บนโลกใบนี้ กับสถานการณ์ต่างๆที่เปลี่ยนแปลงไป ผมในฐานะนักล่าความสุข และผู้กระหายการเดินทาง ย้ำเตือนกับตนเองเสมอว่า “อย่าให้ความกลัวหยุดยั้งการเดินทางและการเรียนรู้ของเรา”
ขณะเดียวกัน ในสถานการณ์เฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) ผมอยากชวนทุกท่านทะลายกำแพงไปพร้อมๆ กับผม พร้อมมาแบ่งปันข้อมูลให้ทุกท่านมั่นใจครับว่า ทุกๆการเดินทางในช่วงนี้ ปลอดภัย หายห่วงแน่นอน หากคุณไว้ใจผม และปลุกสัญชาตญาณในตนเองแล้ว เราไปลุยกันครับในจังหวัดที่เพียงพริบตาเดียวก็ไปถึง กับ “เพชรบุรี”
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้มีการจัดทำสัญลักษณ์ SHA (Safety & Health Administration) หรือข้อกำหนดเบื้องต้นที่สถานประกอบนั้นพึงมี มอบให้กับสถานประกอบการที่ผ่านเกณฑ์การรับรอง จึงมั่นใจได้ว่าตลอดการเดินทางนี้ ไม่มีอะไรต้องกังวลเลยครับ
ระหว่างการเดินทางนี้ สิ่งที่ผมอยากให้ทุกท่านพึงปฏิบัติเสมอ ผมขอเรียกสิ่งนี้ว่า 5 กิจกรรมท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ นะครับ อันได้แก่
- สวมใส่หน้ากากอนามัย
- ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์
- ใช้ถุงผ้าเพื่อลดภาวะโลกร้อน
- เซฟตี้ตัวเองเสมอด้วยเสื้อชูชีพ(มาจังหวัดนี้ใกล้น้ำครับ เผื่อมีกิจกรรมลงเรือ ล่องแก่ง)
- เช็คอินเข้าใช้บริการสถานประกอบการ ตามมาตราการไทยชนะ
เมื่อท่องจำและมั่นใจว่าทำตามกฏดังกล่าวทั้ง 5 ได้แล้ว เราไปจุดเช็คอินแรกกันเลยดีกว่าครับ พร้อมแล้ว ลุยเลย!
จุดเช็คอินที่ 1 “แก่งกระจาน ล่องแก่งเรือยาง”
แม่น้ำเพชรบุรี แม่น้ำสายเล็กๆแต่ทรงพลัง หลอมรวมด้วย กลิ่นไอดิน เสียงคลื่นน้ำ สัตว์น้อยใหญ่ ความเป็นอยู่ของผู้คน เป็นธรรมชาติขนาดแท้ที่ผสานความเจริญจากสิ่งปลูกสร้าง สวนน้ำมากมายเรียงรายกันไม่ขาดสาย เป็นสีสันและดึงดูดผู้คนให้มาเที่ยว และหนึ่งในนั้นมีผมอยู่ด้วยครับ
ผมชอบที่จะศึกษาวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของผู้คนมากๆครับ เพราะ เป็นกระจกสะท้อนให้ตัวเราได้ดี และอีกหนึ่งกิจกรรมที่ชวนผู้คนให้เข้ามาเที่ยวที่นี่คือ ล่องแก่งเรือยาง ครับ
กิจกรรมล่องแก่งใช้เวลา 1 ชั่วโมง กับสายน้ำที่ยาวกว่า 8-9 กิโลเมตร สำหรับกิจกรรมนี้ที่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมคือ การสวมใส่เสื้อชูชีพ เตรียมเสื้อผ้าแบบเปียกได้ เตรียมกระเป๋ากันน้ำได้ด้วยก็ดี และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ครับ จึงจะสนุกและปลอดภัยตามคอนเซ็ปต์แบบเราๆ อย่างไรแล้ว จุดเช็คอินนี้ แอดเวนเจอร์สุดๆ ใครมากันหลายคน กิจกรรมนี้ ถือว่าเหมาะอย่างยิ่งครับ แวะมากันนะ
จุดเช็คอินที่ 2 “โครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริ”
“จากหัวมันหนึ่งผล สู่การเกษตรที่ยั่งยืนคู่ชาวเพชรบุรี” โครงการชั่งหัวมัน เกิดขึ้นได้โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลที่9 เมื่อครั้งที่พระองค์ท่านประทับอยู่ ณ วังไกลกังวล หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีชาวบ้านนำมันเทศมาถวาย แต่ช่วงนั้นพระองค์ ต้องเสด็จกลับกรุงเทพเพื่อทรงงาน จึงมีรับสั่งให้เจ้าหน้าที่นำหัวมันเทศ ไปไว้บนตราชั่งที่ห้องทรงงานของพระองค์
