World News

โรงแรมสหรัฐเริ่มทนพิษโควิด-19 ไม่ไหว จับตา! ‘ยึด-ขาย’ อสังหาฯ พุ่งครึ่งปีแรก

โควิด-19 สะเทือนหนัก วงในเผยโรงแรมสหรัฐเริ่มไปต่อไม่ไหว จับตายอด “ยึด-ขาย” อสังหาฯ พุ่งกระฉูดครึ่งแรกปี 2564

เดอะ วอลล์สตรีทเจอร์นัล (WSJ) สื่อด้านธุรกิจชื่อดัง รายงานว่า บรรดาเจ้าของโรงแรมในสหรัฐกำลังเตรียมพร้อมรับมือกับความยากลำบากในปี 2564 หลังธุรกิจยังคงทรุดตัวต่อเนื่อง จากยอดจองที่ลดลงสูงเป็นประวัติการณ์ เนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)

โควิด-19 อสังหา

จับตา “ยึด-ขาย” อสังหาฯ จากพิษ โควิด-19

การเริ่มฉีดวัคซีนโรคโควิด-19 ในสหรัฐและยุโรป อาจทำให้ประชาชนเริ่มกลับมาเดินทางอีกครั้ง และส่งผลให้ส่วนแบ่งของโรงแรมและผู้ประกอบการดีดตัวขึ้น อย่างไรก็ดีกลุ่มนักลงทุนและนักวิเคราะห์ชี้ว่าอาจต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่ายอดจองจะกลับสู่ระดับก่อนเกิดการระบาดใหญ่” รายงานระบุ

พร้อมเสริมว่าธุรกิจยังต้องเผชิญกับความตึงเครียดทางการเงินที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ต้องดิ้นรนเพื่อจ่ายค่าจำนอง ค่าจ้าง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในเวลาเดียวกัน

“แม้ว่ายอดจองจะลดลงเป็นประวัติการณ์ แต่โรงแรมหลายแห่งในสหรัฐยังคงเปิดให้บริการอยู่ได้ด้วยมาตรการผ่อนปรนหนี้จากธนาคาร และความช่วยเหลือชั่วคราวจากรัฐบาล อาทิ โครงการให้สินเชื่อเพื่อคุ้มครองธุรกิจ (PPP) อย่างไรก็ดีขณะนี้ผู้ให้กู้ยืมบางรายเริ่มทนต่อไม่ไหว ซึ่งอาจนำไปสู่การยึดและขายอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2564” รายงานอ้างคำกล่าวของกลุ่มนายหน้าและนักลงทุน

ด้านบริษัทเอสแอนด์พี โกลบอล เรตติงส์ (S&P Global Ratings) ได้ประเมินในรายงานประจำเดือนพฤศจิกายน 2562 ว่ารายได้ต่อห้องพักของโรงแรมในสหรัฐลดลงถึง 50% ในปี 2563 พร้อมคาดการณ์ว่ารายได้จะเติบโตขึ้นในปี 2564 แต่จะยังคงต่ำกว่าในปี 2562 ราว 20-30% และจะไม่ฟื้นตัวเต็มที่ก่อนปี 2566

“การเดินทางเพื่อธุรกิจเป็นสิ่งที่น่ากังวลเป็นพิเศษ แม้ว่านักวิเคราะห์บางคนคาดว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะกลับมาเป็นปกติในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ในหลายพื้นที่ แต่ความต้องการลดต้นทุนและความนิยมที่เพิ่มขึ้นของการประชุมทางออนไลน์อาจส่งผลให้การเข้าประชุมตามโรงแรมลดน้อยลงในช่วงอนาคตอันใกล้นี้” รายงานชี้

5ed21102e4b08e72bb63807d 570x 1

นอกเหนือจากธุรกิจและโรงแรมสำหรับการประชุมขนาดใหญ่แล้ว แนวโน้มธุรกิจโรงแรมประเภทอื่นดูจะไม่ค่อยดีนัก รายงานคาดการณ์ว่าชาวอเมริกันหลายล้านคนที่กักตัวอยู่ในบ้านอาจต้องการกลับมาเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้งตามสถานที่ยอดนิยมสำหรับการเดินทางเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ “คาดการณ์ว่ายอดจองในสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนยอดนิยมอย่างไมอามี หรือซานดิเอโก จะเพิ่มสูงขึ้นทันทีที่วัคซีนถูกใช้งานอย่างแพร่หลาย และประชาชนเริ่มรู้สึกปลอดภัย” กลุ่มนักวิเคราะห์ชี้

อย่างไรก็ดี โครงการรณรงค์ฉีดวัคซีนโรค โควิด-19 ในสหรัฐที่ดำเนินมา 3 สัปดาห์นั้น มีประชาชนได้รับวัคซีนน้อยกว่าที่คาด เนื่องจากกระบวนการดำเนินไปอย่างล่าช้ากว่าที่ทางการคาดการณ์ไว้ และถูกรุมเร้าด้วยความสับสนและความไม่เป็นระเบียบในหลายรัฐ

“ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลกลางจึงไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน 20 ล้านคนภายในสิ้นปี 2563 ตามที่ได้สัญญาไว้ได้” รายงานระบุ หลังมีประชาชนได้รับวัคซีนเพียง 2.8 ล้านโดส จากวัคซีนมากกว่า 12 ล้านโดสที่ถูกส่งมาจากโมเดอร์นา (Moderna) และไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค (Pfizer-BioNTech)

โควิด-19 อสังหาฯ

ทั้งนี้ ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ รายงานว่ายอดผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ของสหรัฐทะลุ 350,000 รายแล้ว เมื่อนับถึงช่วงเย็นวานนี้ (2 ม.ค. 64)

ศูนย์ฯ ระบุว่ายอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 ของสหรัฐทะลุ 20.4 ล้านราย ซึ่งรวมถึงผู้เสียชีวิต 350,186 ราย เมื่อนับถึงเวลา 13.30 น. ของวันนี้ (3 ม.ค. 64) ตามเวลาประเทศไทย

รัฐนิวยอร์กรายงานการตรวจพบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 รวม 38,273 ราย สูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ตามมาด้วยรัฐเท็กซัสที่มีผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 28,338 ราย, รัฐแคลิฟอร์เนีย 26,542 ราย และรัฐฟลอริดา 21,890 ราย ขณะที่รัฐอื่นๆ ที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 10,000 ราย ได้แก่ นิวเจอร์ซีย์ อิลลินอยส์ เพนซิลเวเนีย มิชิแกน แมสซาชูเซตส์ และจอร์เจีย

สหรัฐยังคงเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากการระบาดใหญ่ โดยมีจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตสูงที่สุดในโลก ซึ่งครองสัดส่วนมากกว่า 24% ของยอดผู้ป่วยทั่วโลก และมากกว่า 19% ของยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลก

ทั้งนี้ จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรค โควิด-19 ของสหรัฐ เพิ่มขึ้นถึงกว่า 50,000 รายใน 19 วัน หลังจากยอดผู้เสียชีวิตพุ่งแตะ 300,000 รายไปเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา

ด้านสถาบันวัดผลและประเมินสุขภาพ (IHME) แห่งมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ได้วิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันและคาดการณ์ว่าสหรัฐจะมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 รวม 567,195 ราย ภายในวันที่ 1 เมษายน 2564

ที่มาสำนักข่าวซินหัว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo