The Bangkok Insight

เหนือซาลาเปา! ‘เซเว่น’รุกการเงิน-ประกัน-สุขภาพ

ร้านเซเว่น 4.0
โฉมหน้าร้านเซเว่นโมเดลใหม่ 4.0

“รับไส้กรอก-ซาลาเปาเพิ่มไม๊คะ” ประโยคจำของร้านสะดวกซื้อ “เซเว่น อีเลฟเว่น” (7-ELEVEN) ประเทศไทยยังคงเดิมเพิ่มเติมคือจำนวนสาขาที่มากขึ้น และบริการที่หลากหลายขึ้น ไม่แน่ว่าในอีกไม่กี่ปีประโยคจำของร้านเซเว่น อาจเปลี่ยนเป็น “รับประกัน ฝาก-ถอนเงิน ซื้อบัตรคอนเสิร์ตด้วยไม๊คะ” เพราะเซเว่นยุคใหม่ได้รวบเอาบริการต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เข้ามาเสริฟภายในร้านมากขึ้น

ความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง มาพร้อมจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้นของร้านเซเว่น ประเทศไทย ที่ดำเนินธุรกิจโดย บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ในเครือซีพี มาตั้งแต่ปี 2531 ปัจจุบันแฟรนไชส์ร้านสะดวกซื้อจากสหรัฐอเมริการายนี้ ดำเนินธุรกิจในไทยมาแล้ว 30 ปี จะก้าวสู่ปีที่ 33 ในปี 2564 ซึ่งซีพี ออลล์ ตั้งเป้าขยายสาขาร้านเซเว่นในไทย ให้ได้ 13,000 สาขา อัพเดทจากจำนวนล่าสุดเมื่อสิ้นปี 2560 ที่เปิดไปแล้ว 10,268 สาขา

เป้าหมาย 4 ปีเปิดเพิ่มอีก 2,732 สาขา เป็นทาร์เก็ตที่ผู้บริหารซีพี ออลล์ประกาศไว้ คือจะขยายปีละ 700 สาขา เติบโตท่ามกลางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่ผู้บริหารซีพี ออลล์ ก็ยอมรับว่าเทรนด์ของธุรกิจร้านสะดวกซื้อทั่วโลกไม่สู้ดีนัก ในไทยก็เช่นเดียวกัน

เทรนด์ทั่วโลก“ร้านสะดวกซื้อ”ขาลง

“แนวโน้มร้านเซเว่น อีเลฟเว่นทั่วโลก คนเริ่มเข้ามาซื้อสินค้าน้อยลง รวมทั้งในไทยด้วย สาขาเดิมที่มีอยู่ยังเติบโตแต่ก็ไม่มาก ในแต่ละปีเซเว่นอีเลฟเว่นเติบโต 8-9% แต่แนวโน้มจำนวนการเปิดสาขาลดลง ทั้งในไทยและต่างประเทศ” เป็นคำให้สัมภาษณ์ล่าสุดของผู้บริหารเซเว่น นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งกล่าวถึงผลกระทบต่อร้านเซเว่น จากการค้าออนไลน์ที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น

ผู้บริหารซีพี ออลล์ ยังกล่าวด้วยว่า รูปแบบค้าปลีกขนาดใหญ่อย่างซูเปอร์มาร์เก็ต ได้รับผลกระทบสูงจากพฤติกรรมลูกค้าซื้อสินค้าและบริการทางออนไลน์มากขึ้น โดยในปี 2560 มีสัดส่วน 13.7% เพิ่มเป็น 24.48% ปี 2561 อัตราการซื้อครั้งละกว่า 1,100 บาท เป็นเทรนด์ที่น่าจับตา

พร้อมยอมรับว่าแนวโน้มร้านสะดวกซื้อทั่วโลกเริ่มชะลอตัว แต่ถึงกระนั้น แผนขยายร้านเซเว่นในไทยก็ยังคงเดินหน้า ด้วยสถานะประเทศที่มีร้านสาขามากเป็นอันดับสองของโลก! โดยรองเพียงญี่ปุ่นเท่านั้น ขณะที่ร้านเซเว่นประเทศอื่นในอาเซียนด้วยกันก็ไม่ได้เติบโตมากเท่านี้

