World News

‘ไบเดน’ ทุ่ม 57 ล้านล้าน ดันเศรษฐกิจอเมริกัน-สู้โควิด

“โจ ไบเดน” ว่าที่ประธานาธิบดีใหม่สหรัฐ เปิดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ หรือมากกว่า 57 ล้านล้านบาท เพื่อยุติ “วิกฤติครั้งรุนแรงสุด” เท่าที่มนุษยชาติเคยเผชิญมา ด้วยการเร่งฉีดวัคซีน และอัดฉีดเงินช่วยหลือ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจซบเซา เพราะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

การเปิดแผนที่เรียกว่า “แผนช่วยเหลืออเมริกัน” หรือ “American Rescue Plan” ก่อนพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดี บ่งบอกถึงความเร่งด่วน ที่ต้องเร่งรับมือกับผลกระทบโควิด-19 ซึ่งกินเวลามาข้ามปี

shutterstock 1893848266

นายไบเดนกล่าวว่า ต้องยุติวิกฤติความทุกข์ร้อนของมนุษย์ ด้วยการเร่งฉีดวัคซีน พร้อมอัดฉีดเงินลงไปช่วยเหลือกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบหนักด้านเศรษฐกิจ

แผนดังกล่าวยืนยันเป้าหมายฉีดวัคซีน 100 ล้านเข็ม ภายในช่วง 100 วันแรก ของการบริหารที่เริ่มนับตั้งแต่วันที่ 20 มกราคมเป็นต้นไป เดินหน้าเปิดโรงเรียนส่วนใหญ่ให้ได้ในฤดูใบไม้ผลิ (ราวเดือนมี.ค.-พ.ค.) และอัดเงินช่วยเหลือลงไป สร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจรอบใหม่

“เราไม่เพียงมีความจำเป็นทางเศรษฐกิจที่ต้องเริ่มรับมือ ผมเชื่อว่าเรามีหน้าที่ทางศีลธรรม (ที่ต้องรักษาชีวิตคน) วิกฤติที่เห็นผู้คนทุกข์ทรมานอยู่ในสายตานี้ เราต้องไม่เสียเวลาอีกแล้ว เราต้องลงมือ และลงมือเดี๋ยวนี้เลย”

มาตรการของนายไบเดน ยังรวมถึง การแจกเงินคนละ 1,400 ดอลลาร์แก่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ซึ่งเมื่อรวมกับการให้คนละ 600 ดอลลาร์ ที่อยู่ในงบประมาณโควิด-19 แล้วจะรวมเป็น 2,000 ดอลลาร์ หรือราว 60,000 บาท นอกจากนี้ จะขยายเวลาอัดฉีดสิทธิประโยชน์แก่กลุ่มคนว่างงานไปจนถึงเดือนกันยายน

ส่วนแผนระยะยาวตามนโยบายของพรรคเดโมแครต  คือ การเพิ่มค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำเป็น 15 ดอลลาร์ หรือ 450 บาทต่อชั่วโมง ขยายการจ่ายเงินช่วงวันหยุดแก่พนักงาน เพิ่มการลดหย่อนภาษีแก่ครอบครัวที่มีเด็ก และทำให้ผู้หญิงกลับไปทำงานได้ง่ายขึ้น เพื่อผลักดันการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

การเปิดแผนของไบเดนอยู่ในช่วงที่สังคมชาวอเมริกันแตกแยกอย่างหนัก อีกทั้งยังเผชิญโรคระบาดโควิด ที่มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 385,000 ราย จากผู้ติดเชื้อ 23.8 ล้านคน จำนวนคนตกงานในแต่ละสัปดาห์เพิ่มสูงมาก จากการที่บริษัทต่าง ๆ ต้องปิดตัว และเลิกจ้างพนักงาน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo