“สมคิด” สั่งหน่วยงานคมนาคม “การรถไฟฯ-รฟม.-การท่าเรือฯ-กรมทางหลวง” พิจารณาการระดมทุนผ่านกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน เร่งผุดรถไฟทางคู่เชื่อมระนอง-ชุมพร
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยระหว่างเดินทางตรวจเยี่ยมและติดตามงานที่กระทรวงคมนาคมวันนี้ (8 ต.ค.) ว่า ประเทศไทยกำลังเตรียมตัวเข้าสู่การเลือกตั้งในอีก 3 เดือนข้างหน้าและอีก 2 เดือนถึงจะได้จัดตั้งรัฐบาลใหม่ แต่ระหว่างนี้ก็ขอให้หน่วยงานต่างๆ อย่าเสียเวลา ต้องทำงานทุกอย่างให้คืบหน้า อย่าให้งานชะลอไป 6 เดือนเพื่อรอการเลือกตั้ง เพราะจะจอดโดยไม่ต้องแจวเลย
เร่งเครื่องเส้นทางรถไฟเชื่อมอ่าวไทย-อันดามัน
สำหรับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ต้องการให้เร่งรัดโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เพราะรถไฟความเร็วสูงช่วงจีน-ลาว มีความคืบหน้าไปมากแล้ว พร้อมสั่งการให้เร่งรัดโครงการรถไฟทางคู่ ชุมพร-ระนอง 116 กิโลเมตร 1.9 หมื่นล้านบาทขึ้นมาก่อน เพราะเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์สำคัญ เชื่อมโยงการลงทุนระหว่างอ่าวไทยและทะเลอันดามัน
“แต่ไหนแต่ไร เรามัวแต่พูดถึงคอคอดกระ มันจะถูกจะผิดยังไง แต่ในทางการเมืองมันไปได้ยาก แต่พอเรามีตรงนี้ขึ้นมา อยากให้ท่านไปดีไซน์พร้อมกับทางกรมเจ้าท่า (จท.) และผู้เกี่ยวข้องว่า ถ้าจะทำรถไฟเชื่อมโยงไปที่ชุมพร จ.ชุมพรก็ควรมีท่าเทียบเรืออย่างไร เพื่อตีข้ามไปที่ระนอง แล้วยิงโครงการนี้ในปีหน้าขึ้นมาให้ได้ ให้ความเจริญ 2 ซีกจะเกิดขึ้นและเกิดทางเชื่อมระหว่างอีอีซีกับชุมพร มันจะเป็นตัวกระตุ้นให้ท่าเรือสุราษฯ เกิดการพัฒนา ไม่งั้นความเจริญจะไปอยู่แต่ที่ชุมพร ผมฝากให้ดูเป็นกรณีพิเศษหน่อย” นายสมคิด กล่าว
นอกจากนี้ขอให้การรถไฟฯ พิจารณาลงทุนในเส้นทางที่ส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยในอนาคตงบประมาณของการรถไฟฯ จะเพิ่มขึ้นและถ้าไม่เพียงพอ รัฐบาลก็จะให้งบประมาณสนับสนุนเพิ่มขึ้นอีก แต่ก็มองว่าการรถไฟฯ มีโอกาสระดมทุนผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (Thailand Future Fund) ในอนาคต
“ผมมองๆ แล้วนะ ท่าเรือกับรถไฟมันเป็นองค์กรที่สามารถทำ Future fund ได้ไม่ยาก เพราะมันมีโอกาสทางธุรกิจสูงมาก ดีกว่าปล่อยให้เช่าทำโรงแรม เสียประโยชน์” นายสมคิดกล่าว
ขณะเดียวกันนายสมคิดได้เร่งรัดให้จัดตั้งบริษัทลูกบริหารทรัพย์สินโดยเร็ว ซึ่งเบื้องต้นการรถไฟฯ ก็คาดว่าจะเสนอเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) พิจารณาได้ในเดือนนี้
เร่งรัดรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก-ม่วงใต้
ด้านการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้รายงานความคืบหน้าในการดำเนินงานต่อนายสมคิดว่า รฟม. จะเสนอรูปแบบการร่วมทุนกับเอกชน (PPP) ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ใต้) ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) วงเงิน 1 แสนล้านบาท ต่อที่คณะกรรมการ (บอร์ด) พิจารณาในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ จากนั้นจะเสนอคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (คณะกรรมการพีพีพี) ในเดือนมกราคม
