Business

ไทยยังครองที่ 1 แหล่งท่องเที่ยวช่วงโกลเด้นวีคจีน

นักท่องเที่ยวจีน1
บรรยากาศนักท่องเที่ยวจีนเยือนไทย

หลายเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวจีน ในช่วงที่ผ่านมาทำให้นักท่องเที่ยวจีนหดหายไปถึง 20% ตามคำชี้แจงของภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยว แต่ล่าสุดในเทศกาลวันหยุดยาววันชาติจีน หรือช่วงโกลเด้นวีค ที่ผ่านมา ผลสำรวจากบริษัทท่องเที่ยวจีน ระบุว่า ประเทศไทย ยังครองอันดับ 1 ประเทศที่นักท่องเที่ยวจีนมาเยือนมากที่สุด

ฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา
นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา

นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า CTrip บริษัทชั้นนำด้านบริการท่องเที่ยวของจีน เปิดเผยตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ในช่วงวันหยุดวันชาติจีน(1-7 ตุลาคม) หรือ Golden Week เกือบ 100 ประเทศและมากกว่า 1,000 จุดหมายปลายทาง

โดย CTrip ได้ทำการจัดอันดับประเทศที่นักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปท่องเที่ยวมากที่สุด อันดับ 1 คือ ประเทศไทย รองลงมาคือ ประเทศญี่ปุ่น เขตบริหารพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม สาธารณรัฐสิงคโปร์ ไต้หวัน และ สาธารณรัฐเกาหลี ตามลำดับ
สำหรับจังหวัดในประเทศไทย ที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมเดินทางไปท่องเที่ยว ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี (พัทยา) ภูเก็ต เชียงใหม่ เป็นต้น

ทั้งนี้ บริษัท CTrip เป็นบริษัทชั้นนำในสาธารณรัฐประขาชนจีนที่ให้บริการด้านท่องเที่ยว อาทิ การจองที่พัก การซื้อบัตรโดยสารเครื่องบิน การจองแพ็กเกจทัวร์ ในปัจจุบัน มียอดการดาวน์โหลดแอพลิเคชัน CTrip มากกว่าหนึ่งพันล้านครั้ง โดยมีผู้จองโรงแรมผ่านแอพฯ มากถึง 75% และมีการจองตั๋วเที่ยวบินมากถึง 60

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงสถานการณ์ท่องเที่ยว ของนักท่องเที่ยวชาวจีนในช่วง Golden Week วันที่ 1 – 7 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาประเทศไทย 180,807 คน ขยายตัว 2.77% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะมีการใช้จ่ายระหว่างเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย 10,205 ล้านบาท ขยายตัว 4.82% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา

การเติบโตของนักท่องเที่ยวชาวจีนในช่วง Golden Week แม้ว่าจะต่ำกว่าในช่วงครึ่งปีแรก แต่อยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ เนื่องจากสอดคล้องกับทิศทางการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนในภูมิภาค เช่น เวียดนาม ที่หดตัวในเดือนสิงหาคม 1.65% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา เป็นต้น

รวมถึงความกังวลของนักท่องเที่ยวชาวจีนต่อสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะเห็นได้จากค่าเงินหยวนเมื่อเปรียบเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนกันยายนที่ลดลงกว่า 5.59% เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม และดัชนีตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ ที่เคยอยู่ในระดับสูงสุดถึง 3,470 จุด ในเดือนมกราคม และลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ไตรมาส เหลือที่ระดับ 2,717 จุด หรือลดลง 22.7% จากเดือนมกราคม ซึ่งมีผลต่อกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวชาวจีน

พฤติกรรมการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวจีนได้เปลี่ยนแปลงไปสู่การเดินทางด้วยตนเองมากขึ้น

จากเดิมที่มีสัดส่วนนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่จัดการเดินทางด้วยตนเอง (FIT)ต่อนักท่องเที่ยวชาวจีนที่จัดการเดินทางผ่านบริษัทนำเที่ยว (Group Tour) 60 : 40 เปลี่ยนแปลงเป็น 70 : 30 ซึ่งจะมีผลต่อการกระจายการเดินทางสู่เมืองต่างๆ มากขึ้น

นายพงษ์ภาณุ กล่าวว่า ยังคงให้ความสำคัญต่อนักท่องเที่ยวชาวจีน โดยจะไม่ใช้มาตรการ ด้านราคา เช่น การยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า ซึ่งไม่มีความเหมาะสมต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน แต่จะให้ความสำคัญต่อการสร้างความมั่นใจในด้านความปลอดภัย และการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ทั้งการท่องเที่ยวทางบก และทางน้ำ การยกระดับมาตรฐานด้านการท่องเที่ยว เพื่อสร้างความพึงพอใจแก่นักท่องเที่ยวทุกคนที่มาเยือน ซึ่งเป็นภารกิจที่ท้าทายและสร้างการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ จะจัดให้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการด้านความปลอดภัยครั้งใหญ่ของประเทศ เพื่อระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวของประเทศในวันที่ 18 ตุลาคมนี้

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight