โยชิฮิเดะ สุงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพิ่มในอีก 7 จังหวัด เพื่อขยายขอบเขตมาตรการควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ท่ามกลางจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วประเทศ
จังหวัดที่ถูกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินรอบนี้ ได้แก่ จังหวัดโอซาก้า จังหวัดไอจิ จังหวัดโทชิงิทางตอนเหนือของกรุงโตเกียว จังหวัดกิฟุทางตอนกลาง จังหวัดเฮียวโงะ และจังหวัดเกียวโตทางตะวันตก และจังหวัดฟุกุโอกะทางตะวันตกเฉียงใต้ สถานการณ์ฉุกเฉินจะมีผลบังคับใช้จนถึงวันที่ 7 ก.พ. 2564
ประชาชนในพื้นที่ซึ่งถูกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน จะถูกร้องขอให้งดการเดินทางที่ไม่จำเป็น ส่วนร้านอาหารและบาร์จะถูกสั่งให้ปิดในเวลา 20.00 น. ขณะที่บริษัทต่างๆ จะถูกขอความร่วมมือให้พนักงานทำงานที่บ้านหรือเหลื่อมเวลาเข้างาน
อนึ่ง มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินรอบแรกในกรุงโตเกียว และจังหวัดใกล้เคียงอีก 3 แห่ง ได้แก่ จังหวัดชิบะ จังหวัดคานางาวะ และจังหวัดไซตามะ เมื่อวันศุกร์ที่ (8 ม.ค.) ผ่านมา
การขยายสถานการณ์ฉุกเฉินรอบนี้ มีขึ้นหลังจากผู้ว่าการจังหวัดบางส่วนเรียกร้องให้รัฐบาลกลาง ขยายมาตรการสถานการณ์ฉุกเฉินให้ครอบคลุมจังหวัดในการดูแลของตน ทำให้จำนวนจังหวัดที่อยู่ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉินของญี่ปุ่นอยู่ที่ 11 แห่งในปัจจุบัน
ก่อนหน้านี้ มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงโตเกียวและอีก 6 จังหวัด เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ปีที่แล้ว จากนั้นขยายเพิ่มจนครอบคลุมทั้งประเทศในเวลาต่อมา และถูกยกเลิกไปเมื่อช่วงปลายเดือนพ.ค.
อย่างไรก็ดี มาตรการต่างๆ ของสถานการณ์ฉุกเฉินรอบนี้ มีความผ่อนคลายมากกว่าสถานการณ์ฉุกเฉินรอบก่อน และไม่มีการกำหนดบทลงโทษสำหรับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎ
ก่อนหน้านี้ โยชิฮิเดะ สุงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตมหานครโตเกียว ซึ่งรวมถึงกรุงโตเกียว จังหวัดไซตามะ จังหวัดชิบะ และจังหวัดคานางาวะ โดยอนุมัติให้ใช้มาตรการอันเข้มงวดยิ่งขึ้นเพื่อรับมือกับจำนวนผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่เพิ่มสูงขึ้นอีกระลอก
สถานการณ์ฉุกเฉินจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2564 จนถึงวันที่ 7 ก.พ. 2564 โดยมีการบังคับใช้หลายมาตรการซึ่งรวมถึงขอความร่วมมือจากประชาชนให้อยู่บ้าน และเรียกร้องร้านอาหารและบาร์งดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตั้งแต่ 19.00 น. และปิดให้บริการ 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ส่วนโรงยิม ห้างสรรพสินค้า และสถานบันเทิง ให้ย่นระยะเวลาให้บริการด้วย
นอกจากนั้น รัฐบาลญี่ปุ่นยังเรียกร้องบริษัทต่างๆ ให้พนักงานทำงานที่บ้านหรือเหลื่อมเวลาเข้างาน ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายลดจำนวนผู้คนในสำนักงานลง 70% ขณะเดียวกันยังจำกัดจำนวนคนเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ให้อยู่ที่ 5,000 คน หรือ 50% ของความจุของสถานที่จัดงาน
สถานการณ์ฉุกเฉินถูกประกาศครั้งแรกในโตเกียวและอีก 6 จังหวัดเมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2563 และถูกขยับขยายให้ครอบคลุมทั้งประเทศ ก่อนจะถูกยกเลิกในช่วงปลายเดือนพ.ค. ปีเดียวกัน
การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินรอบใหม่นี้มีขึ้นขณะโตเกียวตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายวันสูงเป็นประวัติการณ์ อยู่ที่ 2,447 ราย ในวันพฤหัสบดี (7 ม.ค.) สูงกว่าสถิติก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ 1,591 ราย
อย่างไรก็ดี สารพัดมาตรการของสถานการณ์ฉุกเฉินรอบนี้ มีความผ่อนคลายมากกว่าสถานการณ์ฉุกเฉินรอบก่อน และไม่มีบทลงโทษผู้ที่ไม่ยอมปฏิบัติตามกฎระเบียบ
ที่มา:สำนักข่าวซินหัว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- มีผลพรุ่งนี้! ญี่ปุ่น ประกาศภาวะฉุกเฉิน ‘โตเกียว’ เจอติดโควิดพุ่งทุบสถิติ
- ‘ญี่ปุ่น’ เล็งใช้ ‘ภาวะฉุกเฉิน’ เขตโตเกียว สกัด ‘โควิด’ พุ่งไม่หยุด
- เจาะลึก ‘โควิดญี่ปุ่น ‘ วิกฤติที่ไม่ยอมจบสิ้น