นายกฯสั่งกระทรวงสาธารณสุข เร่งจัดหาวัคซีนทุกช่องทาง เจรจาเพิ่มจัดหาวัคซีนจากหลายบริษัท ห่วงบุคคลากรทางการแพทย์ ย้ำรัฐบาลมีหน้าที่ดูแลป้องกันให้คนไทยปลอดภัย
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดครั้งใหม่ของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้เร่งรัดให้กระทรวงสาธารณสุขจัดหาวัคซีนในทุกช่องทาง เพื่อให้ประชาชนไทยเข้าถึงวัคซีนได้รวดเร็วที่สุด โดยกำหนดการจัดหาวัคซีนเพื่อให้ครอบคลุมไม่น้อยกว่า50% ของประชาชนไทยในปี 2564 นี้
ทั้งนี้ การดำเนินการในหลายแนวทาง และถึงแม้ประเทศไทยจะได้จองซื้อวัคซีนของ AstraZeneca จำนวน 26 ล้านโดส ไปแล้วก็ตาม แต่การจองซื้อวัคซีนนี้เป็นเพียงข้อตกลงชุดแรก ทั้งนี้ ไม่ได้มีการเจาะจงว่าจะทำความร่วมมือเฉพาะกับผู้ผลิตรายใดรายหนึ่ง
ขณะนี้ นายกฯ ได้มอบนโยบายให้กระทรวงสาธารณสุข เจรจากับผู้ผลิตวัคซีนรายอื่นอีกหลายบริษัท และมีการกำหนดแผนการใช้วัคซีน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการฟื้นฟูประเทศ จากสถานการณ์การระบาดนี้โดยเร็ว
นายอนุชา กล่าวเพิ่มเติมว่าถึงแม้ว่าประเทศจะสามารถนำวัคซีน มาให้บริการกับประชาชนอย่างครอบคลุม แต่การดูแลสุขอนามัยส่วนตัว ยังเป็นมาตรการสำคัญที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จนกว่าทั่วโลกจะเข้าสู่สภาวะปกติ
นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงประชาชนทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หมอ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เสียสละดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ เป็นผู้ที่มีความเสี่ยงที่สุด จึงขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง ดูแลป้องกันตนเองด้วยความไม่ประมาท
ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายจังหวัด ทั้งเป็นการติดเชื้อจากบุคคลสู่บุคคลจากการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงหรือเข้าร่วมกิจกรรมที่เสี่ยง จึงเกิดการสัมผัสหรือใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อและการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อน ซึ่งมีสาเหตุจากการร่วมกิจกรรมต่างๆ เช่นงานเลี้ยงสังสรรค์ การประชุม ฯลฯ หรือกิจกรรมที่ลักลอบดำเนินการ เช่นการพนัน การมั่วสุม เป็นต้น
ดังนั้น นายกฯ จึงขอให้ประชาชนปฎิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด จะแตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ในแต่ละจังหวัด มีมาตรการออกมาอย่างเหมาะสมสำหรับพื้นที่นั้นๆ ในช่วงนี้ นายกฯ ขอให้หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่มีการรวมคนและการเดินทางข้ามจังหวัด และขอให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าเสมอ เว้นระยะห่าง หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้อื่น ล้างมือบ่อยๆให้ความร่วมมือในการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายตามสถานที่ต่างๆ ติดตั้งแอปพลิเคชั่น “หมอชนะ” และสแกน“ไทยชนะ” เวลาเช็คอินและเช็คเอ้าท์สถานที่ต่างๆ และหากมีอาการที่สงสัยว่าจะติดเชื้อขอให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็วอย่าปล่อยให้อาการรุนแรง
อ่านข่าวเพิ่มเติม :
- นพ.ยงแนะฉีดวัคซีนโควิด-19 ใน 3 กลุ่มเสี่ยงก่อนเป็นอันดับแรก
- ‘อังกฤษ’ ติดโควิด-19 ครึ่งแสนคนในวันเดียว อนุมัติใช้ ‘วัคซีน’ แอสตราเซเนกาแล้ว
- โควิดวันนี้ 31 ธ.ค. ‘สหรัฐ’ ยังอาการหนัก ยอดทะลุ 20 ล้านราย ทั่วโลกพุ่ง 83 ล้านคน