หนำซ้ำในบางประเทศ อย่าง อินโดนีเซีย ธุรกิจร้านเซเว่นล้มไม่เป็นท่า ต้องปิดตัวลงเมื่อสิ้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากเปิดดำเนินการมาได้เพียง 8 ปี มีจำนวนร้านสาขา 161 แห่ง ขาดทุนหนักถึง 1,710 ล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว

สำหรับประเทศไทย ซีพี ออลล์ บริหารร้านเซเว่น นอกจากรูปแบบการจำหน่ายสินค้าอาหารและบริการ ยังได้ปรับคอนเซ็ปท์การขายจากร้านสะดวกซื้อมาเป็น “ร้านอิ่มสะดวก” เน้นขายอาหารพร้อมรับประทานมากขึ้น ด้วยสโลแกน “หิวเมื่อไรก็แวะมา” ที่ยังคงใช้สื่อสารในตลาดปัจจุบัน

แตกไลน์ธุรกิจเสริม “จ่ายบิลล์-ขายประกัน”

นอกจากนี้ร้านเซเว่นในไทย ยังขยายบริการที่หลากหลาย ทั้งบริการทางการเงิน ที่มีเคาน์เตอร์เซอร์วิสรับชำระค่าบริการต่างๆ ซึ่งปัจจุบันน่าจะได้รับผลกระทบจากระบบโมไบล์แบงกิ้ง ที่ให้บริการชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้รวดเร็ว สะดวกสบายผ่านโทรศัพท์มือถือ และเสียค่าธรรมเนียมน้อยกว่า หรือไม่เสียค่าธรรมเนียมเลยในบางธุรกรรม ในขณะที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส คิดค่าบริการชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ 15 บาท/รายการ

แต่เคาน์เตอร์เซอร์วิส ก็ยังมีบริการขายบัตรการแสดงต่างๆ ทั้งคอนเสิร์ต ละครเวที เป็นอีกบริการที่ใช้ช่องทางร้านเซเว่น ในการเข้าถึงลูกค้า ซึ่งยังคงให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง

เซเว่นซีไอเอ็มบี
สาขาธนาคารซีไอเอ็มบีในร้านเซเว่น

เมื่อไม่นานมานี้ ร้านเซเว่น ไทยก็มีบริการใหม่ เป็นบริการทางการเงิน โดยธนาคารซีไอเอ็มบีไทย รุกเข้าไปเปิดสาขาธนาคารย่อย ที่ร้านเซเว่นโดยเปิดบริการเงินฝาก เปิดบัญชี ขอสินเชื่อ เริ่มทดลองที่สาขาสีตบุตร เป็นที่แรก เป็นการรุกเข้าหาลูกค้ารายย่อยของธนาคาร ในขณะเดียวกันก็เป็นการเพิ่มจุดขายให้กับร้านเซเว่นไปพร้อมกัน

นอกจากนี้หลายคนอาจเคยใช้บริการ ซื้อประกันภัยผ่านร้านเซเว่น ซึ่งมีประกันจำหน่ายหลากหลายพอสมควร เช่น ประกันอุบัติเหตุ ได้แก่ ทิพย์ชดเชยทัวร์ เบี้ย 599 บาท/ปี, ประกันอุบัติเหตุ ซุปเปอร์พีเอ เบี้ย 999 บาท/ปี จาก FWD ประกันชีวิต, ประกันอุบัติเหตุห่วงใย เบี้ย 690 บาท/ปี จากกรุงเทพประกันภัย, ประกันอุบัติเหตุเบี้ย 30 บาท คุ้มครอง 30 วัน จาก Generali, ประกันภัย 200 บาท/ปี (มีให้เลือก 5 บริษัท)

