สมาคมค้าทองคำ รายงาน ราคาทองวันนี้ 15 ม.ค. 2564 ปรับขึ้น 100 บาท จากราคาปิดเมื่อวานนี้ (14 ม.ค.)
ราคาทองวันนี้ 15 ม.ค. ล่าสุด ทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศ มีราคารับซื้อ อยู่ที่บาทละ 26,200 บาท ขายออกที่ ราคาบาทละ 26,300 บาท ส่วนราคาทองรูปพรรณ 96.5% รับซื้ออยู่ที่ ราคาบาทละ 25,726.52 บาท และขายออก ที่บาทละ 26,800 บาท
ขณะที่ ราคาทองคำโลก หรือ Gold Spot ล่าสุดอยู่ที่ 1,852.50 ดอลลาร์ ต่อออนซ์
ราคาทองคํา Spot ยังเคลื่อนไหวผันผวนโดยราคาปรับตัวขึ้นหลังดัชนีเงินเฟ้อของสหรัฐดีดตัวขึ้น รวมทั้งแนวโน้มการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของสหรัฐ อย่างไรก็ดี เงินดอลลาร์ที่แข็ง และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เป็นปัจจัยกดดันต่อทองคํา
นักลงทุนเข้าซื้อทองคำ ในฐานะสินทรัพย์ประกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ หลังดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค. ของสหรัฐดีดตัวขึ้น 0.4% จากเดือนพ.ย. ที่ปรับตัวขึ้น 0.2%
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงหนุนจากความคาดหวัง ในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของสหรัฐ รวมถึงปัจจัยทางการเมือง หลังจากล่าสุดสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ มีมติถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ ในข้อหายุยงปลุกปั่น ให้กลุ่มผู้สนับสนุนบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา
ประเด็นเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐในคืนวันนี้ ติดตามการแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดว่า ประธานเฟดจะส่งสัญญาณ ที่จะผ่อนคลายมาตรการทางการเงินต่อไป นอกจากนี้ ติดตามการประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตัวเลขคาดการณ์จะอยู่ที่ระดับ 780,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนที่ระดับ 787,000 ราย
ประกาศราคาทองคําในประเทศเปิดตลาดปรับลดลง 100 บาท ต่อเนื่องจากเมื่อวานที่ราคาปรับลดลงติดต่อกัน 3 รอบ รวม 200 บาท เนื่องจากได้รับปัจจัยกดดันจากเงินบาทที่ยังแข็งค่าต่ำกว่าระดับ 30 บาท โดยเช้านี้แข็งค่าอยู่ที่บริเวณ 29.98 บาท
ฮั่วเซ่งเฮง วิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบบริเวณ 1,835-1,870 ดอลลาร์ โดยจะมีแนวต้านแรกที่บริเวณ 1,870 ดอลลาร์ และถ้าผ่านไปได้จะมีแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 1,885 ดอลลาร์ ในขณะที่ฝั่งแนวรับ 1,835 ดอลลาร์ จะเป็นด่านแรก และหากผ่านลงไปได้จะมีแนวรับถัดไปที่บริเวณ 1,820 ดอลลาร์
บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ระบุว่า ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดที่ลงไปทดสอบในระหว่างวันบริเวณ 1,831.16 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แรงหนุนจาก 2 ประเด็น ได้แก่
- การเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่พุ่งขึ้นเกินคาด สู่ระดับ 965,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 ส.ค. สะท้อนว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงเปราะบาง
- ถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุชัดว่า เฟดจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ (no time soon) และย้ำว่ายังเร็วเกินไปที่จะหารือเกี่ยวกับการลดวงเงินการเข้าซื้อพันธบัตร (QE tapering) ในระยะเวลาอันใกล้นี้ สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงจนเป็นปัจจัยหนุนทองคำ
อย่างไรก็ดี การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำยังอยู่ในกรอบจำกัด เพราะอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปียังคงเคลื่อนไหวเหนือ 1.10% ต่อเนื่องขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชื่อว่า “American Rescue Plan” ซึ่งนายโจ ไบเดนว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐเปิดเผยวานนี้ โดยมาตรการดังกล่าวมีวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย
นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากกองทุน SPDR ที่ถือครองทองคำลดลง 10.21 ตันอีกด้วย
สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ อาทิ ยอดค้าปลีก, ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม(Empire State Index), ดัชนีราคาผู้บริโภค (PPI), อัตราการใช้กำลังการผลิต, การผลิตภาคอุตสาหกรรม, สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจและคาดการณ์ความเชื่อมั่นผู้บริโภค จาก UoM
ยังมีลุ้นที่ราคาอาจไปทดสอบแนวต้านโซนที่ 1,864-1,874 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคายืนไม่ได้ อาจเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมา เมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงจะมีแนวรับบริเวณ 1,833-1,818 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- วายแอลจี เผยสาเหตุทองร่วงแรง! พร้อมแนะกลยุทธ์ลงทุนระยะสั้น
- จับตาธนาคารกลาง เทขายทองคำ สัญญาณสิ้นสุดราคาทองขาขึ้น
- ราคาทองวันนี้ 12 ม.ค. แนะเก็งกำไรระยะสั้น รูปพรรณขายออก 26,900 บาท