ฟอม์ม ทุ่ม 1,000 ล้านบาท ปักหลักไทย ตั้งโรงงานผลิต “FOMM One” ราคา 6.6 แสนบาท ยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กโมเดลแรกของโลก ประหยัด- ลอยน้ำได้รองรับอุทกภัย พร้อมเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออก ตั้งเป้า 3 ปียอดขาย 10,000 คัน
นาย ฮิเดโอะ ซูรุมากิ ประธานเจ้าหน้าบริหาร บริษัท เอฟโอเอ็มเอ็ม (เอเชีย) จำกัด (ฟอมม์) เปิดเผยว่า บริษัทเลือกประเทศไทยตั้งโรงงานยานยนต์ไฟฟ้า “FOMM One” โมเดลแรกของโลก ทั้งรองรับตลาดในประเทศ และเพื่อการส่งออก สัดส่วน 60 % 40 % โดยช่วงแรกจะจำหน่ายในประเทศไทยก่อน
การตัดสินใจครั้งนี้ เพราะไทยมีความพร้อมในอุตสาหกรรมรถยนต์ และมีการสนับสนุนภาคการผลิตรถยนต์มาอย่างยาวนาน ประกอบกับรัฐบาลไทยมีนโยบายชัดเจนในการส่งเสริมและสนับสนุนให้ประเทศไทยมีโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้า
สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า FOMM One ถือเป็นรถรุ่นแรกที่ออกแบบโดยทีมงานวิศวกรญี่ปุ่น และผลิตในประเทศไทย เป็นยานยนต์นั่งส่วนบุคคลไฟฟ้า 4 ที่นั่ง ที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก มูลค่าการลงทุนในในโรงงานประมาณ 1,000 ล้านบาท กำลังผลิตประมาณ 10,000 คันต่อปี โรงงานตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี นอกจากนี้ยังมีแผนลงทุนอีก 200 ล้านบาทในส่วนของเครือข่ายการขายและบริการ
โดยคาดว่ารถคันแรกที่ออกจากสายพานการผลิต จะสามารถส่งมอบให้แก่ลูกค้าที่มียอดจองเข้ามาแล้ว 355 คันได้ในประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2562
“เราได้ปรับเปลี่ยนแนวคิดการผลิตรถยนต์ไปจากเดิมมาก เพราะในอดีต ธุรกิจการผลิตรถยนต์จะเริ่มต้นที่ประเทศญี่ปุ่น จากนั้นจึงจะขยายไปยังประเทศอื่น แต่เพราะความเชื่อมั่นในนโยบายของรัฐบาลไทยที่ให้การส่งเสริมการลงทุนการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า บวกกับความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ในภาคการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ของไทย ซึ่งมีความแข็งแกร่งมาเป็นเวลายาวนาน เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้เราตัดสินใจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของไทยว่ายังเป็นดีทรอยท์แห่งเอเชีย” นายซูรุมากิ กล่าว
ขณะนี้คณะอนุกรรมการส่งเสริมการลงทุนได้อนุมัติแล้ว อยู่ระหว่างการอนุมัติจากคณะกรรมการการส่งเสริมการลงทุนชุดใหญ่ต่อไป ถือเป็นค่ายแรกที่จะได้รับบีโอไอและมีการผลิตจริง
สำหรับชิ้นส่วนประกอบรถยนต์นั้น ลดชิ้นส่วนเหลือ 1,600 ชิ้น จากรถที่ใช้เชื้อเพลิงทั่วไปที่มีกว่า 30,000 ชิ้น และใช้ชิ้นส่วนในประเทศไทย 75% อีก 25% นำเข้าจากญี่ปุ่น ไต้หวัน จีน สเปน และสหรัฐ
คุณสมบัติพิเศษยังเป็นรถ “ลอยน้ำได้” โดยมีการติดตั้งระบบป้องกันน้ำเข้ารถ และลอยตัวได้เมื่อมีน้ำท่วมกะทันหัน เพราะมีประสบการณ์จากอุทกภัยในญี่ปุ่น และในหลายๆ ประเทศ จึงออกแบบมารองรับด้วย โดยระดับน้ำที่ 0-60 ซม.รถสามารถวิ่งบนถนนได้ แต่หากสูงเกิน 70 ซม.ขึ้นไปสามารถลอยน้ำได้
นายธนานันต์ กาญจนคูหา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอฟโอเอ็มเอ็ม (เอเชีย) จำกัด กล่าวว่า รถยนต์ไฟฟ้า “ FOMM One “ เป็นรถที่ใช้มาตรฐานรถยนต์ขนาดเล็ก L7e ถือเป็นโมเดลแรกของโลก ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 664,000 บาท โดยมีบริษัท พีอีเอ เอ็นคอม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เป็นตัวแทนจำหน่ายรายแรกของบริษัท และจะมีการจัดตั้งดีลเลอร์เพิ่มเติมในอนาคตอีก 10 แห่งภายใน 1 ปีเป็นกรุงเทพ 5 แห่ง และต่างจังหวัด 5 แห่ง
บริษัทตั้งเป้ายอดขายภายใน 3 ปี 10,000 คัน ส่วนปีแรกคาดว่าจะมียอดขาย 2,500 คัน ประมาณ 80% เป็นลูกค้าองค์กร โดยเฉพาะกฟภ.ที่ส่งเสริมให้องค์กร และพนักงานใช้เป็นต้นแบบ มีการร่วมมือกับสหกรณ์กฟภ.ทำโปรโมชั่นดาวน์เพียง 2,900 บาทผ่อนชำระ 10 ปี นอกจากพนักงานแล้ว ยังเปิดให้บุคคลภายนอกเข้าไปยื่นขอสินเชื่อเพื่อเช่าซื้อรถยนต์ด้วย
บริษัทเตรียมจัดให้มีการทดลองขับยานยนต์ไฟฟ้า “FOMM One” ระหว่างวันที่ 2 – 4 พฤศจิกายนนี้ที่กรุงเทพฯ เพื่อสร้างความมั่นใจ และจะมีโรดโชว์ไปในจังหวัดต่างๆ
สำหรับสเป็ครถนั้น มีน้ำหนักตัวรถ 445 กิโลกรัม น้ำหนักโหลดของได้อีกประมาณ 400 กิโลกรัม (ไม่รวมแบตเตอรี่) ติดตั้งมอเตอร์แบบ In-Wheel ขนาด 5kWx2 แรงบิด 560 Nm. เหมาะสำหรับการใช้ในเมือง ส่วนการบริการหลังการขาย บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับบีควิก และ A.C.T. และมีแผนจะจัดตั้งศูนย์บริการของตัวเองด้วย
ส่วนระยะทางวิ่งนั้น รถชาร์จประจุไฟฟ้าจาก 0-100 จนเต็มหนึ่งรอบ ประมาณ 6 ชั่วโมง วิ่งได้ระยะทางประมาณ 160 กิโลเมตร และสามารถขึ้นไปได้ถึง 180 กิโลเมตร เพียงพอต่อใช้รถหนึ่งวัน เมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตรแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 30 สตางค์ต่อกิโลเมตร ประหยัดได้ 200,000 บาทภายใน 5 ปี ทำให้รถ FOMM One ได้รับการตอบรับจากลูกค้า เนื่องจากราคาน้ำมันที่กำลังพุ่งสูงเป็น 30-35 บาทต่อลิตร
นายธนานันต์ กล่าวว่า ราคารถจะถูกลงอย่างแน่นอนในอนาคต เพราะจากการติดตามราคาแบตเตอร์รี่มาตลอด 10 ปีพบว่าราคาลดลงอย่างต่อเนื่องปีละ 15% สำหรับแบตเตอร์รี่ในรถ FOMM One นั้น บริษัทได้จับมือกับบริษัท BETA SOLUTION ENERGY ซึ่งกำลังตั้งโรงงานแพคเกจจิ้งแบตเตอร์รี่ที่จังหวัดสมุทรปราการ
ส่วนข้อกังวลเรื่องจุดชาร์จไฟฟ้านั้น รถสามารถชาร์จได้ 3 ช่องทาง ก็คือ ที่บ้าน และจุดชาร์จไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันกรุงเทพมีประมาณ 300 กว่าจุดแล้ว ต่างจังหวัดประมาณ 11 จุด และกฟภ.กำลังขยายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงในอนาคตจะวางจุดรับเปลี่ยนแบตเตอร์รี่ให้ลูกค้าในกรณีไม่ต้องการชาร์จไฟด้วย
บริษัทยังมีแผนพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าในรุ่นอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย เช่น รถสปอร์ต และจักรยานยนต์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีกลุ่มลูกค้าให้บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์องค์กรโดยเฉพาะด้วย เช่น บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด ที่ให้บริษัทพัฒนารถขนส่งพัสดุใช้ไฟฟ้า เป็นต้น
