ตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงของการปรับฐานของดัชนี และขาดปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน การเลือกลงทุนหุ้นควรจะเลือกเป็นรายตัว โดยเน้นไปที่หุ้นอิงตามเทศกาลต่างๆ ซึ่งในเดือนตุลาคมของทุกปีจะตรงกับเทศกาลกินเจ ดังนั้น มุมมองของการลงทุนในช่วงนี้ก็ควรเลือกหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากเทศกาลดังกล่าว
บล.เอเซียพลัสได้ประเมินว่า จากการวิเคราะห์เชิงปริมาณในอดีต ย้อนหลัง 3 ปี (2558 – 2560) หุ้นอิงกับเทศกาลกินเจในกลุ่มที่ได้ประโยชน์เทศกาลกินเจปรับตัวเพิ่มขึ้นช่วงเทศกาลตลอด 3 ปี และให้ผลตอบแทนเป็นบวกทุกบริษัท ในทางตรงกันข้ามหุ้นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบปรับตัวลดลงจำกัด
สำหรับเทศกาลกินเจ เป็นการถือศีลจีน และกินอาหารจำพวกพืชผัก ไม่มีเนื้อสัตว์ และของปรุงรสต้องห้ามบางอย่าง โดยในแต่ละปีจะมีช่วงเวลาที่แตกต่างกัน เพราะเทศกาลกิจเจมีขึ้นในวันขึ้น 1 ค่ำ ถึง 9 ค่ำ เดือน 9 (ตามปฏิทินจีน) แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงต้นเดือนตุลาคมของทุกปี ซึ่งหนุนผู้ประกอบการผลิตและจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม
ทั้งนี้ ในปีนี้หอการค้าไทยคาดการณ์ว่าจะมีเงินสะพัดในช่วงกินเจสูงสุดในรอบระยะสำรวจ 11 ปี อยู่ที่ 45,937 ล้านบาท เติบโต 1.9%จากงวดเดียวกันปีก่อน ฝ่ายวิจัยฯ จึงได้ทำคัดกรองหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเทศกาลนี้ คือ กลุ่มค้าปลีก, กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ตรงกันข้ามหุ้นที่กระทบ คือ กลุ่มจำหน่ายเนื้อสัตว์
สำหรับกลุ่มที่ได้ประโยชน์เทศกาลกินเจ ได้แก่ กลุ่มค้าปลีก ปัจจุบันส่วนใหญ่คนกินเจจะเลือกซื้ออาหารและเครื่องดื่มเจ เช่น ผักสด, ผลไม้ และอาหารเจปรุงสำเร็จ จากร้านอาหารหรือร้านสะดวกซื้อมากขึ้น เพราะสะดวก และตอบโจทย์ความต้องการไลฟ์สไตล์คนเมือง ช่วยหนุนให้มีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
อีกทั้งในไตรมาส 4 ยังเป็นช่วงที่ดีที่สุดของ(High Season) ของกลุ่มฯ ช่วยหนุนผลประกอบการให้โดดเด่นช่วงที่เหลือของปี โดยหุ้นที่ได้ประโยชน์จากประเด็นดังกล่าว คือ CPALL มีสาขา 7-Eleven ทั่วประเทศเกินกว่า 10,000 สาขา และในช่วงฤดูกินเจ 7-Eleven มีการขายอาหารเจพร้อมทานที่หลากหลายและสะดวกในการซื้อ
ส่วน BJC ช่วงกินเจจะมีแคมเปญกระตุ้นยอดขายในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม จากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ตรงกับความต้องการลูกค้า หนุนยอดขาย BIG C ที่มีกว่า 200 สาขาทั่วประเทศ อีกทั้งยังมีการขายอาหารเจปรุงสำเร็จในห้าง เพื่อเป็นการเพิ่มยอดขายอีกทาง
อย่างไรก็ตาม กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม นอกจากได้ ประโยชน์ทางตรงจากเทศกาลกินเจแล้ว พฤติกรรมผู้บริโภคหันมาสนใจรักสุขภาพมากขึ้น หนุนยอดขายไม่ได้จำอยู่เฉพาะในช่วงเทศกาลกินเจ โดยหุ้นที่ได้ประโยชน์จากประเด็นดังกล่าว แม้จะเป็นหุ้นทีฝ่ายวิจัยแนะนำอาจเก็งกำไรระยะสั้น คือ TKN เพราะนอกจากประเด็นเรื่องกินเจดังกล่าวแล้ว ช่วงต้นไตรมาส 4 เข้าสู่ช่วง Golden Week ของประเทศจีน ช่วยหนุนยอดขายในจีนที่สัดส่วนสูงถึง 35% ของยอดขายรวมของ TKN ส่งผลให้กำไรไตรมาส 4 ฟื้นตัวได้ดี รวมทั้ง หุ้นที่ฝ่ายวิจัยฯไม่ได้ศึกษา อย่าง MALEE, TIPCO โดยช่วงเทศกาลกินเจห้ามดื่มนมวัว ทำให้นมถั่วเหลือง น้ำผลไม้ขายดีขึ้น
