ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ที่ผ่านมา คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ที่มีนายเสมอใจ สุขสุเมฆ เป็นประธาน ได้มีการพิจารณา 2 กรณีสำคัญ ประกอบด้วยกรณีที่ บริษัทโกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เข้าซื้อกิจการจากบริษัทโกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือGLOW
โดยพิจารณาว่าเข้าข่ายผูกขาดกิจการไฟฟ้า เนื่องจากปตท.ในฐานะผู้ถือหุ้นจำหน่ายทั้งไฟฟ้าและวัตถุดิบคือก๊าซธรรมชาติ แม้ว่ากกพ.ชุดก่อนจะพิจารณาเบื้องต้นว่าไม่เข้าข่ายผูกขาดโดยเทียบกำลังผลิตของหลังซื้อโกวล์แล้วจะอยู่ประมาณ 5000 เมกะวัตต์
ขณะที่โรงไฟฟ้าทั้งประเทศมีกำลังผลิตกว่า 50,000 เมกะวัตต์ ที่ประชุมมีมติไม่อนุมัติให้ เข้าซื้อกิจการของ GLOW เนื่องจากอาจขัดข้อกฎหมายของพ.ร.บ.การประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ.2550 เรื่องการส่งเสริมการแข่งขัน
นอกจากนี้ ยังพิจารณากรณีที่บริษัทกัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) อุทธรณ์กรณีไม่อนุญาตให้จำหน่ายก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) โดยพิจารณาให้อนุมัติให้จำหน่ายได้ หลังก่อนหน้านี้ให้เหตุผลว่าเพราะบริษัทไม่มีแหล่งนำเข้าแอลเอ็นจีที่ชัดเจน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นของ GLOW และ GPSC เช้านี้ได้ปรับตัวลดลงอย่างหนัก หลังจากมีกระแสข่าวว่า มติ กกพ. ไม่อนุมัติให้ GPSC เข้าซื้อกิจการ GLOW
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.37 น. ราคาหุ้น GPSC อยู่ที่ระดับ 66.25 บาท ลดลง 1.75 บาท หรือ 2.57%
ขณะที่ราคาหุ้น GLOW อยู่ที่ระดับ 82.50 บาท ลดลง 5 บาท หรือ 6%
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตุว่ากกกพ.ชุดนี้ เพิ่งได้รับการแต่งตั้งด้วย คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 14/2561 ไปเมื่อวันที่ 14กันยายน ที่ผ่านมา แต่ก็พิจารณาเรื่องดังกล่าวได้อย่างรวดเร็ว
