บุรีรัมย์ เตรียมเอาผิดหนุ่มจากอ่างทอง ลอบมางานศพ ไม่ยอมแจ้งให้ผู้นำชุมชนรับทราบ สุดท้ายพบติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระบุ ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายหลังรักษาหาย
วันนี้ (14 ม.ค.) นายธัชกร หัตถาธยากูร ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นายไชยวัฒน์ จินถิระพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พ.ต.อ.สาธิต สถิตถาวร ผกก.สส.ภ.จว.บุรีรัมย์ และ นายวิทิต สฤษฎีชัย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมแถลงการปฏิบัติงานของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ หลังจากพบมีผู้ฝ่าฝืนมาตรการการป้องกันโรคโควิด-19
นายธัชกร กล่าวว่า จังหวัดบุรีรัมย์ มีมาตรการเข้มงวดในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวด ซึ่งได้ประกาศ และประชาสัมพันธ์มาเป็นระยะ แต่ยังปรากฏมีผู้ฝ่าฝืน คำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ
ล่าสุดได้มีชาย อายุ 33 ปี เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล มาจากกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา เพื่อมาร่วมงานศพ ที่ อำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ และเมื่อมาถึงได้ไปพูดคุย ทักทาย กอดญาติ เข้าไปเคารพศพโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย อีกทั้งรวมกลุ่มดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กับบุคคลอื่นในงานทันที
ระหว่างร่วมงานศพ ชายคนนี้ ซึ่งปกติทำงาน และพักอาศัยที่จังหวัดอ่างทอง ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากโรงพยาบาลป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ว่า มีผลการตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวก จึงได้เดินทางกลับไปรักษาตัวที่จังหวัดอ่างทอง และเจ้าหน้าที่ในจังหวัดบุรีรัมย์ มาทราบเรื่องของผู้ป่วยรายนี้ จากการที่จังหวัดอ่างทอง ประกาศไทม์ไลน์ออกมา
ดังนั้น การที่ผู้ป่วยโควิดอ่างทองรายนี้ เดินทางเข้ามาในจังหวัดบุรีรัมย์ ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดในประกาศ ที่กำหนดให้ผู้เดินทางทุกคน ต้องไปรายงานตัวต่อผู้ใหญ่บ้าน ประธานชุมชน อสม. หรือ ศูนย์คัดกรองโควิดประจำหมู่บ้าน หรือ ชุมชนท้องที่ที่อำเภอกำหนด รวมทั้งไม่กรอกแบบคำถามสุขภาพ ในแบบฟอร์ม ต.8 บร.
นายธัชกร ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าว แม้ว่าผู้ติดเชื้อโควิด – 19 จะไม่ได้อยู่ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์แล้ว แต่ถือว่าเป็นผู้ที่เข้ามาในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ โดยไม่ปฏิบัติตาม ประกาศของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งถือว่า เป็นผู้มีความผิดตามประกาศ จังหวัดบุรีรัมย์ จะต้องติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป
ทางจังหวัดได้กำหนดโทษ สำหรับผู้ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อไว้ว่า ผู้ใดฝ่าฝืนจะต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท ตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และหรือต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 วัน หรือทั้งจำ ทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368 โดยจะออกหมายเรียกผู้ป่วยรายนี้ มารับทราบข้อกล่าวหา หลังจากรักษาหายจากโรคโควิด
เนื่องจากช่วงนี้ยังมีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด จึงฝากถึงประชาชนชาวบุรีรัมย์ ให้ปฏิบัติตนตามมาตรการทางสาธารณสุข มีการสแกนแอปพลิเคชัน ไทยชนะ เมื่อต้องเข้าสถานที่ต่างๆ เว้นระยะห่างทางสังคม ไม่เข้าไปอยู่ในสถานที่ ที่มีผู้คนชุมนุมกันเป็นจำนวนมาก สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า 100 % และล้างมือบ่อย ๆ
พร้อมขอให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา เฝ้าระวังผู้ที่เดินทางข้ามมาในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข และประกาศของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อให้จังหวัดบุรีรัมย์ปลอดภัยจากโรคติดเชื้อโควิด – 19
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- โควิด ‘ระยอง’ ป่วยเพิ่ม 11 ราย ผู้ว่าฯห่วง ปิดบ่อนใหญ่ เจอแอบเล่นในบ้าน ติดกันรอบวง
- เช็คเลย! 60 จังหวัดติดโควิด ‘สมุทรสาคร’ พุ่งสูงสุด 208 คน เหลือ 17 จังหวัดไร้ผู้ติดเชื้อรอบใหม่
- เปิดไทม์ไลน์ ‘2 เหยื่อโควิด’ เดินทางหลายจังหวัด พบเป็นเบาหวานทั้งคู่
