“ศรีสุวรรณ จรรยา” นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนออกแถลงการณ์ต้านถนนคอนกรีดขึ้นเขาพะเนินทุ่ง ชี้ขัดแนวทางการอนุรักษ์และกฎหมายอย่างร้ายแรง ย้อนถามอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติปล่อยให้เกิดได้อย่างไร
โดยแถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) และสาขาเพชรบุรี ได้ดำเนินการว่าจ้างผู้รับเหมาให้มีการปรับปรุงเส้นทางเพื่อการท่องเที่ยวเขาพระเนินทุ่งจากถนนดินลูกรังให้เป็นถนนลาดยางคอนกรีต ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2561 เป็นต้นมาโดยมีระยะเวลาในการก่อสร้าง 560 วัน
ขณะที่ในมุมของนักอนุรักษ์ นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน มองว่า ถนนเดิมอย่างถนนลูกรังเป็นตัวช่วยคัดกรองนักท่องเที่ยวได้ดี และทำให้ภาพของนักท่องเที่ยวที่ขับรถอย่างเร่งรีบเพื่อแห่มาดูทะเลหมอกตอนเช้ามีน้อยลง โอกาสที่สัตว์ป่าจะถูกรถชนตายก็น้อยลงด้วย แต่ถ้าปรับเปลี่ยนเป็นถนนคอนกรีต ไม่เพียงแต่สัตว์ป่าจะตายมากขึ้น แต่จะนำไปสู่ปัญหาขยะ หรือการเดินทางมาเที่ยวของนักท่องเที่ยวที่ไร้จิตสำนึกจะเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน
“ในอดีตถนนเข้าบ้านกร่างยังเป็นถนนลูกรัง ยังสามารถคัดกรองนักท่องเที่ยวที่เป็นประเภทที่เห็นความสวยงามของธรรมชาติ เข้าไปเสพและเรียนรู้ความงามของสัตว์ป่า ซึ่งคัดแยกนักท่องเที่ยวแบบเปลี่ยนที่กิน ที่นอน ที่ทำกับข้าว ไปเสพความเย็น ความหนาว ถ่ายรูปแล้วไปเล่าให้เพื่อนฟังว่าไปนอนป่ามาได้มากพอสมควร แต่หลังจากที่มีการสร้างถนนลาดยางเข้าไปถึงบ้านกร่าง ภาพเหล่านี้ก็หายไป ถนนลูกรังสายเดิม ที่เปลี่ยนเป็นถนนลาดยาง ไม่สามารถคัดกรองนักท่องเที่ยวได้อีกต่อไป เพราะรถเร่งรีบกันขึ้นไปดูทะเลหมอกยามเช้ามืดกันมากขึ้น เกิดกรณีสัตว์ถูกรถชนตายเป็นจำนวนมาก การพบเห็นสัตว์ข้างทางก็ยากขึ้น แต่ก็ยังดีที่ ยังเหลือถนนลูกรังตั้งแต่บ้านกร่างขึ้นไปพะเนินทุ่ง ยังคัดกรองนักท่องเที่ยวได้อยู่ แต่กระนั้น ช่วงวันหยุด จะสามารถพบเห็นนักท่องเที่ยวกางเต้นท์จนแทบไม่มีที่ให้กาง และที่จอดรถแทบไม่พอ บางช่วงที่คนแห่มาดูทะเลหมอก แม้ไม่อนุญาตให้รถบางประเภทขึ้นไป แต่เชื่อหรือไม่ ที่จอดรถยังเต็ม”
“ดังนั้นถ้าโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตต่อไปจนถึงเขาพะเนินทุ่ง รถยนต์จากคนขับที่มีจิตสำนึกบ้าง ไม่มีจิตสำนึกบ้าง จะหลั่งไหลเข้าสู่แก่งกระจาน จำนวนมากมายมหาศาลขนาดไหน การเสี่ยงชีวิตของสัตว์ป่าจะสูงขึ้น ปัญหาขยะจะตามมา ซึ่งเชื่อว่าบิกไบค์-เด็กแว้นจะตามมา ภาพที่เขาใหญ่ หนังม้วนเดียวกัน จะมาฉายที่แก่งกระจานอีกที่หนึ่งแน่นอน” นายศรีสุวรรณกล่าว
“ที่สำคัญการจัดทำโครงการฯดังกล่าวไม่มีการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ไม่มีการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ตามที่กฎหมายกำหนดแต่อย่างใด ซึ่งกรมอุทยานฯเป็นหน่วยงานอนุรักษ์แต่กลับละเมิดกฎหมายเสียเอง ซึ่งสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนไม่อาจยอมรับได้ จึงใคร่ขอเรียกร้องไปยังอธิบดีกรมอุทยานฯ รมว.กระทรวงทรัพย์ฯ และนายกรัฐมนตรีได้โปรดใช้อำนาจในการสั่งให้มีการทบทวนและระงับโครงการฯดังกล่าวเป็นการเร่งด่วน หากยังเพิกเฉยก็แสดงว่ารัฐบาลรักสิ่งแวดล้อมแต่ปาก หาได้มีความจริงใจไม่ เช่นนั้นสมาคมฯจำต้องร้องเรียนกล่าวโทษต่อ ป.ป.ช.ฐานทุจริตต่อหน้าที่ และจะนำความขึ้นฟ้องศาลฐานใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยกฎหมายและละเลยการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป”
