ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (14 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวสูงขึ้น จากการที่นักลงทุนรอดูรายละเอียด ในข้อเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ “โจ ไบเดน” ขณะข้อมูลเศรษฐกิจ บ่งชี้ว่า การฟื้นตัวในการจ้างงานยังขลุกขลักอยู่
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 31,191.09 จุด ปรับขึ้น 130.62 จุด หรือ 0.42% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,822.35 จุด ขยับขึ้น 12.51 จุด หรือ 0.33% และดัชนีแนสแด็กที่ 13,206.63 จุด บวก 77.68 จุด หรือ 0.59%
นักลงทุนจับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ ที่นายไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ ขณะที่สื่อรายงานว่าอาจมีวงเงินสูงถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์
นายไบเดนเตรียมประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในวันนี้ เพื่อเยียวยาชาวอเมริกัน และภาคธุรกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยนายไบเดนกล่าวว่า มาตรการดังกล่าวจะมีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์
แหล่งข่าวระบุว่า นายไบเดนจะเน้นย้ำถึงความสำคัญของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐ รายงานตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้นสู่ระดับ 965,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน
ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรลดลง 140,000 ตำแหน่งในเดือนธันวาคม ถือเป็นการปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่แล้ว
บรรดานักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่า นายไบเดนจะเร่งขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว หลังจากที่เขาเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคมนี้ ซึ่งการที่พรรคเดโมแครต ครองอำนาจเบ็ดเสร็จในสภา ทั้งในทำเนียบขาว วุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร จะช่วยเอื้อต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ หลังจากที่ถูกขัดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขัดขวางมาแล้ว
นายไบเดน กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาสนับสนุนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจากระดับ 7.25 ดอลลาร์ต่อชั่วโมงในปัจจุบัน มาอยู่ที่ชั่วโมงละ 15 ดอลลาร์ และเพิ่มวงเงิน ในเช็คเงินสด ที่จัดส่งให้แก่ชาวอเมริกันเป็นคนละ 2,000 ดอลลาร์ จากเดิมที่ได้คนละ 600 ดอลลาร์
นายไบเดน บอกด้วยว่า การผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ถือเป็นภารกิจที่มีความสำคัญเป็นอันดับแรกหลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี
อย่างไรก็ดี แหล่งบข่าว ระบุว่า ว่าที่ประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต จะยังไม่พิจารณาการปรับขึ้นอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล ที่เขาเคยระบุไว้ในการรณรงค์หาเสียงช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยจะให้สภาคองเกรสให้ความสำคัญต่อการผ่านกฎหมาย ว่าด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนเป็นลำดับแรก
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ธนาคารกลางจีน ยกเลิก ‘เพดาน’ ดอกเบี้ย กรณีใช้จ่ายเกินวงเงินบัตรเครดิต
- เปิดเบื้องหลัง ‘เมียนมา’ ยกเลิกสัมปทาน ‘อิตาเลียนไทย’
- ‘เจาะพยู’ ท่าเรือ-รถไฟสายใหม่ ‘เมียนมา’ ต่อจิ๊กซอว์เส้นทางสายไหมของจีน
