ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (28 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ดัชนีหลัก พากันพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่ หลัง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่มูลค่ารวม 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ ทำให้นักลงทุนมีความหวังมากขึ้น ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 30,496.31 จุด ทะยานขึ้น 296.44 จุด หรือ 0.98% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,735.91 จุด ปรับขึ้น 32.85 จุด หรือ 0.89% และดัชนีแนสแด็กที่ 12,875.71 จุด บวก 70.97 จุด หรือ 0.55%
นับตั้งแต่ต้นปี จนถึงขณะนี้ ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นมาแล้ว 5.8% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 พุ่งขึ้น 14.6% ส่วนดัชนีแนสแด็ก ทะยานขึ้น 42.7% จากการที่นักลงทุนแห่ซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
วันนี้ ตลาดได้แรงหนุนขาขึ้น จากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปลี่ยนใจ ยอมลงนามในกฎหมายว่าด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐวงเงิน 900,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อเยียวยาประชาชน และภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังลงนามในร่างงบประมาณวงเงิน 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ สามารถเปิดดำเนินการต่อไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2564
ก่อนหน้านี้ ผู้นำสหรัฐ ไม่ยอมลงนามในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยอ้างว่าต้องการให้มีการเพิ่มจำนวนเงินในเช็คเงินสด ที่จะแจกจ่ายให้กับชาวอเมริกันจาก 600 ดอลลาร์ เป็น 2,000 ดอลลาร์ และให้มีการตัดงบรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกจากมาตรการดังกล่าว
ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่อังกฤษ และสหภาพยุโรป (อียู) สามารถบรรลุข้อตกลงการค้า ก่อนที่อังกฤษจะต้องแยกตัวออกจากอียู หรือเบร็กซิท ในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งหากการเจรจาประสบความล้มเหลว ก็จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจ และซ้ำเติมวิกฤตการณ์โควิด-19
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- โควิด-19 ผลักดันจีนผงาด ‘ขนาดเศรษฐกิจใหญ่สุดของโลก’ ใน 8 ปี
- ‘เวียดนาม’ ประกาศความสำเร็จ GDP ปี 2563 ขยายตัวเฉียด 3% แม้เจอโควิด-19
- เสนออังกฤษ ‘เก็บภาษีคนรวย’ สู้วิกฤติ ‘เศรษฐกิจ-โรคระบาด’