ประกันเซเว่น
ขายประกันในร้านเซเว่น

ประกันเดินทาง ได้แก่ เที่ยวเมืองไทย เบี้ย 120-200 บาท/ทริป จากเมืองไทยประกันภัย, ประกันภัยการเดินทางต่างประเทศ เริ่มต้น 177 บาท/ทริป จากกรุงเทพประกันภัย, ประกันมะเร็ง ได้แก่ ไทยวิวัฒน์มะเร็งใจป้ำ เบี้ย 711 บาท/ปี, ประกันมอเตอร์ไซด์ ได้แก่ ประกันภัยมอเตอร์ไซด์สุดคุ้ม เบี้ย 550 บาท/ปี จากเมืองไทยประกันภัย, ประกันชีวิต ได้แก่ เมืองไทยสุดคุ้ม เบี้ย 1,000 บาท/ปี และ เมืองไทยยิ้มแฉ่ง 500 บาท/เดือน จากเมืองไทยประกันชีวิต, เอไอเอ หยอดกระปุก เบี้ย 6,000 บาท/ปี จากเอไอเอ, ประกันรถยนต์ ได้แก่ ปลอบใจคนชน เบี้ย 750 บาท/ปี จากกรุงเทพประกันภัย

Azus 7eleven
พันมิตรล่าสุด เอซุส รับ-ส่งซ่อมผ่านรานเซเว่น

นอกจากขายประกันแล้ว เมื่อต้นปี 2561 เซเว่นยังได้ตกลงร่วมมือกับ บริษัท เอซุส มาร์เก็ตติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของแบรนด์สมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ค ASUS และ ROG เพิ่มจุดบริการรับ-ส่งซ่อมสินค้าผ่านร้านเซเว่น ในไทยซึ่งมีสาขามากกว่าหนึ่งหมื่นแห่งในปัจจุบัน

จับตาธุรกิจใหม่ “การเงิน-สุขภาพ”

ล่าสุดบมจ.ซีพี ออลล์ ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ได้ทำการก่อตั้งบริษัทใหม่ คือ บริษัท ออลล์ เวลเนส จํากัด (ALL Wellness Co., Ltd.) เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพชุมชนด้วยนวัตกรรมดิจิทัล แต่ผู้บริหารซีพี ออลล์ ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด คาดว่าจะเป็นอีกแขนงธุรกิจที่ใช้ร้านเซเว่นเป็นช่องทางการให้บริการ

นอกจากนี้ สำนักข่าวนิกเกอิ เอเชียน รีวิว ได้นำเสนอรายงานข่าวว่า ซีอีโอ ซีพี ออลล์ ผู้ดำเนินการร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่นในประเทศไทย ประกาศเตรียมเพิ่มบริการทางการเงิน โดยตั้งตัวเป็นตัวแทนธนาคารพาณิชย์ ในกว่า 1 หมื่นสาขาร้านสะดวกซื้อเซเว่น ทั่วประเทศไทย

บริการการเงินดังกล่าว สอดคล้องกับความเคลื่อนไหวเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ได้แก้ไขข้อกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์สามารถแต่งตั้งนิติบุคคลหรือบรรษัท เป็นตัวแทนในการทำธุรกรรมทางการเงิน เช่น การฝาก ถอน โอนเงิน และโอนเช็คได้ จากที่ก่อนหน้านี้ สามารถแต่งตั้งได้เพียงสถาบันการเงินหรือไปรษณีย์ไทยเท่านั้น

ผู้บริหารซีพี ออลล์ กล่าวว่า ร้านเซเว่นเตรียมเป็นตัวแทนของ 1-2 ธนาคารพาณิชย์ ในการดำเนินการธุรกรรมทางการเงิน โดยผู้ใช้บริการจะสามารถถอนเงินได้วันละไม่เกิน 20,000 บาท แต่จะยังไม่ให้บริการเงินกู้ ซึ่งบริการนี้ผู้บริหารซีพี ออลล์ ชี้แจงว่ามีขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่อยู่ห่างไกล มีโอกาสทำธุรกรรมการเงินได้สะดวกขึ้น

การขยายบริการใหม่ๆ ของร้านเซเว่น เปรียบเหมือนการเพิ่มทางเลือกบริการ ให้ร้านเซเว่นมีความหลากหลาย มีความพร้อม และกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจไปควบคู่กัน ในขณะที่เทรนด์ร้านสะดวกซื้อทั่วโลกกำลังชะลอตัว ซึ่งก็สอดคล้องกับผลประกอบการล่าสุดของซีพี ออลล์ ที่เริ่มเห็นการเติบโตที่ลดลง

