“สวิตเซอร์แลนด์” ไฟเขียว วัคซีนโควิด-19 ของ โมเดอร์นา เริ่มใช้งาน “ทันที” ด้าน EU เร่งอนุมัติวัคซีนของแอสตราเซเนกาภายในเดือนนี้
สวิสเมดิก (Swissmedic) องค์กรกำกับดูแลกิจการสาธารณสุขของสวิตเซอร์แลนด์ อนุมัติการใช้งาน “ทันที” ของวัคซีนต้านโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ของโมเดอร์นา (Moderna) โดยสวิตเซอร์แลนด์ที่มีประชากรทั้งหมด 8.5 ล้านคน สั่งซื้อวัคซีนของโมเดอร์นาล่วงหน้าแล้ว 7.5 ล้านโดส
รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ระบุว่า สวิสเมดิกได้อนุมัติ วัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์-ไบออนเทค (Pfizer-BioNTech) เมื่อเดือนธันวาคม 2563 ทำให้สวิตเซอร์แลนด์มีวัคซีนทั้งหมด 500,000 โดสในเดือนมกราคม 2564 โดยจะได้รับวัคซีนเพิ่มเติมในเดือนต่อๆ ไป และ “ประชาชนที่สมัครใจทุกคนจะได้รับวัคซีน” ภายในฤดูร้อน
ปัจจุบันสวิตเซอร์แลนด์สั่งซื้อวัคซีนต้านโรคโควิด-19 จากผู้ผลิต 3 ราย รวมแล้วกว่า 15 ล้านโดส โดยสวิตเซอร์แลนด์เริ่มดำเนินการฉีดวัคซีนครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2563 แก่หญิงชราวัย 90 ปี
ยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในสวิตเซอร์แลนด์ยังอยู่ในระดับสูง โดยเมื่อนับถึงวานนี้ (12 ม.ค. 64) สวิตเซอร์แลนด์มีผู้ป่วยสะสม 487,357 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 7,793 ราย
EU เร่งอนุมัติวัคซีนแอสตราเซเนกา
องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) เปิดเผยการรับเอกสารขอขึ้นทะเบียนแบบมีเงื่อนไขของ วัคซีนโควิด-19 จากแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) และมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด โดยองค์การฯ จะเร่งกระบวนการเพื่อออกหนังสือแนะนำการใช้งานภายในสิ้นเดือนมกราคม 2564
แถลงการณ์จากองค์การฯ ระบุความเป็นไปได้ของการอนุมัติการวางจำหน่ายวัคซีนข้างต้นในท้องตลาดระหว่างการประชุมของคณะกรรมการวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับยาของมนุษย์ ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 29 มกราคมนี้
องค์การฯ ซึ่งมีหน้าที่ทำการประเมินทางวิทยาศาสตร์ กำกับดูแล และตรวจสอบความปลอดภัยของยาในสหภาพยุโรป สามารถทำการประเมินวัคซีนในระยะเวลาสั้น เนื่องจากมีการพิจารณาข้อมูลบางส่วนของวัคซีนแล้ว
ปัจจุบันองค์การฯ กำลังประเมินข้อมูลทางวิทยาศาสตร์จากแอสตราเซเนกาเกี่ยวกับคุณภาพ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพของวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ซึ่งอยู่ระหว่างการทดลองทางคลินิกระยะที่ 4 ในสหราชอาณาจักร บราซิล และแอฟริกาใต้
สหภาพยุโรปอนุมัติการวางจำหน่ายวัคซีนต้านโรคโควิด-19 แล้ว 2 ตัว ได้แก่ วัคซีนของไฟเซอร์-ไบออนเทค และ วัคซีนโควิด-19 ของ โมเดอร์นา ขณะทั่วโลกพยายามควบคุมการระบาดใหญ่ โดยบางประเทศได้อนุมัติวัคซีนและเริ่มฉีดให้ประชาชนแล้ว
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) เผยแพร่ข้อมูลเมื่อวานนี้ว่า ขณะนี้มีวัคซีนที่ได้รับการพัฒนาทั่วโลกทั้งหมด 236 ตัว โดยอยู่ระหว่างการทดลองทางคลินิก 63 ตัว ในเยอรมนี จีน รัสเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐ
ประธานาธิบดีอินโดฯ ประเดิมฉีด “วัคซีนโควิด-19 ฝีมือจีน”
ขณะที่วันนี้ (13 ม.ค. 64) โจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่พัฒนาโดยซิโนวัค (Sinovac) บริษัทชีวเวชภัณฑ์ของจีน
วิโดโด หรือที่รู้จักกันในชื่อ โจโกวี ถือเป็นชาวอินโดนีเซียคนแรกที่ได้รับวัคซีนตัวดังกล่าว เพื่อแสดงให้เห็นว่าวัคซีนมีความปลอดภัย โดยผู้บังคับบัญชากองทัพอินโดนีเซีย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ได้รับวัคซีนต่อจากวิโดโดเช่นกัน
ทั้งนี้ เมื่อวันจันทร์ (11 ม.ค. 64) สำนักงานควบคุมอาหารและยาของอินโดนีเซีย (BPOM) ได้อนุมัติการใช้ วัคซีนโควิด-19 ของซิโนวัค ไบโอเทค (Sinovac Biotech) ในกรณีฉุกเฉิน หลังจากผลลัพธ์ระหว่างการทดลองขั้นสุดท้ายในประเทศบ่งชี้ประสิทธิภาพอยู่ที่ 65.3%
แต่อีกด้านหนึ่งมีรายงานว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่พัฒนาโดยซิโนวัค ไบโอเทค และทำการทดสอบในประเทศบราซิล มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสเพียง 50.38% เท่านั้น ซึ่งแทบจะไม่มากพอ ที่จะผ่านการอนุมัติจากเจ้าหน้าที่คุมกฎระเบียบได้ และยังอยู่ในระดับต่ำกว่าผลการทดลองที่ประกาศออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ที่มาสำนักข่าวซินหัว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ชัชชาติ’ จี้กทม.ดึงงบเหลือกว่า 5 หมื่นล้าน – ซื้อ ‘วัคซีนโควิด’ ฉีดให้คนกทม.ได้เอง!
- ป่วยโควิดวันนี้ 157 ราย ติดเชื้อในประเทศ 90 คน เจอหนีเข้าเมืองอีก 21 ราย
- ‘อนามัยโลก’ ร้องประเทศร่ำรวย หยุดกว้านซื้อ ‘วัคซีนโควิด’