ด้านโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันตก) ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ ระยะทาง 13.4 กิโลเมตร และการเดินรถไฟฟ้าสายสีส้มตลอดเส้นทาง ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี วงเงินรวม 1.43 แสนล้านบาท อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงคมนาคม โดยนายสมคิดก็ขอให้ รฟม. เร่งรัดทั้ง 2 โครงการภายในเดือนธันวาคม
“เอามาสักเส้น 2 เส้นในเดือนธันวาคมนี้ โครงการรถไฟฟ้าสีส้มและสีม่วง จากคมนาคม คณะกรรมการพีพีพี มาที่ ครม. ไม่น่าจะช้า เพราะว่าข้อมูลมันเบ็ดเสร็จในนั้นอยู่แล้ว แล้วช่วยคิดด้วยว่า Future Fund ทำตรงนี้ได้หรือเปล่า จริงๆ นะ ไม่ได้พูดเล่น แทนที่จะรอให้คนอื่นทำ ออกกองทุนผมทำได้เลยนะ แล้วใช้งบประมาณน้อยด้วย ลองดูหน่อย โครงการแบบนี้ขายได้ง่ายกว่ากรมทางหลวง ถ้าท่านทำโครงการแบบนี้ แล้ว รฟม. ถือหุ้นส่วนหนึ่งทำได้ไหม ไปหารือดู” นายสมคิดกล่าว
นอกจากนี้ นายสมคิดสั่งการให้เร่งรัดโครงการรถไฟฟ้าภูเก็ต วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท โดยเปลี่ยนเป้าหมายในการเสนอโครงการเข้า ครม. จากเดือนเมษายน 2562 เป็นภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 เพระถ้ายืดระยะเวลาเป็นเดือนเมษายน ก็ต้องรอรัฐบาลใหม่
จี้ผุดท่าเรือคลองเตย
สำหรับการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เตรียมเสนอเรื่องกู้เงินในโครงการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 วงเงินกู้ 47,000 ล้านบาท เข้าสู่ที่ประชุม ครม. คาดว่าจะเป็นสัปดาห์หน้า หลังจากนั้นจะเปิดประกวดราคา, ยื่นข้อเสนอให้เดือนมกราคม, ทราบรายชื่อผู้ชนะการประมูลในเดือนกุมภาพันธ์และและลงนามในเดือนมีนาคม
นายสมคิด ยังได้ฝากให้บอร์ดการท่าเรือฯ ดำเนินการโครงการพัฒนาท่าเรือคลองเตยให้เป็นรูปธรรม เพราะมีการหารือมา 3 ปีแล้ว ควรจะมีอะไรคืบหน้าบ้าง โดยปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างทบทวนแผนแม่บท (Master Plan) และคาดว่าจะจัดตั้งบริษัทลูกขึ้นมาดูแลได้ในปีนี้ ขณะเดียวกันก็ต้องดูแลและจัดที่อยู่อาศัยให้ชุมชนดั้งเดิม เพราะโครงการมีมูลค่ามหาศาล สามารถแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งมาดูแลและสร้างความพอใจให้ชุมชน
สำหรับโครงการเชื่อมโยงท่าเรือระนองและเท่าเรือพันธมิตรในต่างประเทศ ก็ขอให้ทำงานแบ่งเป็นเฟสๆ เพื่อความรวดเร็วและแสดงจุดยืนในการเริ่มต้นโครงการ ขณะเดียวกันก็ต้องพัฒนาให้เชื่อมโยงกับท่าเรือชุมพรและระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อให้เป็นแพคเกจที่มีมูลค่า
พร้อมเทเงินให้กรมเจ้าท่า
สำหรับกรมเจ้าท่า (จท.) ที่ผ่านมาถูกละเลย แต่ความจริงเป็นหน่วยงานที่มีความสำคัญและควรได้รับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มขึ้น โดยขอให้กล้าลงทุนพัฒนาโครงการต่างๆ แล้วจะเกิดกิจกรรมของเอกชนตามมา ขณะเดียวกันต้องยกเครื่องกำลังพลและควบคุมกฎระเบียบให้เคร่งรัด หลังจากเกิดเหตุการณ์เรือล่มใน จ.ภูเก็ต
ระดมทุนผ่านกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า นายสมคิดได้สั่งการให้หน่วยงานต่างๆ ไประดมทุนผ่าน Thailand Future Fund เช่น กรมทางหลวง (ทล.), รฟม., การรถไฟฯ เป็นต้น
