สหรัฐพบผู้รับ วัคซีนโควิด-19 “ไฟเซอร์ -ไบโอเอ็นเทค” มีผลข้างเคียงกว่า 4 พันราย ในจำนวนนี้ 21 รายแพ้รุนแรงเฉียบพลัน
วานนี้ (6 ม.ค. 64) ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งสหรัฐ (CDC) รายงานพบเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์หลังการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค (Pfizer-BioNTech) ของผู้เข้ารับวัคซีนเกือบ 4,400 ราย เมื่อนับถึงวันที่ 23 ธันวาคม 2563 โดยมี 21 ราย ยืนยันว่ามีอาการภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลัน
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) ได้ประกาศอนุมัติการใช้งาน วัคซีนโควิด-19 ของ ไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคในกรณีฉุกเฉินเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2563 ซึ่งแบ่งฉีดเป็น 2 โดส ห่างกัน 21 วัน โดยมีผู้เข้ารับวัคซีนโดสแรกแล้ว 1,893,360 คน เมื่อนับถึงวันที่ 23 ธันวาคม 2563
หลังจากนั้นระบบรายงานเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์จากวัคซีน (VAERS) ของสหรัฐ ได้รับแจ้งเหตุจากผู้เข้ารับวัคซีนของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค รวม 4,393 ราย โดยในจำนวนนี้ 175 ราย จะได้รับการตรวจสอบเพิ่มเติมว่าอาจมีโอกาสเกิดอาการแพ้ขั้นรุนแรง ซึ่งรวมถึงอาการภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลัน
ขณะที่ผู้เข้ารับวัคซีนอีก 21 ราย ได้รับการยืนยันแล้วว่ามีอาการภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลัน ซึ่งรวมถึง 17 รายที่มีประวัติการแพ้หรืออาการแพ้ โดย 7 จาก 17 รายนี้เคยมีประวัติอาการภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลันอยู่แล้ว
ศูนย์ฯ ชี้ว่าอาการภูมิแพ้รุนแรงเฉียบพลันเป็นอาการแพ้ที่อันตรายถึงชีวิต ซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนักหลังการฉีดวัคซีน โดยปกติแล้วจะเริ่มมีอาการภายในไม่กี่นาทีถึงชั่วโมง
ทั้งนี้ ศูนย์ฯ เรียกร้องสถานฉีดวัคซีนป้องกันโรค โควิด-19 ปฏิบัติตามคำแนะนำการใช้วัคซีนอย่างเคร่งครัด ซึ่งรวมถึงการตรวจคัดกรองประวัติผู้เข้ารับวัคซีน จัดหาอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับรักษาอาการภูมิแพ้ สังเกตอาการหลังฉีดวัคซีนตามระยะเวลาที่แนะนำ และรักษาผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นภูมิแพ้ทันทีโดยการฉีดอะดรีนาลีนเข้ากล้ามเนื้อ
คาด “โควิด-19 กลายพันธุ์” แพร่ปลายปี 63
นอกจากนี้ ล่าสุดเว็บไซต์ บิสซิเนส อินไซเดอร์ (Business Insider) เผยแพร่บทความที่ระบุความเป็นไปได้ว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ ซึ่งถูกตรวจพบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร อาจวนเวียนอยู่ในสหรัฐ ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 โดยปัจจุบันเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ถูกตรวจพบได้ในทุกรัฐของสหรัฐแล้ว
รายงานระบุว่า สหรัฐพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์มากกว่า 30 ราย ใน 5 รัฐ ได้แก่ แคลิฟอร์เนีย โคโลราโด ฟลอริดา จอร์เจีย และนิวยอร์ก “มีความเป็นไปได้ว่าเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ เข้ามาในสหรัฐอย่างเงียบงันหลายสัปดาห์ก่อนพบผู้ติดเชื้อ”
บทความอ้างอิงคำกล่าวของชาร์ลส์ ชิว ศาสตราจารย์ด้านโรคติดต่อ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ระบุว่าเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ “หมุนเวียนอยู่ในชุมชนของเราแล้ว” เนื่องจากบรรดาผู้ติดเชื้อไม่มีประวัติเดินทางไปยังต่างประเทศในระยะเวลาอันใกล้
ชิวกล่าวว่าเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ วนเวียนอยู่ในสหรัฐ “ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมหรือหลังจากนั้นไม่นาน” และ “เป็นไปได้สูงว่าระบาดอยู่ในทุกรัฐแล้ว” โดยเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์นี้ “ไม่น่าจะ” เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ยอดผู้ป่วยโรค โควิด-19 ในประเทศพุ่งสูงในช่วงที่ผ่านมา
“ไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าเชื้อไวรัสฯ ตัวนี้แพร่ระบาดเป็นวงกว้าง อย่างน้อยก็ในปัจจุบัน แต่เชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ มีอัตราการแพร่ระบาดสูงขึ้นจริง และสัดส่วนผู้ติดเชื้อจากเชื้อตัวนี้อาจเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต”
เมื่อสัปดาห์ก่อน ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ ระบุว่าแม้เชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ จะไม่ก่อให้เกิดอาการป่วยร้ายแรงกว่าโรคโควิด-19 ปกติ หรือส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของวัคซีน แต่อาจทำให้จำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก
อนึ่ง มหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ ระบุว่า สหรัฐมีผู้ป่วยโรค โควิด-19 สะสมทะลุ 21 ล้านราย และผู้ป่วยเสียชีวิตกว่า 357,000 ราย เมื่อนับถึงช่วงเช้าวันที่ 6 มกราคม 2564
สำหรับสถานการณ์ โควิด-19 วันนี้ 7 มกราคม 2564 นับถึงเวลา 09.00 น. ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ 87,635,503 คน รักษาตัวหายแล้ว 63,127,959 คน และมียอดสะสมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 1,890,786 ราย
ที่มีสำนักข่าวซินหัว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- คาด ‘เศรษฐกิจโลก’ ขยายตัว 4% เงื่อนไขวัคซีนโควิด-19 พร้อมใช้วงกว้าง
- ‘นักข่าว’ ดับจากโควิด-19 เฉลี่ยวันละ 2 คน เรียกร้องฉีดวัคซีนเป็นกลุ่มแรกๆ
- โปรตุเกสเร่งสอบ หญิงฉีดวัคซีนต้านโควิด 2 วัน ดับกะทันหัน