COLUMNISTS

ภาพสเก๊ตช์เศรษฐกิจปีหน้า

Avatar photo
จิตติศักดิ์ นันทพานิช จุดตัดความคิด
584

เศรษฐกิจเข้าโหมดคาดการณ์แนวโน้ม ปีหน้า 2562 กันแล้ว สัปดาห์ที่ผ่านมา กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เผยแพร่รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ประจำเดือนตุลาคม 2561 โดยปรับคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปีนี้ถึงปีหน้าลง จากเดิมการณ์ไว้ 3.9% ลดลงเหลือ 3.7%

000 U43AI
โดนัลด์ ทรัมป์ – สี จิ้นผิง

ไอเอ็มเอฟให้น้ำหนักสงครามการค้าโลกที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐจุดชนวนขึ้นมา เป็นปัจจัยฉุดสำคัญ รวมไปถึง ปัญหาหนี้ของอาร์เจนตินา กับตุรกี รวมทั้งการขยับขึ้นดอกเบี้ยของประเทศเศรษฐกิจก้าวหน้า ที่ทำให้ทุนไหลออกจากประเทศตลาดใหม่ ซึ่งล้วนมีผลต่อความเป็นไปของเศรษฐกิจปีหน้าทั้งสิ้น

ข้อความที่ไอเอ็มเอฟเหมือนต้องการขีดเส้นใต้เน้นคือ หากศึกระหว่างสหรัฐกับจีน ยืดเยื้อต่อเนื่องไปอีก 2 ปี เศรษฐกิจโลกจะหายไป 0.08% รวมทั้งจะกัดกร่อน เศรษฐกิจของคู่กรณี คือทั้งจีนและสหรัฐตามไปด้วย

พร้อมกันนั้น ไอเอ็มเอฟยังได้จัดแถวคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้ และปีหน้าของประเทศต่างๆ ใหม่ยกแผง สองประเทศคู่กรณี จีน ปีนี้ไอเอ็มเอฟ คงตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจไว้ 6.6% แต่ปีหน้า 2562 ปรับคาดการณ์เศรษฐกิจจีนลงเหลือ 6.2 % (เดิม 6.4 %) ส่วนสหรัฐปีนี้ 2.9% ปีหน้า 2.5% (เดิม 2.7%)

ส่วนอาเซียน ไอเอ็มเอฟคาดการณ์เศรษฐกิจทั้งภูมิภาคขยายตัว 5.3 % โดยปรับคาดการณ์เศรษฐกิจไทยเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ จาก 3.9 % เป็น 4.6% ส่วนปีหน้า 3.9% (เดิม 3.8%)

สำหรับชาติสมาชิกร่วมประชาคม อาทิ เวียดนาม เศรษฐกิจยังร้อนแรง ฟิลิปปินส์ เศรษฐกิจแผ่วลงเล็กน้อย ตัวเลขคาดการณ์ปีนี้ถูกปรับลดลงเหลือ 6.5% (เดิม 6.7% ) จากเหตุภัยพิบัติ เช่นเดียวกับมาเลเซียที่คาดการณ์เศรษฐกิจถูกปรับเหลือ 4.7% (เดิม 5.3 %) เนื่องจาก การชะลอการลงทุนโครงการรถไฟมาเลย์-จีน ของ นายกฯ มหาธีร์ โมฮัมหมัด

don ธปท.
ดอน นาครทรรพ

สำหรับผลกระทบจากสงครามการค้า ต่อเศรษฐกิจไทยนั้น  ดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโสเศรษฐกิจมหภาพ แบงก์ชาติ ให้ภาพว่า หากปีหน้าเศรษฐกิจจีนยังขยายตัวมากกว่า 6 % ยังไม่มีอะไรน่ากังวล แต่คงมีผลกระทบกับ “ทัวร์จีน” บ้าง

ดร.สมคิด จาตุรีศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ประเมินว่า สงครามการจะยืดเยื้อไม่น้อยกว่า 2-3 ปี และจะกระทบกับเศรษฐกิจภาพใหญ่ของจีน และไทย ทางออกของเศรษฐกิจไทย คือเร่งขยายเศรษฐกิจภายในเพื่อลดผลกระทบ

ผลกระทบที่รองนายกฯ กล่าวถึง คงหมายถึงผลต่อภาคส่งออก รวมทั้งอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีความเสี่ยงรับลูกหลงจากสงครามการค้า ถ้าเศรษฐกิจจีนหดตัว อารมณ์จับจ่าย รวมถึงการท่องเที่ยวเดินทาง ก็ลดลง “ทัวร์จีน” เป็นลูกค้ารายใหญ่ของไทยมาหลายปี หากหายไปกระทบเศรษฐกิจปีหน้าแน่นอน

ข้อมูลแบงก์ชาติระบุว่า ถ้านักท่องเที่ยวจีนหายไป 1 ล้านคน เศรษฐกิจไทยจะหายไปราว 0.4 % ซึ่งเป็นการยืนยันว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยว และทัวร์จีน มีความสำคัญกับเศรษฐกิจไทยอย่างไร

นอกจากนี้มุมมองทางการเมืองที่ว่า หลังการเลือกตั้งเศรษฐกิจจะดีกว่านี้ไม่จริงเสมอไป เพราะหากการเมืองหลังการเลือกตั้ง วนกลับไปที่จุดเดิม เหมือนช่วงหลายปีก่อนหน้า คำถามก็จะหมุนกลับไปตั้งต้นที่จุดเดิมอีกเช่นกัน คือ เศรษฐกิจต้องรอความชัดเจนทางการเมืองก่อนจึงจะเริ่มขับเคลื่อนได้

การคาดการณ์ข้างต้นเปรียบเหมือน ภาพสเก๊ตช์เศรษฐกิจปีหน้า ส่วนภาพจริงจะออกมาอย่างไรนั้น ต้องรอตอนลงสีว่าจะทำให้เจิดจ้า กว่าที่ประเมินกันไว้ได้หรือไม่