นางสุชาดา สหัสกุล นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) ให้สัมภาษณ์ถึงผลสรุปงาน “สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 46 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 16” ซึ่งมีสำนักพิมพ์ไทยเข้าร่วมงานกว่า 420 แห่ง โดยได้รับเกียรติจาก “ไต้หวัน” เข้าร่วมงานในฐานะ แขกรับเชิญเกียรติยศ (Guest of Honor) และจัดขึ้นจนถึงวันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2561 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้แนวคิด “อ่าน…อีกครั้ง” ว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง เพราะมีผู้เข้าร่วมชมงานกว่า 1,800,000 คน โดยส่วนใหญ่จะเป็นเด็กและเยาวชน รองลงมาคือวัยทำงาน และแนวหนังสือที่มาแรงในครั้งนี้คือแนวประวัติศาสตร์ ทั้งนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ สารคดี รวมถึงการ์ตูนความรู้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงกระแสความนิยมอ่านงานเขียนที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในทุกวัย รองลงมาคือนวนิยายวัยรุ่น และไลท์โนเวล ซึ่งเป็นหนังสือที่อยู่ในความนิยมของเด็กและเยาวชน
ในงานสัปดาห์หนังสือครั้งนี้ หนังสือแนวประวัติศาสตร์ ทั้งประเภทงานวิชาการและประเภทนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ได้รับความสนใจจากนักอ่านทั่วไปอย่างมาก ไม่ใช่เพียงนักอ่านในสายประวัติศาสตร์เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบุคคลในประวัติศาสตร์อย่าง คอนสแตนติน ฟอลคอน ท้าวทองกีบม้า เจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) รวมถึงเหตุการณ์ในสมัยอยุธยา ทั้งการเมืองและการทูตในสมัยสมเด็จพระนารายณ์
“ความสนใจยังขยายไปสู่เด็กและเยาวชน เพราะพวกเขามาตามหาหนังสือการ์ตูนความรู้ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ด้วย นอกจากนี้ยังเกิดปรากฏการณ์จินดามณีขึ้น เพราะเพียงวันแรกที่หนังสือมาวางขายที่บูทกรมศิลปากรก็หมดเกลี้ยงในระยะเวลาอันรวดเร็วจนต้องสั่งจองและมารับอีกครั้งในภายหลัง รวมยอดขายจินดามณีทั้งงานคือประมาณ 10,000 เล่ม ซึ่งแน่นอนว่าทั้งหมดเป็นผลมาจากอิทธิพลของนวนิยายและละครเรื่องบุพเพสันนิวาสที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ ถือเป็นปรากฏการณ์ของการต่อยอดความรู้จากความบันเทิงได้อย่างน่าสนใจมาก”
นางสุชาดา ยังกล่าวอีกด้วยว่า สภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจะค่อนข้างชะลอตัว ในงานสัปดาห์หนังสือครั้งที่ 46 มีหนังสือออกใหม่กว่า 400 ปก ซึ่งสำนักพิมพ์ส่วนใหญ่ต่างพอใจกับยอดขายหนังสือในงานสัปดาห์หนังสือครั้งนี้