โลกโซเชียลแห่ชื่นชม นายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ ใช้ที่ดินและอาคารที่เตรียมไว้สร้างโรงงาน มาสร้างโรงพยาบาลสนาม 1,000 เตียงแทน เพื่อคนสมุทรสาครด้วยกัน
ชาวโซเชียล แห่ชื่นชม นายวัฒนา แตงมณี นายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ พันท้ายนรสิงห์ หลังจากมอบที่ดิน 8 ไร่ ที่เตรียมไว้สร้างโรงงาน เปลี่ยนมาสร้างโรงพยาบาลสนาม ศูนย์หวงใยคนสาคร แห่งที่ 3 ที่วัฒนาแฟคตอรี่ ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยใช้เงินลงทุน 5 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากเพื่อนร่วมกันลงทุน เพื่อช่วยชาวสมุทรสาคร
นายวัฒนา กล่าวว่า จะขอสร้าง ศูนย์ห่วงใยคนสาคร แห่งนี้ขึ้น โดยใช้ที่ดินของตัวเองจำนวน 8 ไร่ สร้างโรงพยาบาลสนาม จำนวน 1,000 เตียง รองรับผู้ป่วยโควิด ใช้งบประมาณ 5 ล้านบาท ร่วมกับเพื่อนๆช่วยกันลงขัน โดยไม่ต้องการรับบริจาค เพราะจะกลายเป็นว่ามีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง หาผลประโยชน์ใส่ตัว
ทั้งนี้ จากการที่ จังหวัดสมุทรสาคร เกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ทำให้มีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก และทางจังหวัดสมุทรสาคร มีความประสงค์ในการจัดหาสถานที่ เพื่อสร้างโรงพยาบาลสนาม (ศูนย์ห่วงใยคนสาคร) ตนเองในฐานะผู้ประกอบการที่มีอาคารโกดังโรงงานสร้างใหม่ และอยู่ในพื้นที่ ๆ มีความเหมาะสม ปลอดภัยต่อชุมชน จึงได้มอบอาคารโกดังโรงงานให้กับทางจังหวัดสมุทรสาครจำนวน 2 หลัง เพื่อสร้างเป็นโรงพยาบาลสนามฯ รองรับผู้ติดเชื้อโควิด 19 เข้ามาไว้ในพื้นที่ โดยไม่มีการคิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใดทั้งสิ้น
นอกจากโกดัง 2 หลังนี้แล้ว ตนจะเร่งสร้างโรงพยาบาลสนาม บนเนื้อที่ 8 ไร่ ภายในโครงการวัฒนาแฟคตอรี่ เพื่อรองรับผู้ติดเชื้ออีก 1,000 เตียง โดยใช้ทั้งเงินส่วนตัว และส่วนหนึ่งก็ได้รับการสนับสนุนมาจากเพื่อนๆ ผู้ใจบุญใจกุศล และมูลนิธิฯ ต่างๆ ที่มีส่วนร่วมในการสร้างโรงพยาบาลสนาม 1,000 เตียงนี้ด้วย
พร้อมกันนี้ ยังได้ความร่วมมือจาก พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขานุการ สภาความมั่นคงแห่งชาติ จัดกำลังคนมาช่วยดำเนินการ สร้างโรงพยาบาลสนาม 1,000 เตียง ซึ่งก็ได้เร่งทำงานกันตลอด 24 ชั่วโมง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 10 วันข้างหน้า โดยขณะนี้ได้มีการออกแบบเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย และอยู่ระหว่างการปรับหน้าดิน ก่อนที่จะดำเนินการก่อสร้างตามแบบแปลนที่วางไว้ และหาก
“การทำครั้งนี้ ทำด้วยหัวใจ ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง เพื่อช่วยคนสมุทรสาครด้วยกัน ไม่ต้องไปหาสถานที่อื่นหรือจังหวัดอื่น และต้องมาคอยสร้างความลำบากใจหรืออธิบายให้ชาวบ้านเข้าใจซึ่งเป็นเรื่องยาก ขอสร้างในที่ดินของตัวเอง เงินจากเพื่อนฝูงเจ้าของธุรกิจ เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของคนสมุทรสาครกลับคืนมา” นายวัฒนา กล่าว
นายวัฒนากล่าวอีกว่า ในวันนี้ พี่น้องชาวจังหวัดสมุทรสาคร ต้องหันมาร่วมมือกัน ในการแก้ไขสถานการณ์โควิด ซึ่งหากโรงพยาบาลสนาม 1,000 เตียง ไม่เพียงพอต่อการรองรับผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้น ก็ยินดีที่จะสร้างเพิ่มให้อีก หรือถ้าจะต้องสร้างจนเต็มพื้นที่ 100 ไร่ที่เหลืออยู่นี้ ก็ยินดี เพื่อให้จังหวัดสมุทรสาครมีที่รองรับผู้ติดเชื้อโควิด 19
สำหรับความคืบหน้าในการก่อสร้างนั้น ในส่วนของโกดัง 2 หลัง ล่าสุด ได้นำเตียงนอนมาลงในพื้นที่เต็มอัตรา 140 เตียง พร้อมกับเครื่องนอน หมอน ผ้าห่ม ส่วนห้องสุขา ห้องอาบน้ำ ก็ได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คงเหลือแต่การจัดพื้นที่สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ ที่จะเข้ามาดูแลผู้ติดเชื้อภายในศูนย์ห่วงใยคนสาครแห่งที่ 3 นี้
หลังจากที่การจัดระบบที่นอนภายในเรียบร้อย ต่อไปบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฯ ก็จะเข้ามาดำเนินการในเรื่องของการวางระบบ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้เพื่อการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อ ซึ่งที่ศูนย์ห่วงใยคนสาครแห่งที่ 3 นี้ จะมีแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) จำกัด เป็นผู้รับผิดชอบ โดยคาดว่าอีก 1 – 2 วันนี้ จะสามารถนำผู้ติดเชื้อโควิด 19 จากในชุมชนเข้ามากักตัวได้ โดย 2 โกดังสามารถรองรับได้ 280 – 300 คน
“ผมไม่ได้ทำเพื่อใคร ผมทำเพื่อคนสมุทรสาคร แล้วผมก็ทำเพื่อคน ต.พันท้ายนรสิงห์ ถ้าคน ต.พันท้ายนรสิงห์ ติดโควิด-19 มารับเงินที่ผมเลย ผมจ่ายเอง 500,000 บาท เพราะผมถือว่าเค้าเป็นผู้เสียสละเพื่อสมุทรสาครพร้อมไปกับผม” นายวัฒนา กล่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สั่ง ‘พื้นที่ควบคุมสูงสุด’ ตั้งด่านคัดกรอง ถ้ายอดโควิด-19 พุ่งผุดโรงพยาบาลสนาม
- ทำความรู้จัก ‘Hospitel’ ข้อแตกต่างจาก ‘โรงพยาบาลสนาม’ แต่สำคัญทั้งคู่
- เปิดภาพ ‘โรงพยาบาลสนาม’ ตลาดกลางกุ้ง สมุทรสาคร กู้วิกฤติพื้นที่สีแดง