สหราชอาณาจักร ประกาศยกเลิกการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 5% สำหรับผลิตภัณฑ์ผ้าอนามัย ส่งผลให้นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์ผ้าอนามัยจะไม่ถูกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มอีกต่อไป
รัฐบาลสหราชอาณาจักร ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเกิดขึ้นได้ เนื่องจากสิ้นสุดระยะเวลาการเปลี่ยนถ่าย จากการที่สหราชอาณาจักร ออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) หรือ เบร็กซิท ซึ่งทำให้พวกเขาเป็นอิสระจากข้อผูกมัดทางกฎหมายของอียู ที่กำหนดให้ต้องจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับผลิตภัณฑ์สุขอนามัย
“ผมภูมิใจที่วันนี้เราสามารถทำตามสัญญาที่จะยกเลิกภาษีผ้าอนามัยได้ ผลิตภัณฑ์สุขอนามัยเป็นสิ่งจำเป็น ดังนั้น เรื่องนี้ จึงเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ที่เราจะไม่เก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม” ริชี ซูนัก รัฐมนตรีกระทรวงการคลังกล่าว
นักเคลื่อนไหวได้รณรงค์ให้มีการยกเลิกภาษีผ้าอนามัยมาเป็นเวลานาน โดยเรียกภาษีดังกล่าวว่าเป็นภาษี “เหยียดเพศ” และ “ล้าหลัง”
หลังจากที่สหราชอาณาจักรได้ยกเลิกภาษีผ้าอนามัยแล้ว เฟลิเชีย วิลโลว์ ประธานกรรมการบริหารองค์กรการกุศล “Fewcett Society” ระบุว่า เป็นเวลานานกว่าจะมาถึงจุดนี้ แต่สุดท้ายภาษีเหยียดเพศ ที่มองว่าผ้าอนามัยเป็นสินค้าหรูหราไม่จำเป็น ก็จะได้กลายเป็นเรื่องในหนังสือประวัติศาสตร์แล้ว
เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว สกอตแลนด์ กลายเป็นประเทศแรกของโลก ที่เปิดกว้างในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์สุขอนามัย รวมถึง ผ้าอนามัย แบบไม่ต้องเสียเงิน ตามสถานที่สาธารณะต่างๆ
สำหรับทั่วโลกนั้น มีเพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้น ที่ไม่จัดเก็บภาษีผ้าอนามัย รวมถึง แคนาดา อินเดีย ออสเตรเลีย เคนยา และหลายรัฐในสหรัฐ
โดยเมื่อปีทีแล้ว เยอรมนีเพิ่งลงมติลดการจัดเก็บภาษีสินค้าด้านสุขอนามัยสำหรับผู้หญิง หลังมีการพิจารณาใหม่ว่า สินค้าเหล่านี้ เป็นของจำเป็นในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘สรรพสามิต’ ยืนยันไม่เคยรีดภาษีผ้าอนามัย!!
- 10 ข่าวปลอมที่มีการแชร์มากสุดในปี 63 สะท้อนคนสนใจสุขภาพมากขึ้น
- เสี่ยงตาย!! ‘หมอแล็บ’ เตือนอย่าใช้ผ้าอนามัยประกบหน้ากากป้องโควิด