ผลประกอบการไตรมาส 2 โตต่ำเป้า

หากดูภาพรวมบมจ.ซีพี ออลล์ จากผลประกอบการจะเห็นว่ายังคงเติบโต แต่ในรายงานงบไตรมาส 2/2561 มีกำไร 4,779.17 ล้านบาท เติบโตเพียง 2.8% เท่านั้น จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ทำได้ 4,647.18 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจาก ค่าใช้จ่ายในการบริหารรวม และต้นทุนจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น  8.1% ซึ่งมาจากค่าใช้จ่ายในการขยายสาขา ร้านเซเว่นในประเทศ รวมถึงได้รับผลกระทบจากการปรับค่าแรงขั้นต่ำ ที่บังคับใช้ตั้งแต่ 1 เมษายน 2561

จากผลประกอบการดังกล่าว บล.เคทีบี ได้ปรับประมาณกำไรสุทธิ ซีพี ออลล์ ปีนี้ลงทันทีเหลือ 2.24 หมื่นล้านบาท ลดลง 6% จากเป้าหมายเดิมที่ 2.39 หมื่นล้านบาท และปรับลดอัตรากำไรขั้นต้นเหลือ 22% จากเดิม 22.4% จากการขายสินค้ากำไรสุทธิต่ำเพิ่มขึ้น เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บัตรเกมส์ออนไลน์ และไตรมาส 3/61 เข้าสู่โลว์ซีซั่นเนื่องจากเป็นฤดูฝน แต่ก็คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงปลายปี

ด้านบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ประเมินว่า ซีพี ออลล์ยังมีแนวโน้มการเติบโตระยะยาวอยู่ จากการเป็นผู้นำตลาดธุรกิจร้านสะดวกซื้อ แต่จะเติบโตในอัตราที่ลดลง โดยยังคงเป้าหมายการขยายสาขา ร้านเซเว่นให้ครบ 13,000 แห่งภายในปี 2564 หรือเปิดสาขาเพิ่ม 700 แห่ง/ปี

ซีพี ออลล์ยังมีแนวโน้มเติบโตระยะยาว จากการเป็นผู้นำร้านสะดวกซื้อ แต่จะเติบโตในอัตราที่ลดลง

ขณะที่บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ปรับลดประมาณการ ผลดำเนินงานบมจ.ซีพี ออลล์ปี 2561 และปี 2562 ลง 4% และ 6% ตามลำดับ จากงบไตรมาส 2/61 ที่ออกมาต่ำกว่าคาด และประเมินผลประกอบการในไตรมาส 3/61 จะเติบโตอย่างไม่น่าตื่นเต้นคล้ายกับในช่วงไตรมาส 2/61 แม้ในไตรมาส 4/61 จะมีโอกาสกลับมาสดใสขึ้นก็ตาม

ข้อมูลเหล่านี้สะท้อนภาพรวมธุรกิจร้านสะดวกซื้อแบรนด์ดัง แม้จะเป็นเจ้าตลาดมีสาขามากว่า 1 หมื่นแห่ง แต่ก็ต้องรับความเสี่ยงจากแนวโน้มธุรกิจที่ชะลอตัว ซึ่งเป็นเทรนด์ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยด้วย

ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในไทยจะขยายได้ตามเป้าหมาย 13,000 สาขาในปี 2564 ได้หรือไม่คงต้องจับตา! เพราะคู่แข่งสำคัญ “ธุรกิจออนไลน์” นั้น มาแรงทั้งการจำหน่ายสินค้า-บริการ ที่เข้าถึงด้วยเทคโนโลยีได้สะดวกรวดเร็ว เสริฟถึงมือผู้บริโภคได้ทุกที่ทุกเวลาในต้นทุนที่ต่ำกว่า!

ส่วนบริการเสริมหลากหลาย ที่ร้านเซเว่นในประเทศไทยขยายออกมารองรับ จะเป็นแม่เหล็กที่มีแรงดึงดูมากพอ ที่จะดึงคนเข้าร้านได้อยางต่อเนื่อง และจับจ่ายเหมือนในอดีตที่ผ่านมาได้หรือไม่ อีก 2-3 ปีคงมีคำตอบที่ชัดเจน

 

Avatar photo