Politics

ซูเปอร์โพลชู ‘บิ๊กตู่’ ขึ้นแท่นรัฐมนตรีผลงานเด่นสุดในปี 63

ซูเปอร์โพล ชู “พล.อ.ประยุทธ์” ขึ้นแท่นรัฐมนตรีผลงานเด่นสุดในปี 2563 ชี้เป็นผู้นำ แก้ปัญหาหนักๆ ของประเทศ ตามด้วย “อนุทิน ชาญวีรกูล” และ “พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์”

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง รัฐมนตรีเด่น ปี 2563 กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,206 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 20 – 24 ธันวาคม ที่ผ่านมา

เมื่อถามถึง บุคคลในคณะรัฐมนตรีที่เด่น ทำงานเข้าตาประชาชนมีผลงานน่าพอใจ ปี 2563 ที่ผ่านมา พบว่า ผู้ที่ได้รับเสียงสนับสนุนมากที่สุดจากประชาชน 29.4% ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เด่นด้านความเป็นผู้นำ แก้ปัญหาหนัก ๆ ของประเทศ เป็นคนดี ไม่มีเรื่องเสื่อมเสียทุจริตคอรัปชั่น กล้าตัดสินใจ ทำบ้านเมืองเจริญ ถนนหนทางเกิดขึ้นจำนวนมาก รถไฟฟ้าหลายสาย แก้วิกฤตโควิดรอบแรก โครงการคนละครึ่ง กระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นต้น

ซูเปอร์โพล

รองลงมาคือ 24.9% ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เด่น ด้านแก้ปัญหาโควิด บริหารจัดการทีมงานบุคลากรการแพทย์ ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้เช่น ปลดล็อคกัญชา ผลักดันรักษาโรคมะเร็งได้ทุกโรงพยาบาล เพิ่มสิทธิรักษาทุกโรคแท้จริง กล้าคิดกล้าทำ กล้าพูด มีจิตใจดี ช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วยผ่าตัดหัวใจ และอื่น ๆ เป็นต้น

ถัดมาคือ 23.5% ได้แก่ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม เด่น การพัฒนาระบบดิจิทัลแก้วิกฤตโควิด โครงการไทยชนะ คัดกรองเกาะติดสถานการณ์โควิด นโยบายประชาชนเข้าถึงระบบ 5 G แก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ พนันออนไลน์ จัดการขบวนการล่วงละเมิดสถาบันหลักของชาติ การควบรวมกิจการบริการระบบสื่อสารของรัฐสนับสนุนโครงการคนละครึ่ง โครงการนำสายไฟและสายสื่อสารลงใต้ดิน และอื่น ๆ

ขณะที่ 22.6% ได้แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เด่น ด้านการจัดการความวุ่นวายของบ้านเมือง แก้ปัญหาขัดแย้งทางการเมือง ความเดือดร้อนหนี้สินนอกระบบ ปัญหาที่ทำกินของชาวบ้าน และอื่น ๆ เป็นต้น 22.6% เช่นกัน ได้แก่ นาย วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เด่น เรื่องอนุรักษ์สัตว์ป่า สัตว์ทะเล จัดการขบวนการทำผิดกฎหมายทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สานต่อให้ประชาชนอยู่กับป่าเพื่อเศรษฐกิจฐานราก และอื่น ๆ

ซูเปอร์โพล

นอกจากนี้ 22.3% ได้แก่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เด่น การช่วยเหลือประกันราคาพืชผลการเกษตร ส่งเสริมธุรกิจส่งออก ลดราคาสินค้า และอื่น ๆ และ 21.8% ได้แก่ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เด่น ผลงานต่าง ๆ เช่น แก้ปัญหาภัยแล้ง ต่อยอดโครงการพระราชดำริดูแลช่วยเหลือเกษตรกร ช่วยเหลือราคากุ้ง ช่วยเกษตรกรช่วงโควิด เป็นต้น

