Politics

เรื่องของเขา! ‘บิ๊กตู่’ ไม่ห้าม ‘พี่ศรี’ ร้องสอบกอ.รมน.ซื้อโซล่าร์เซลแพง

“นายกรัฐมนตรี” ไม่ห้าม “ศรีสุวรรณ” เตรียมยื่น “สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน” สอบ “กอ.รมน.” ซื้อโซล่าร์เซลแพง

จากกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการ สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เตรียมยื่นหนังสือถึงสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินให้ตรวจสอบ กรณีมีการเผยแพร่เอกสารราคาการจัดซื้อแผงโซล่าร์เซลของ กอ.รมน. ว่าทำไมมีราคาแพงกว่าที่ “พิมรี่พาย” ยูทูบเบอร์ชื่อดังซื้อให้กับเด็กบนดอย อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่

ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวว่า ก็เป็นเรื่องของเขาที่จะไปตรวจสอบ ซึ่งทุกคนสามารถร้องได้หมดตามกฎหมาย แต่ก็ขอให้ไปดูข้อเท็จจริงด้วย อย่าเพิ่งตัดสินใจว่าผิดหรือถูก ตนก็ยังไม่รู้เหมือนกัน ซึ่งทุกคนสามารถพูดได้หมด เพราะนี่คือประชาธิปไตย จะไปห้ามใครไม่ให้คุยไม่ได้แล้ว

ประยุทธ์131641

“ใครอยากจะพูดอะไรก็พูดไป และอยากจะฟ้องใครก็ฟ้องไป แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับคนทุกคน และให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาล และให้ความเป็นธรรมกับนายกฯ บ้าง” นายกรัฐมนตรี กล่าว

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้อยากจะไปใช้กฎหมายให้เดือดร้อนกันไปทั้งหมด แต่บางครั้งและบางเรื่องก็ต้องรักษาสิทธิส่วนบุคคลของตนบ้าง ซึ่งตามกฎหมายก็จะพิจารณาเป็นราย ๆ อยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้มีการแชร์เอกสาร จากเว็บไซต์ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) เกี่ยวกับเอกสารสรุปราคากลางงานก่อสร้างอาคาร โครงการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ของ กอ.รมน.ภาค 3 โดยมีการเบิกงบค่าก่อสร้างระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซล์แสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) ขนาดกำลังติดตั้งไม่น้อยกว่า 210 กิโลวัตต์ พร้อมระบบกักเก็บเก็บพลังงานรวม 45,205,109.91 บาทนั้น

กรณีดังกล่าวโฆษก กอ.รมน. ได้ออกมาชี้แจงว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารฉบับจริง และเป็นเอกสารที่ใช้ในการเผยแพร่ราคากลางของโครงการฯ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอน พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้าง มาตรา 56 วรรค 1 ของภาครัฐฯ ด้วยวิธีการประมูลราคากลางผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e–Bidding) ของกรมบัญชีกลาง ซึ่งได้ผ่านการรับรองราคาจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเป็นการดำเนินการจำนวน 5 พื้นที่ใน อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ แต่มีระบบกักเก็บพลังงาน (แบตเตอรี่ลิเทียม) จำนวน 998.40 กิโลวัตต์ และได้ดำเนินการจัดทำโครงข่ายไฟฟ้าชุมชน โดยมีการลากสายไฟฟ้าเข้าไปในพื้นที่หมู่บ้าน จำนวน 5,409 เมตร และติดตั้งเสาไฟฟ้า

แต่ถึงอย่างไรก็ตามมูลค่าของโครงการดังกล่าวเมื่อเทียบกับกรณี “พิมรี่พาย” ใช้เงินกว่า 5 แสนบาท เพื่อทำโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้า ติดตั้งทีวีที่หมู่บ้านแม่เกิบโดยเฉลี่ยกิโลวัตต์ละ 57,692 บาท ส่วนของ กอ.รมน.เฉลี่ยกิโลวัตต์ละ 215,262 บาท แล้วมีความแตกต่างกันมาก

ศรีสุวรรณ พิมรี่พาย กอ.รมน

ที่สำคัญเมื่อดูรายละเอียดตามเอกสารรายการวัสดุและค่าใช้จ่าย (BOQ) ก็จะพบว่าหลายรายการมีราคาแพงกว่าปกติ เช่น แบตเตอรี่ลิเทียมขนาด 200 กิโลวัตต์-ชั่วโมงมีราคาถึงชุดละ 5,000,000 บาท แต่ถ้าเป็นขนาด 120 กิโลวัตต์-ชั่วโมงมีราคาถึง 3,000,000 บาทต่อชุด เครื่องควบคุมประจุแบตเตอรี่และเครื่องแปลงกระแสขนาด 30 กิโลวัตต์ราคาถึง 600,000 บาทต่อชุด แค่ค่าประตูสำเร็จรูปยังราคาถึง 15,000 บาทต่อบานเลย ฯลฯ

ทั้งนี้ แม้ในรายละเอียดโครงการของ กอ.รมน. จะมีการลากสายไฟฟ้าและติดตั้งเสาไฟฟ้าด้วยก็ตาม ก็น่าที่จะเป็นราคาที่สูงเกินไปมาก นอกจากนั้นยังเป็นที่สงสัยว่าบริษัทที่เสนอราคาต่ำที่สุดจำนวน 44,707,745 บาท เหตุใดจึงไม่เป็นผู้ชนะการประมูล จึงสงสัยว่าเป็นการประมูลที่โปร่งใส เป็นไปตามระเบียบหรือไม่ด้วย

ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความไปร้องเรียนต่อสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อให้ใช้อำนาจตาม พรป.ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน 2561 ดำเนินการตรวจสอบไต่สวนและวินิจฉัยว่าโครงการติดตั้งโซล่าเชลล์ของ กอ.รมน. ทั้ง 5 พื้นที่มีความคุ้มค่า มีผลสัมฤทธิ์ มีประสิทธิภาพตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ หรือมีการกระทำการอันอาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน และหรือกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ หรือการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน มีพฤติการณ์อันเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อํานาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายหรือไม่

โดยจะเดินทางไปร้องเรียนในวันนี้ (13 ม.ค. 64) เวลา 13.00 น. ณ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ซอยอารีย์ ถนนพระราม 6 เขตพญาไท กรุงเทพฯ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo