COVID-19

อาจารย์นิด้า ฟันฉับ ‘ไทยรอด’ โควิดระบาดรอบสอง ย้ำกักตัว 14 วัน สำคัญ!

ไทยรอด โควิดระบาดรอบสอง “สันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง” อาจารย์นิด้าเทียบชัด ไทย เวียดนาม เมียนมา ย้ำกักตัว 14 วัน ยังสำคัญ ชวนเที่ยวเชียงใหม่ เชียงราย

นายสันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง อาจารย์พิเศษคณะบริหารการพัฒนาสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Sunt Srianthumrong” แสดงความมั่นใจว่า ไทยรอด โควิดระบาดรอบสอง ค่อนข้างแน่นอน โดยระบุว่า

ไทยรอด โควิดระบาดรอบสอง

“Covid-19: ข่าวดีที่มาตัวเลข #2/1 เราน่าจะรอดจาก 2nd Wave ค่อนข้างแน่นอนครับ

ผมคิดว่า ด้วยความพยายามของทุกฝ่ายที่ช่วยกันเต็มที่ น่าจะได้เกิดผลลัพธ์ที่น่าเหลือเชื่ออีกครั้งครับ ตัวเลขของเราเมื่อเทียบกับ 2nd Wave ของเมียนมาและเวียดนาม กราฟดูดีมีความหวังกว่าอย่างมากครับ และเชื่อได้ว่า ถ้าเป็นแบบนี้ไปอีก 6 วัน น่าจะมั่นใจได้ครับว่า เรารอด 2nd Wave จากเหตุการณ์ล่าสุด 1G1 นี้อย่างแน่นอนครับ

หลังจากผ่านมา 8 วันนับจากเกิด Local Transmission ที่ชัดเจนขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบกว่าครึ่งปี ผมทำสรุปกราฟที่แสดงตัวเลขสำคัญ 2 ตัวคือ %Increase และจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม ตั้งแต่วันแรกที่พบ Local Case ถึงวันที่ 14 ซึ่งของเราอีก 6 วันกราฟถึงจะเต็มนะครับ มาลุ้นกัน โดยเทียบกับกราฟของเหตุการณ์ 2nd Wave ของเมียนมาที่

เริ่มที่รัฐยะไข่ และของเวียดนามที่เกิดที่ดานังครับ

ในกราฟ สีแดงคือเมียนมา สีส้มคือเวียดนาม สีเขียวคือไทยครับ

กราฟ %Increase และกราฟจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม:

โควิด 2

ช่วงวันแรก ๆ ตัวเลขน้อย %Increase ที่เกิดขึ้นจะสูงและ Swing มากเป็นปกติ ทุกประเทศครับ

เวียดนาม : จัดการได้ดีมากกราฟลงได้เร็วครับ และเร็วมากพอ

เวียดนาม ล็อกดาวน์ เมืองดานังแบบเข้มงวดมากๆระดับ Barbarian ทันทีและตามล็อคทุกคนที่เดินทางออกจากดานังสำเร็จครับ 14 วันผ่านไป %Increase ลงไปเหลือแค่ 6.17% ซึ่งดีพอที่จะลงสู่ 0 New Case หลังจากผ่านไปครบประมาณ 30 วันครับ

แต่ถึงอย่างนั้น ถ้าดูจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมเฉพาะของ 2nd Wave ก็โดนไปประมาณกว่า 600 คนครับ และมีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้น 35 คนด้วย

ปัญหาสำคัญของกรณีดานัง ก็คือ รัฐบาลเวียดนามไม่สามารถระบุต้นตอของผู้ติดเชื้อหมายเลข 1 ได้ว่าติดมาจากใครครับ เป็น Unknown Local Transmission ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มาก

โควิดด

เมียนมา: จัดการได้ดีมากเช่นกันในช่วงแรกครับ แต่ไม่ดีพอ

แม้รัฐบาลเมียนมาจะสั่งการ ล็อกดาวน์ รัฐยะไข่ แต่ก็ช้าเกินไปมากกว่า 1 สัปดาห์ มีคนจากที่นั่นเดินทางเข้ามาย่างกุ้งแล้วจำนวนมาก รัฐบาลเมียนมาไม่ประสบความสำเร็จมากนัก ในการควบคุมการเคลื่อนย้ายของผู้คน และไม่สามารถติดตามทุกคนที่เดินทางออกจากรัฐยะไข่ได้ นี่คือจุดเปลี่ยนครับ

นอกจากนี้ การล็อกดาวน์ ที่เกิดขึ้นช่วงแรกก็เบาเกินไป จนทำให้เชื้อแพร่กระจายทั่วย่างกุ้งอย่างรวดเร็ว และไปทั่วประเทศ จนเกินความสามารถในการทำ Contact Tracing ของทีมงานสาธารณสุขของเขาที่เคยเป็นจุดแข็งมากๆในการต่อสู้ชนะ Wave#1 มาได้ครับ

ตัวเลขหลังจากผ่านไป 14 วัน %Increase ยังสูงถึง 11.7% ไม่ดีพอที่จะลงสู่ 0 New Case และปัจจุบันผ่านมา เกือบ 4 เดือนก็โดน Wave#2 ไปแสนกว่าคนแล้ว และน่าจะไปต่ออีกพอสมควร

ปัญหาสำคัญอีกประการของกรณีรัฐยะไข่ก็คือ รัฐบาลเมียนมาไม่สามารถระบุต้นตอของผู้ติดเชื้อหมายเลข 1 ได้ว่าติดมาจากใครครับ เป็น Unknown Local Transmission เช่นกันและประกอบกับความล้มเหลวอีกหลายประการ Wave#2 ของเมียนมาจึงใหญ่โตกว่าของเวียดนามมากครับ

Sunt Srianthumrong
สันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง

ไทย กรณี 1G1

ทีมงานสาธารณสุขเราเก่งมาก ๆ ทหารตำรวจมหาดไทยที่ชายแดนก็อุดรูเก่งมาก ทั้งความร่วมมือของผู้คนในพื้นที่และทั่วประเทศก็ดีมากๆครับ แม้แต่ความร่วมมือของผู้ผิดพลาดก็ดีมาก เพราะนั่นเป็นจุดสำคัญที่ทำให้เราระบุต้นทางของผู้ติดเชื้อรายแรกได้ว่า ติดมาจากที่ไหนครับ จนทำให้ให้เส้นกราฟสีเขียวของเราผ่านมา 8 วัน ลงไปต่ำกว่าของเมียนมาและเวียดนามอย่างมากครับ %Increase เรามี 0 แล้ว

ในขณะที่ผู้ติดเชื้อสะสม Local นิ่งอยู่ที่ 12 คนอยู่ต่ำมากจนติดแกนนอนเลย และเราสามารถระบุต้นทางของการติดเชื้อได้ทุก Case ซึ่งสำคัญมากๆครับ โดยนี่คือ ผมรวมกรณีพยาบาลซึ่งไม่เกี่ยวกันโดยตรงเข้าไปด้วยแล้วนะครับ ถ้าระบาดในระดับเวียดนามหรือเมียนมา วันนี้เราต้องเห็นหลักร้อยแล้วครับ การที่เราไม่เห็นนี่คือ “มหัศจรรย์” ครับ

ที่ผมใช้คำว่า “มหัศจรรย์” เพราะว่า ไม่ใช่แค่เวียดนาม เมียนมา จริง ๆ ยังมีอีกหลายประเทศ ที่เริ่มจากการรั่วแบบนี้ มีทั้งที่ระบุต้นตอของ 1st Local Case ได้และระบุไม่ได้ ก็ต่างไม่รอด 2nd Wave ทั้งสิ้น เช่น มาเลเซียโดนไปแล้ว 70,000 ออสเตรเลียโดนไป 20,000 ไอซ์แลนด์โดนไป 3,700 นิวซีแลนด์โดนไปเบาสุดก็ยัง 300 กว่า ทุกประเทศเหล่านี้ล้วนชนะ Wave#1 มาอย่างเด็ดขาดทั้งสิ้นครับ และการจัดการ Wave#2 ก็ทำได้ดีมากด้วย

shutterstock 1676695528 e1607687707207

ทำไมไทยถึงรอด?

