Economics

เราเที่ยวด้วยกันปังมาก! เงินหมุนเวียนสะพัดแล้วกว่า 2 หมื่นล้านบาท

เราเที่ยวด้วยกัน ปังมาก! “สศค.” เผยล่าสุดมีประชาชนลงทะเบียนแล้วทั้งสิ้น 7.3 ล้านคน โดยมีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจผ่านโครงการแล้วไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง รักษาราชการแทนผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ขอชี้แจงประเด็นข้อวิจารณ์โครงการเราเที่ยวด้วยกัน โดย ตั้งแต่โครงการได้เปิดให้ผู้ประกอบการลงทะเบียน เข้าร่วมโครงการเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 และเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2563 มาจนถึงปัจจุบันมีประชาชนลงทะเบียนแล้วทั้งสิ้น 7.3 ล้านคน

ผู้ประกอบการโรงแรมที่พักลงทะเบียนทั้งสิ้น 8,514 แห่ง ร้านอาหาร 67,527 แห่ง สถานที่ท่องเที่ยว 2,098 แห่ง ร้าน OTOP 1,383 แห่ง สปา หรือ ร้านนวดเพื่อสุขภาพ และบริการขนส่งเพื่อการท่องเที่ยว 204 แห่ง โดยข้อมูล ณ วันที่ 1 มกราคม 2564 มีการใช้สิทธิจองห้องพักผ่านโครงการแล้วทั้งสิ้น 5,106,470 สิทธิ (จากทั้งหมด 6 ล้านสิทธิ) คิดเป็นมูลค่าประมาณ 13,634 ล้านบาท

เราเที่ยวด้วยกัน 

โดยเป็นการจองผ่านโรงแรมทั้งหมด 5,274 แห่ง รวมถึงมีการใช้จ่ายผ่าน E – Voucher ประมาณ 5,711.6 ล้านบาท และมูลค่าบัตรโดยสารเครื่องบินประมาณ 1,001.87 ล้านบาท โดยรวมแล้วมีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจผ่านโครงการแล้วไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท

สำหรับประเด็นการเปลี่ยนแปลงการจองห้องพัก ปัจจุบันกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย อยู่ระหว่างพิจารณานำเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อขยายระยะเวลาโครงการ ออกไปจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2564 รวมทั้งกำหนดระบบการเลื่อนวันเข้าพักสำหรับประชาชน ที่ได้จองโรงแรมที่พักเพื่อเข้าพักตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป

โดยธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จะดำเนินการปรับปรุงระบบ ให้สอดรับกับการดำเนินการ ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาโดยเร็วต่อไป ในระหว่างนี้ ประชาชนที่ได้จองโรงแรมที่พัก เพื่อเข้าพักตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 ที่มีความประสงค์จะเลื่อนการเข้าพักสามารถประสานโรงแรมได้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยโรงแรมสามารถรับเรื่องไว้ได้ก่อน และขอให้โรงแรมดำเนินการแจ้งการเลื่อนในระบบต่อไป

เราเที่ยวด้วยกัน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในปัจจุบันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้กลับมาแพร่ระบาดใหม่อีกครั้ง ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ รัฐบาลจึงได้ยกระดับมาตรการควบคุม การแพร่ระบาดให้เข้มข้นมากขึ้น และได้กำหนดพื้นที่ควบคุมสูงสุดในหลายจังหวัด ทำให้ประชาชนที่ได้จองที่พัก ตามโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ไม่สะดวกที่จะเดินทางไปเข้าพักได้ ตามกำหนดการเดิมที่ได้จองไว้

กระทรวงการคลัง ในฐานะผู้เบิกจ่ายแทนตามโครงการ ขอเรียนว่า เพื่อบรรเทาผลกระทบของประชาชน ที่ได้จองโรงแรมที่พักตามโครงการ แต่ไม่สามารถเดินทางไปเข้าพักได้ รวมทั้งเพื่อรักษาชื่อเสียง ของผู้ประกอบการโรงแรมที่พัก ที่เข้าร่วมโครงการ

ดังนั้น กระทรวงการคลัง จึงขอความร่วมมือ สมาคมโรงแรมไทย และผู้ประกอบการโรงแรมที่พัก ที่เข้าร่วมโครงการทุกแห่ง พิจารณาเลื่อนวันเข้าพัก ให้กับประชาชนที่ใช้สิทธิตามโครงการ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หรือ พิจารณาคืนเงินให้แก่ประชาชน โดยการเปลี่ยนแปลงการจองดังกล่าว โดยไม่ถือว่า เป็นการผิดเงื่อนไขของโครงการ และโครงการจะคงจำนวนสิทธิ ให้กับประชาชนที่ใช้สิทธิดังกล่าว

ทั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย อยู่ระหว่างพิจารณานำเสนอคณะรัฐมนตรี ขยายระยะเวลาโครงการออกไปจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2564 รวมทั้งกำหนดระบบการเลื่อนวันเข้าพัก สำหรับประชาชนที่ได้จองโรงแรมที่พักเพื่อเข้าพักตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ สามารถสอบถามได้ที่ เราเที่ยวด้วยกัน Call Center 02-111-1144 และ Tourist Hotline เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย 1672

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo