อย.สหรัฐ ลงมติเกือบเป็นเอกฉันท์ รับรองความปลอดภัย และประสิทธิผลของ “วัคซีนป้องกันโควิด” ของ “โมเดอร์นา” ทำให้ในขณะนี้ สหรัฐมีวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ที่สามารถนำมาใช้งานได้ 2 สูตรแล้ว
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หลังจากที่ใช้เวลาประชุมนานถึง 7 ชั่วโมง ช่วงเย็นวานนี้ (17 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น คณะกรรมการที่ปรึกษาพิเศษด้านวัคซีนขององค์การอาหาร และยาสหรัฐ (FDA ) ได้มีมติ 20 ต่อ 0 โดยมีผู้งดออกเสียงหนึ่งคน รับรองความปลอดภัย และประสิทธิผลของวัคซีนต้านโควิด-19 ตัวที่สอง ที่บริษัทเวชภัณฑ์ โมเดอร์นา (Moderna) พัฒนาร่วมกับสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐ (NIH) โดยระบุว่า วัคซีนของโมเดอร์ แสดงให้เห็นว่ามีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง ต่อผู้รับวัคซีนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
คาดว่า FDA อาจเคาะการอนุมัติขั้นสุดท้ายหลังจากนี้อีกไม่นาน โดย ดร. โดแรน ฟิงค์ ประจำ FDA กล่าวเปิดการประชุมของคณะกรรมการว่า การพิจารณวัคซีนครั้งนี้เป็นไปอย่าง “โปร่งใส เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์ และอยู่บนพื้นฐานของข้อมูล”
การอนุมัติวัคซีนของโมเดอร์นาจะช่วยส่งเสริมการระดมฉีดวัคซีนในสหรัฐ ที่เริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์นี้ หลังจากที่วัคซีนจากบริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) และไบโอเอ็นเทค (BioNTech) ที่ได้รับการอนุมัติก่อนหน้านี้ ถูกจัดส่งออกไปมากขึ้นในวันพฤหัสบดี เพื่อให้ถึงมือบุคลากรด้านสาธารณสุข และผู้พักอาศัยในบ้านพักคนชราทั่วสหรัฐ
สหรัฐ กำลังต้องการวัคซีนตัวที่สอง ที่ผลิตโดยโมเดอร์นา อย่างเร่งด่วน ท่ามกลางยอดผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และยอดผู้เสียชีวิตที่ยังคงพุ่งสูงขึ้นก่อนเข้าช่วงเทศกาลวันหยุด ที่คาดว่าผู้คนจะเดินทางและพบปะกันจนทำให้การระบาดของเชื้อไวรัสหนักขึ้นกว่าเดิม
วัคซีนของบริษัทโมเดอร์นาถูกพัฒนาด้วยเทคโนโลยีคล้ายกับวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์และบริษัทไบโอเอนเท็ค โดยใช้ชิ้นส่วนรหัสพันธุกรรมของเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ กระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายสามารถตรวจจับและต่อสู้กับเชื้อดังกล่าวได้ โดยวัคซีนของทั้งสองบริษัทจะแบ่งให้เป็นสองโดส ห่างกันครั้งละสี่สัปดาห์
การพัฒนาวัคซีนทั้งสองอย่างรวดเร็วถือว่าเป็นหนึ่งในความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์ในการเอาชนะโควิด-19 โดย ดร. เจซเซ กู๊ดแมน อดีตหัวหน้าแผนกวัคซีนของ FDA ระบุว่า วัคซีนทั้งสองมาเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า อาจต้องใช้เวลาหลายปีในการพัฒนา อย่างไรก็ตาม มีการศึกษาวัคซีนทั้งสองสูตรในกลุ่มอาสาสมัครเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น และจะต้องมีการติดตามผลต่อไปเพื่อตอบคำถามที่สำคัญ เช่น วัคซีนจะสร้างภูมิคุ้มกันได้นานเท่าใด
อีกคำถามหนึ่งที่ยังไม่ได้รับคำตอบคือ วัคซีนจะสามารถป้องกันการติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการได้หรือไม่ ซึ่งทางโมเดอร์นาระบุว่าอาจเป็นไปได้ โดย ดร. แจคเกอร์ลีน มิลเลอร์ แห่งโมเดอร์นา ระบุว่า ผู้เข้ารับการทดลองได้รับการเก็บตัวอย่างทางจมูกก่อนได้รับวัคซีนจริงหรือวัคซีนหลอกโดสที่สอง และผลการตรวจหาเชื้อจากผู้รับวัคซีนจริง 14 คน และผู้รับวัคซีนหลอก 38 คน พบว่าพวกเขาติดเชื้อไวรัสแบบไม่แสดงอาการ
นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้อย่างค่อนข้างแน่นอนว่า FDA จะอนุมัติวัคซีนของโมเดอร์นาอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ในวันอังคาร FDA ได้ทำการวิเคราะห์เบื้องต้น และพบว่าวัคซีนดังกล่าวปลอดภัยและมีประสิทธิผล ทั้งนี้ วัคซีนของโมเดอร์นาจะยังอยู่ในขั้นทดลองของบริษัทต่อไป โดยเป็นการทดลองนานสองปีในกลุ่มผู้คน 30,000 คน
ในการทบทวนประสิทธิผลของวัคซีนนั้น FDA ระบุว่า วัคซีนของโมเดอร์นามีประสิทธิผลในการป้องกันโรคโควิด-19 กว่า 94 เปอร์เซ็นต์ และไม่พบปัญหาความปลอดภัยร้ายแรง โดยพบเพียงผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปหลังการฉีดวัคซีน เช่น อาการไข้ เหนื่อย และปวดกล้ามเนื้อ
ทั้งนี้ หาก FDA อนุมัติวัคซีนของโมเดอร์นา คาดว่าวัคซีนเกือบ 6 ล้านโดสจะถูกจัดส่งไปยังบุคลากรด้านสาธารณสุขและบ้านพักคนชรา โดยจะต้องมีการจัดเก็บวัคซีนในอุณหภูมิแช่แข็ง แต่ไม่ถึงกับระดับเย็นจัดเหมือนวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์และบริษัทไบโอเอนเท็ค
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- คาดทั่วโลกเปิด ‘เที่ยวบินระหว่างประเทศ’ ไตรมาส 4 ปีหน้า ‘ทอท.’ เตรียมแผนรองรับ
- ไม่รอด! ‘มาครง’ ผู้นำฝรั่งเศสติด ‘โควิด’
- ศบค.ยกเลิกจัดกลุ่มประเทศเสี่ยง ดึงต่างชาติเข้าไทย ขยายเวลาเที่ยวเพิ่ม 15 วัน