สมุทรสาคร ปรับ สนามกีฬากลางจังหวัด เป็นศูนย์รองรับผู้ติดเชื้อโควิด “ศูนย์ห่วงใยคนสาคร” หลังคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด มีมติเห็นชอบ รองรับผู้ติดเชื้อได้ 400-500 คน
เมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้ (6 ธ.ค.) นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร มีประกาศคำสั่งจังหวัดสมุทรสาคร ที่ 3557/2563 เรื่อง จัดตั้งสถานที่ป้องกันและควบคุมโรค ตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) (ฉบับที่ 25 ) เพื่อใช้สนามกีฬากลางจังหวัดสมุทรสาคร เป็นที่จัดตั้ง “ศูนย์ห่วงใยคนสาคร”
ประกาศดังกล่าวระบุว่า ด้วยสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดสมุทรสาคร พบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับจังหวัดสมุทรสาคร มีจำนวนแรงงานต่างด้าว ที่มาประกอบอาชีพเป็นจำนวนมาก และปัจจุบันพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ในกลุ่มแรงงานต่างด้าว
ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกัน และรักษาผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว และจำกัดวงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๒ (๑) และมาตรา ๓๔ (๗) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๕๘ และข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่๑) ลงวันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ข้อ ๗ (๑) และ (๓) ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร
ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ จังหวัดสมุทรสาคร ครั้งที่ 58/2563 วันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2563 จึงมีคำงจังหวัดสมุทรสาคร ให้จัดตั้งสถานที่ ป้องกันและควบคุมโรคตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ณ สนามกีฬาจังหวัด สมุทรสาคร ตำบลมหาชัย อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร โดยให้ใช้สถานที่นี้เป็น “ศูนย์ห่วงใยคนสาคร”
ทั้งนี้ ห้ามบุคคลใดที่ไม่ได้รับอนุญาต เข้าไปหรือออกจากสถานที่ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) (ศูนย์ห่วงใยคนสาคร) เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรค กรณีผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ มีโทษตามนัยมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2549 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อนึ่งด้วยเหตุที่เป็นกรณีมีความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพของประชาชนและประโยชน์สาธารณะ หากปล่อยให้เนิ่นช้าไจะก่อผลเสียหายร้ายแรงแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้งตามนัยมาตรา 30 วรรค 2 (1) แห่งพระราชบัญญัติ วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2513
ด้านนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า ศูนย์ห่วงใยคนสาครนี้ เป็นศูนย์ควบคุมโรครองรับจำนวนผู้ติดเชื้อได้ 400-500 คน โดยใช้สนามกีฬากลางจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งมีบ้านพักท่านผู้ว่าราชการจังหวัด บ้านพักรองผู้ว่าราชการจังหวัด และบ้านพักของหัวหน้าส่วนราชการ รวมถึงกองบังคับการกองร้อยอาสาอยู่รายล้อม ดังนั้นจึงเป็นสถานที่เหมาะสมที่จะสร้างความมั่นใจให้กับบุคคลภายนอก ว่า
ศูนย์แห่งนี้มีความปลอดภัยเมื่อนำผู้ที่เข้ามาทำงานในจังหวัดแล้วติดเชื้อโควิดเข้ามาพักเพื่อดูแลรักษา จนกว่าผู้ที่ติดเชื้อหรือผู้ที่ตรวจพบเชื้อจะมีการสร้างแอนตี้บอร์ดี้ขึ้นมา เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายจึงจะให้กลับออกไปได้ โดยศูนย์แห่งนี้จะมีระบบการดูแลอย่างเข้มแข็ง ทั้งจากเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุข เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร อส. รวมถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
นายธีรพัฒน์ กล่าวอีกว่า สำหรับศูนย์แห่งนี้คาดว่าจะพร้อมเปิดศูนย์ได้อีก 2-3 วันข้างหน้า แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับการประเมินสถานการณ์ผู้ติดเชื้อรายวันด้วย เพราะบางวันอาจจะมีมากหรือบางวันอาจจะมีน้อย ขณะเดียวกันเรื่องมาตรการควบคุมบุคคลภายในและภายนอกศูนย์นั้นที่เคร่งครัดก็คือ บุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตห้ามเข้าออกอย่างเด็ดขาด
หากใครฝ่าฝืนหรือขัดขวางคำสั่งที่ประกาศจะต้องมีโทษทั้งจำและปรับ ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนเชื่อมั่นได้ว่า “ศูนย์ห่วงใยคนสาคร” แห่งนี้ เป็นศูนย์ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการดูแลผู้ติดเชื้อที่ตรวจพบเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ หรือมีการไม่มากนักเท่านั้น และจะไม่มีการแพร่ระบาดออกไปสู่ภายนอกอย่างแน่นอน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘โควิดร้ายต้องพ่ายพลังหมอ’ อนุทิน อวยพรปีใหม่ ข้าราชการสาธารณสุข
- เปิดภาพ ‘โรงพยาบาลสนาม’ ตลาดกลางกุ้ง สมุทรสาคร กู้วิกฤติพื้นที่สีแดง
- ‘สาธิต’ ลุยตรวจ ผู้ค้า-แรงงานต่างด้าว ‘ตลาดไท’ สร้างความมั่นใจผู้ซื้อ