึงมีข้อตกลงใหม่เป็นไลเซนต์การใช้แอนดรอยด์ “แบบมีค่าใช้จ่าย” สำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่จำหน่ายในสหภาพยุโรป
ทั้งนี้ กูเกิลระบุว่าในส่วนของระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ยังคงเปิดให้ใช้ฟรี และเป็นโอเพ่นซอร์สที่สามารถปรับแต่งได้เช่นเดิม
ทั้งนี้ รายงานจากบีบีซีระบุว่าไม่มีการเปิดเผยถึงค่าธรรมเนียมที่กูเกิลจะเรียกเก็บจากบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟน รวมถึงว่าค่าธรรมเนียมดังกล่าวจะถูกผลักภาระไปให้ผู้บริโภคมากน้อยเพียงใด
ด้านนักวิเคราะห์ในสหภาพยุโรปอย่าง เบน วูด จากบริษัทที่ปรึกษา CCS Insight มองว่า หลังจากนี้ไป ตลาดสมาร์ทโฟนจะมีหลายสิ่งเปลี่ยนแปลงไป และน่าจะกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาและแข่งขันกันได้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น อาจมีซัมซุงเบราเซอร์ ซัมซุงแมปส์ และบิ๊กบี้ (Bixby) ผู้ช่วยดิจิทัลอยู่ในโทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์แทนที่จะต้องพึ่งพาเครื่องมือจากกูเกิลแต่เพียงอย่างเดียว
“นี่เป็นโอกาสสำคัญของผู้ผลิตสมาร์ทโฟนในการสร้างรายได้เข้ากระเป๋าตัวเอง จากที่เมื่อก่อน พวกเขาแทบจะทำรายได้จากการขายเครื่องอย่างเดียว ส่วนรายได้ที่เหลือไหลเข้าสู่กูเกิลแทบทั้งหมดผ่านบริการอย่างกูเกิลเสิร์ช หรือกูเกิลแมปส์ ตอนนี้พวกเขาสามารถพัฒนาบริการอื่น ๆ มาขายเพิ่ม เช่น คลาวด์, บริการฟังเพลง ฯลฯ ได้แล้ว”
ทั้งนี้ ไลเซนต์ใหม่ของกูเกิลจะมีผลตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป โดยจะมีผลเฉพาะกับสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์โมบายล์ที่วางจำหน่ายในสหภาพยุโรป ซึ่งรวมถึงนอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเทนสไตน์
สำหรับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่วางจำหน่ายในสหภาพยุโรปตอนนี้ จะยังมีแอพพลิเคชัน ยูทูบ, กูเกิลแมปส์, โครมและกูเกิลเสิร์ช ติดตั้งลงมาตามปกติ
ส่วนเงินค่าปรับประมาณ 4.3 พันล้านยูโรที่สหภาพยุโรปเรียกเก็บจากกูเกิลกรณีใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ทำให้บริษัทได้เปรียบในการแข่งขันบนธุรกิจเสิร์ชเอนจินนั้น ทางกูเกิลเผยว่าอยู่ระหว่างการยื่นอุทธรณ์