ในทางตรงกันข้ามกลุ่มที่ได้รับผลกระทบเทศกาลกินเจ จะเป็นกลุ่มอาหารจำหน่ายเนื้อสัตว์ อย่าง CPF, GFPT, TU, TFG, BR ได้รับผลกระทบช่วงสั้นจากเทศการกินเจ รวมถึงผลประกอบการไตรมาส 4 ที่เป็นช่วง Low Season กดดันราคาเนื้อสัตว์ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ดีผลตอบแทนในอดีตช่วงกินเจปรับตัวลงไม่มากนัก และมีบางบริษัทที่มีราคาปรับตัวสูงเกินกว่า 20% อย่าง TU และ CPF หากราคาปรับตัวลดลง ถือเป็นโอกาสซื้อสะสมเพื่อลงทุนระยะยาว
จากการสำรวจข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศพบว่าการเคลื่อนไหวราคาหุ้นที่โยงกับเทศกาลกินเจ ในเดือนตุลาคมช่วง 3ปีย้อนหลัง พบว่า หุ้นที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวก ได้แก่ หุ้น BJC ดำเนินธุรกิจค้าปลีก โดยในเดือนตุลาคมปี 2560 ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.42% ในเดือนตุลาคมปี 2559 ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 18.54% และในเดือนตุลาคมปี 2558 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 11.11%
หุ้น MALEE ผลิตและจำหน่ายผลไม้กระป๋องและน้ำผลไม้ ภายใต้เครื่องหมายการค้า มาลี โดยมีจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในเดือนตุลาคมปี 2560 ราคาหุ้น ปรับตัวเพิ่มขึ้น 11.54% เดือนตุลาคมปี 2559 ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 15.05% เดือนตุลาคมปี 2558 ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 5.17 %
หุ้น CPALL ดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อภายใต้เครื่องหมายการค้า 7-Eleven และให้สิทธิแก่ผู้ค้าปลีกรายอื่นในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และลงทุนในธุรกิจสนับสนุนธุรกิจร้านค้าสะดวกซื้อเดือนตุลาคมปี 2560 ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 4.87% เดือนตุลาคมปี 2559 ราคาหุ้นลดลง 1.22% เดือนตุลาคม 2558 ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 4.71%
หุ้น TKN ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายสาหร่ายแปรรูปทั้งในและต่างประเทศภายใต้ตราสินค้า “เถ้าแก่น้อย” รวมถึงขนมขบเคี้ยว และผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพประเภทอื่นๆ โดยผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท คือ สาหร่ายแปรรูป แบ่งตามลักษณะของผลิตภัณฑ์เป็น 4 ประเภทได้แก่ 1) สาหร่ายทอดกรอบ 2) สาหร่ายย่าง 3) สาหร่ายเทมปุระ 4) สาหร่ายอบ เดือนตุลาคมปี 2560 ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 12.94% เดือนตุลาคมปี 2559 ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 26.83% ขณะที่ในเดือนตุลาคมปี 2558 ยังไม่เข้าซื้อขายในตลาดหุ้นไทย