วันนี้เพิ่งวันที่ 8 ครับ ผมยังไม่อยากรีบสรุป ยังเผื่อใจไว้หน่อยนึง แต่ก็มีความหวังมากครับ และมีความขอบคุณทุกฝ่าย

1. ทีมงานสาธารณสุข การไล่ล่า การทำ Contact Tracing สุดยอดมาก

2. ทหาร ตำรวจ มหาดไทย ที่ชายแดน อึดและเหนียว อุดมาได้ 4 เดือนแล้ว รั่วน้อยมากๆ และยังเพิ่มความเหนียวเข้าไปอีกจากเหตุกาณ์นี้ มันยากมากนะครับ 2,400 กม. 24 ชั่วโมง และยังพลิกนโยบายตระเตรียม Facility ต่างๆเปิดรับให้คนเข้ามาโดยไม่ต้องลักลอบ ผมว่ามันช่วยเยอะเลยครับ

3. ประชาชนที่ตื่นตัว ใส่หน้ากากมากขึ้นทันที ลดการเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง จับตาคนที่มาจากพื้นที่เสี่ยง ซึ่งถึงแม้บางคนจะมองว่าตื่นตูมและโหดร้าย แต่นี่ก็คือคือหนึ่งในคีย์สำคัญครับ

4. ผู้ผิดพลาด หลายคนตำหนิพวกเขามากๆ ซึ่งก็น่าตำหนิจริงๆนะครับ แต่ผมว่าพวกเขาก็น่าชื่นชมนะครับ พวกเขาแสดงตัวออกมา ทุกคนกลัว ทุกคนยังมีความรับผิดชอบในส่วนสำคัญมาก พวกเธอส่วนใหญ่ออกมาสู่ที่สว่าง

นี่เป็นสิ่งที่ทำให้เราพบต้นทางของ 1st Local Transmission ครับ ผมจึงไม่เห็นด้วยเลยกับการจะลงโทษพวกเธออย่างรุนแรง คนในประเทศอื่นแย่กว่านี้มากครับ ถ้าพวกเธอกลับเข้าไปสู่ที่มืด สถานการณ์จะอันตรายมากครับ

ความเสี่ยงที่ยังเหลืออยู่

1. กลุ่มเสี่ยงที่กลัวและยังไม่เแสดงตัว: ออกมาเถอะครับ ช่วยๆกันครับผม

2. คนที่ติดเชื้อไปแล้วแต่ยังไม่แสดงอาการ: อาจจะมี หรืออาจจะไม่มี ต้องช่วยกันใส่ Mask กันทั่วประเทศครับ แล้วจะผ่านกันไปได้ครับ

ไปเทียวเชียงใหม่ เชียงรายได้รึยัง?

ณ จุดนี้ ไปเถอะครับ ผมว่าเราทำกันได้ดีมากๆแล้ว ไปช่วยกันครับ ทุกคนที่นั่นรออยู่ และผมค่อนข้างมั่นใจว่าสุดสัปดาห์หน้า ตัวเลขและความมั่นใจจะดีกว่านี้อีกมากครับ

แต่สงครามก็ยังไม่เคยจบนะครับ อย่าเพิ่งประมาทกันครับ กฎเกณฑ์ 14 วัน ยังคงสำคัญเสมอ และการใส่ Mask และระวัง Social Distancing ก็จะสำคัญไปเสมอจนกว่าจะมีวัคซีนครับ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo