COVID-19

ราชกิจจา ประกาศยาแรงต้านโควิด ‘เปิดบ่อน แจ้งไทม์ไลน์เท็จ’ เจอโทษหนัก!

ยาแรงต้านโควิด จัดเต็มมาตรการเข้มข้น ให้ติดตั้งแอป “หมอชนะ” เดินทาง 5 จังหวัดสีแดงเข้ม ต้องมีเอกสารรับรอง จัดลงโทษหนักเปิดบ่อน แจ้งไทม์ไลน์ปลอม

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ประกาศ ยาแรงต้านโควิด โดยเผยแพร่ ข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 17) โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สรุปใจความสำคัญ ได้ว่า

ยาแรงต้านโควิด

ข้อ 1 การยกระดับการบังคับใช้มาตรการป้องกันโรค

ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ และผู้รับผิดชอบดูแลสถานที่กิจกรรม หรือกิจการต่าง ๆ ดำเนินการเพื่อให้ผู้ใช้บริการ ผู้เดินทาง และประชาชนทั่วไป ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัดด้วย การรักษาระยะห่าง การสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย การล้างมือ การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และการติดตั้งระบบ แอปพลิเคชัน ที่กำหนด ตลอดจนยอมรับการกักกันตนตามระยะเวลา และในสถานที่ที่กำหนด หากอยู่ในข่ายที่ต้องรับการกักกัน

รัฐบาลสนับสนุนให้ประชาชน ติดตั้งและใช้ระบบแอปพลิเคชั่น หมอชนะ ซึ่งเป็นการพัฒนาและประสานความร่วมมือ ระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐ โดย กรมควบคุมโรค และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ซึ่งประชาชนจะได้ประโยชน์ จากการได้รับแจ้งข้อมูล ข้อแนะนำการปฏิบัติตน หรือคำเตือน เพื่อลดความเสี่ยง หรือเลี่ยงจากการติดเชื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บุคคลที่อยู่ในเขตพื้นที่สถานการณ์ ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด เพื่อให้การดำเนินการสอบสวนโรค และการเฝ้าระวัง เป็นไปด้วยความรวดเร็วควบคู่กับการใช้แอปพลิเคชั่นไทยชนะ เพื่อให้การดำเนินการเกิดผลสัมฤทธิด้วยดี

ราชกิจจา1

ข้อ 2 การยกระดับพื้นที่ควบคุมสูงสุด ที่จำเป็นต้องมีมาตรการเข้มงวดอย่างยิ่ง

ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ และควบคุมการใช้เส้นทางคมนาคม หรือการใช้ยานพาหนะของประชาชน ในการเดินทางเข้าออก เขตพื้นที่สถานการณ์ ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดของโรคเพิ่มขึ้น ได้แก่ จังหวัดจันทบุรี ชลบุรี ตราด ระยอง และสมุทรสาคร เพื่อสกัดและยับยั้ง การระบาดของโรค อย่างรวดเร็วและเด็ดขาด โดยให้ตั้งจุดตรวจ หรือจุดสกัด เพื่อคัดกรองการเดินทางเข้าออกพื้นที่อย่างเข้มข้น และให้ผู้ที่อยู่ในเขตพื้นที่ดังกล่าว ติดตั้งและใช้ระบบ หมอชนะ

บุคคลที่ประสงค์จะเดินทาง ออกนอกพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ต้องแสดงเหตุผลความจำเป็น โดยแสดงบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรแสดงตนอื่น ๆ ควบคู่กับ เอกสารรับรองความจำเป็น ที่ออกโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ เว้นแต่บุคคลซึ่งได้รับการยกเว้น

ราชกิจจา2

ข้อ 3 การปราบปรามและลงโทษผู้กระทำผิด อันเป็นเหตุให้เกิดการระบาดของโรค

รัฐบาลมีเจตจำนงที่ชัดเจนและเด็ดขาด ในการดำเนินการปราบปราม และลงโทษพนักงานเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมทั้งบุคคลใดก็ตาม ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ ขบวนการลักลอบขนย้ายแรงงานต่างประเทศ โดยมิได้ผ่านกระบวนการตรวจสอบ การคัดกรองโรค และการประกันตัว ตามมาตรฐานทางสาธารณสุข

รวมทั้งการปล่อยปละละเลย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เลือกอำนวย หรือสมรู้ร่วมคิด ให้มีการเปิดบ่อนการพนันขึ้นในพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งเป็นต้นตอของการระบาดของโรคแบบกลุ่มก้อน จนส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ซึ่งได้สั่งการ และกำชับ ให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ เร่งตรวจสอบ เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินการลงโทษ ตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว รวมทั้งจะได้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อกำกับดูแลการดำเนินการ และเสนอมาตรการป้องกัน มิให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวนี้อีกต่อไป

ให้ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง หน่วยงานความมั่นคง และเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบปฏิบัติการ กวดขันสอดส่องและเฝ้าระวัง เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย รวมถึงการเปิดให้มีการมั่วสุมลักลอบเล่นการพนัน ซึ่งเป็นต้นเหตุแห่งการระบาดของโรคในครั้งนี้ และให้ดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย ทั้งทางวินัยและทางอาญาต่อไป

รัฐบาลสนับสนุนการมีส่วนร่วมตรวจสอบของภาคประชาชน หากพบเห็นการกระทำ หรือการปล่อยป่าละเว้นการกระทำ ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมาย และส่งผลกระทบ เป็นเหตุที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคอย่างรุนแรง สามารถแจ้งเบาะแสมาที่นายกรัฐมนตรีผ่านศูนย์บริหาร สถานการณ์ covid-19 ทำเนียบรัฐบาล

ราชกิจจา3

ข้อ 4 โทษ

ผู้ฝ่าฝืนข้อกำหนด ซึ่งออกตามมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ย่อมเป็นความผิดซึ่งอาจต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ผู้ติดเชื้อที่จงใจปกปิดข้อมูลการเดินทาง หรือแจ้งข้อมูลเท็จ ต่อเจ้าหน้าที่ เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการสอบสวน และควบคุมโรค เป็นผลให้เชื้อโรคแพร่ออกไป อาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ. ศ. 2558 ด้วย

ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม 2560 เป็นต้นไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

 

Avatar photo