ขณะที่ 25.2% ได้แก่ อื่น ๆ เช่น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และอื่น ๆ เป็นต้น

ที่น่าสนใจคือ แนวโน้มจุดยืนการเมืองของประชาชนในเรื่องสนับสนุนรัฐบาล ไม่สนับสนุนรัฐบาล และกลุ่มพลังเงียบ หรือกลุ่มไม่สนใจอะไรเลย (พวก ignorance) เปลี่ยนแปลงขึ้นลงตลอดในช่วงปี 2563 ที่ผ่านมา พบว่า ล่าสุด ฐานสนับสนุนของประชาชนต่อรัฐบาลเพิ่มสูงขึ้นจาก 33.9% ในเดือนกันยายน มาอยู่ที่ 35.7% ในเดือนธันวาคม

อย่างไรก็ตาม ฐานไม่สนับสนุนรัฐบาลก็เพิ่มขึ้นจาก 29.7% ในเดือนกันยายนมาอยู่ที่ 31.4% แต่ กลุ่มพลังเงียบหรือกลุ่มไม่สนใจอะไรเลย ลดลงเล็กน้อยจาก 36.5% มาอยู่ที่ 32.9% ในการสำรวจครั้งนี้

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า จะเป็นใครไปไม่ได้ในคณะรัฐมนตรีที่ประชาชนระบุว่า เด่น มีความเป็นผู้นำทำงานเข้าตาประชาชนแก้ปัญหาวิกฤตต่าง ๆ ของประเทศตลอดปี 2563 ที่ผ่านมาคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีคนอื่น ๆ ก็ได้ค่าร้อยละลดหลั่นกันลงมาไม่ค่อยแตกต่างกัน

แต่ที่น่าพิจารณาคือสถานการณ์วิกฤตของประเทศทั้งเรื่อง โควิด และ ความขัดแย้งของคนในชาติ และความเดือดร้อนของประชาชนในด้านต่าง ๆ ทำให้เกิดความโดดเด่นในตัวบุคคล ที่น่าจับตามองในคณะรัฐมนตรีคือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ และแม้แต่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่หลายคนคาดว่า ตกเป็นเป้าการโจมตีกลับพบว่า มีหลายอย่างที่ประชาชนจำนวนไม่น้อยเห็นว่าเด่นมีผลงานแก้ความขัดแย้งของคนในชาติ ลดความเดือดร้อนเรื่องหนี้สินนอกระบบและปัญหาที่ทำกิน เป็นต้น

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวอีกว่า ที่น่าพิจารณาอีกจุดหนึ่งคือ จุดยืนทางการเมืองของประชาชนต่อรัฐบาล ทั้งสามกลุ่มคือ กลุ่มสนับสนุนรัฐบาล กลุ่มไม่สนับสนุนรัฐบาล และ กลุ่มพลังเงียบหรือกลุ่มไม่สนใจอะไรเลย ที่มีการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มในช่วงหลังไม่มีม็อบ โดยพบว่า กลุ่มสนับสนุนรัฐบาลเพิ่มขึ้น กลุ่มไม่สนับสนุนรัฐบาลก็เพิ่มขึ้น แต่กลุ่มพลังเงียบหรือกลุ่มคนไม่สนใจอะไรเลย ลดลง

แต่ทั้งสามกลุ่มกำลังมี พลัง เท่า ๆ กัน คือประมาณหนึ่งในสาม จึงเป็นสถานการณ์ที่ท้าทายความสามารถของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล รวมถึง ส่วนราชการที่ต้องร่วมปฏิบัติภารกิจทำหน้าที่ขับเคลื่อนไปกับประชาชนนำพาประเทศชาติให้ผ่านพ้นวิกฤตต่าง ๆ ทั้งโควิดรอบใหม่และความเดือดร้อนทุกข์ยากของประชาชนทั่วประเทศในเวลานี้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo