ไทยยูเนี่ยน ตรวจโควิด พนักงานในโรงงานสมุทรสาครที่มีกว่า 27,000 คน ล่าสุดตรวจแล้ว 23,630 คน พบติดเชื้อโควิด-19 รวม 69 คน ลั่นไล่ตรวจครบทุกคน สัปดาห์หน้า
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ไทยยูเนี่ยน ได้เร่งตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับพนักงานบริษัทฯ ทุกคน ในโรงงานทุกแห่งของบริษัท ในจังหวัดสมุทรสาคร ที่มีปฏิบัติงานอยู่ทั้งหมด 27,552 คน โดยจะตรวจให้ครบทุกคน ภายในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ จนถึงวันที่ 5 มกราคม 2564 พนักงานไทยยูเนี่ยนจำนวน 23,630 คน หรือมากกว่า 85% ได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้ว และได้รับผลการตรวจยืนยันโดยวิธี PCR พบว่า มีพนักงานที่ติดเชื้อ 69 คน หรือคิดเป็น 0.29% จากพนักงานที่เข้ารับการตรวจโควิด โดยบริษัทได้ทำการแยกพนักงานกลุ่มดังกล่าว เพื่อกักตัว และส่งรักษากับทางภาครัฐต่อไป หากมีอาการใด ๆ
นายธีรพงศ์ ย้ำว่า พนักงานทุกคน จะได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และจะได้รับการดูแลอย่างดี โดยไม่จำกัด อายุ เพศ หรือเชื้อชาติ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า การผลิตของไทยยูเนี่ยน จะดำเนินได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับ ไทยยูเนี่ยน ได้ปฏิบัติตามระเบียบวิธี และแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข โดยมีการกักตัว พนักงานกลุ่มเสี่ยง ที่มีการติดต่อกับผู้ติดเชื้อ นอกจากนี้ หน่วยงานของรัฐ ยังมีการติดตามผู้ที่เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงต่อไป ขณะที่ไทยยูเนี่ยนเอง จะยังคงติดตามสถานการณ์ และประสานงานกับภาครัฐ อย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ บริษัทได้วางมาตรการที่ชัดเจน ในการดูแลผู้ที่ติดเชื้อเอาไว้แล้ว รวมไปถึงการดูแลพนักงาน ที่ได้รับผลกระทบ ในขณะที่กักตัวตามแนวทางของภาครัฐ มีการระบุผู้ใกล้ชิดผู้ที่ติดเชื้อ และตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้ ตลอดจนการทำความสะอาดฆ่าเชื้อ big cleaning ในบริเวณต่าง ๆ ทั่วโรงงาน
สิ่งที่สำคัญอีกประการ คือ โรงงานของไทยยูเนี่ยนทุกโรง ยังคงเปิดดำเนินการตามปกติ เนื่องจากจำนวนพนักงานที่ได้รับผลกระทบ มีอัตราและจำนวนที่น้อยมาก
หลังจากเกิดสถานการณ์โควิด-19 ในจังหวัดสมุทรสาคร ไทยยูเนี่ยน เน้นย้ำความสำคัญสูงสุด คือ สุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน คู่ค้า ผู้บริโภคและชุมชนโดยรอบ และมีการเพิ่มมาตรการด้านอาชีวอนามัย และความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
ตัวอย่างเช่น มาตรการคัดกรอง ผู้ที่จะเข้ามาปฏิบัติงานที่โรงงาน การผลิตยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่อง แต่ได้งดการประชุมติดต่อ ซึ่งครอบคลุม ทั้งพนักงานบริษัทฯ และผู้ที่มาติดต่อ ยกเว้นธุรกรรมที่จำเป็น และต้องได้รับอนุญาต จากคณะผู้บริหาร การจำกัดการเคลื่อนย้ายพนักงานภายในโรงงาน และให้ฝ่ายสนับสนุนต่าง ๆ ทำงานจากบ้าน มีการทำความสะอาดฆ่าเชื้อ รวมถึงให้พนักงานปฏิบัติตามข้อแนะนำด้านสุขภาพ และความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด
บริษัทฯ ยังมีแผนการเตรียมพร้อมในด้านต่างๆ อาทิ การฝึกซ้อมรับมือสถานการณ์ต่าง ๆ และมีแผนการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดนี้เพื่อให้มั่นใจได้ว่าบริษัทฯ ได้ดำเนินตามมาตรฐานสูงสุด ในด้านสุขภาพ และความปลอดภัย
“ผมมีความมั่นใจอย่างยิ่ง ในนโยบาย และมาตรการด้านอาชีวอนามัย และความปลอดภัยของเรา ที่โรงงาน ซึ่งมีความเข้มงวดในทุกขั้นตอนการผลิต เพื่อป้องกันการปนเปื้อนใด ๆ รวมถึงไวรัส และการติดเชื้อต่าง ๆ” นายธีรพงศ์กล่าว
พร้อมกันนี้ ไทยยูเนี่ยน ยังคงดูแลชุมชนโดยรอบอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะชาวสมุทรสาคร ที่ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์โควิด-19 ในจังหวัดเป็นจำนวนมาก บริษัทได้ส่งความช่วยเหลือ ไปยังหน่วยงานต่าง ๆ และขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ โดยเชื่อมั่นว่า จะสามารถผ่านพ้นไปด้วยดี
ก่อนหน้านี้ นายธีรพงศ์ เคยประเมินไว้ว่า หากในกรณีเกิดเหตุสุดวิสัย ที่อาจทำให้ต้องปิดโรงงานทุกโรง ในจังหวัดสมุทรสาคร เป็นเวลา 2 สัปดาห์ คาดว่าจะมีผลกระทบต่อรายได้ทั้งหมดของบริษัทน้อยกว่า 2% ของรายได้รวมต่อปี ซึ่งบริษัทได้เตรียมมาตรการเสริม เพื่อทดแทนกำลังการผลิตไว้แล้ว หากเกิดเหตุสุดวิสัยดังกล่าวขึ้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สธ. ชู ‘สมุทรสาครโมเดล’ สั่งทุกจังหวัดตรวจโควิด-19 ชุมชนแรงงานเมียนมา
- เปิดรายงาน ‘Food Safety’ ผู้บริโภคกังวล ครัว พนักงาน อาหารปนเปื้อน
- ไขข้อข้องใจ ‘เดินทางข้ามจังหวัด’ เงื่อนไขต้องรู้ พื้นที่สีแดง ส้ม เหลือง ต้องทำแบบไหน