เวลาล่วงเลยมานานร่วมเดือน พระองค์เสด็จกลับมาที่วังไกลกังวลอีกครั้ง ก็พบว่าหัวมันเทศยังแข็งแรงดี พร้อมทั้งแตกใบใหม่รอการเติบโต จึงตรัสว่า “มัน อยู่ที่ไหนก็ขึ้น” พระองค์จึงมีพระราชดำริ ให้จัดหาที่ดินเพื่อทำโครงการด้านเกษตร ในปี 2551 จำนวน 120 ไร่ ต่อมาในกลางปี 2552 ทรงซื้อที่ดินแปลงติดกันเพิ่มอีก ที่ตำบลเขากระปุก อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี อีก 250 ไร่ เพื่อพัฒนาการเกษตรทุกรูปแบบครับ
การมาเยือนที่นี่ทำให้เราได้เห็นในหลายสิ่งหลายหลายอย่าง ใจความหลักคือเรื่องของความสามัคคี ที่ทุกคนพึงจะต้องเสียสละเพื่อส่วนรวม เพื่อประโยชน์สุขที่ยังยืนกว่า
ที่นี่ผมได้เห็นวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชาวชุมชนในเรื่องของการทำเกษตรรูปแบบต่างๆ ต่อยอดสิ่งที่มีให้ดียิ่งขึ้นไป สินค้าที่ผลิตถูกกระจายขายทั่วประเทศ และบางอย่างถูกส่งออกไปยังต่างประเทศ สร้างความภาคภูมิใจอย่างยิ่งให้กับประเทศเราครับ
ส่วนใครอยากอุดหนุนสินค้าคุณภาพของไทย แวะกันเข้ามาได้ครับ ที่นี่มีถุงผ้าคอยให้บริการ สามารถจับจ่ายสินค้าได้ตามอัธยาศัย หรือจะนำสินค้าเหล่านี้ไปเป็นของฝากก็ดีไม่น้อยครับ
จุดเช็คอินที่ 3 “ตลาดเก่าริมน้ำเพชรบุรี”
ชุมชนเก่าแก่แห่งนี้ สะท้อนความเป็นอยู่ของผู้คนแบบไม่ประดิษฐ์ประดอย เช้าจรดเย็น ผู้คนต่างมาจับจ่ายใช้สอยซื้อข้าวของ ออกเดินทางไปทำงาน นักเรียนเดินทางไปโรงเรียน พระสงฆ์บิณฑบาต มีร้านรวงค่อยๆทะยอยเปิดให้บริการตั้งแต่เช้า ทุกคนต่างปฏิบัติหน้าที่ที่พึงมีในฐานะพลเมือง พร้อมทั้งสวมใส่หน้ากากอนามัย และให้ความร่วมมือตามมาตราการการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา เป็นอย่างดี
ที่นี่ มีร้านค้าที่เปิดมาเนิ่นนานกว่า 2-3 รุ่น รวมถึงบ้านที่ต้นตระกูลเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง เช่น ร้านข้าวแช่แม่อร โรงเจหยกหลักตั้ว บ้านช่างทองป้าเนื่อง ร้านขนมครูปราณี อาลัว บ้านตั้งสวัสดิรัตน์ บ้านมนัส จรรยงค์ บ้านหมื่นศุขประสารราษฏร์ โดยแต่ละสถานที่จะมีกระดานให้ความรู้ ข้อมูลที่น่าสนใจของสถานที่นั้น เพื่อให้เราได้ศึกษาครับ
อีกหนึ่งความน่าสนใจที่ชวนผู้คนมาที่นี่คือ สตรีทอาร์ทเล็กๆ งานเพ้นท์กำแพง เป็นรูปสัตว์ชนิดต่างๆ วิธีความเป็นอยู่ ที่เราสามารถเดินไปด้วยถ่ายรูปไปด้วยได้ คนชอบถ่ายรูปอย่างผม ถูกใจสิ่งนี้เป็นอย่างมากครับ
จุดเช็คอินที่ 4 “ถ้ำเขาหลวง”
ถ้ำแห่งนี้เป็นสถานที่โปรดปรานของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 ครั้งที่พระองค์เสด็จประพาสยังถ้ำเขาหลวง โดยทรงมีรับสั่งให้บูรณะพระพุทธรูปโบราณในถ้ำ และพระองค์ยังให้สร้างบันไดขึ้นลงในถ้ำเพื่อง่ายต่อการเยี่ยมชม โดยถ้ำแห่งนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ถ้ำวิมานจักรี”
ภายในถ้ำถูกแบ่งออกเป็น 3 ห้องใหญ่ๆ แบ่งเป็น 5 คูหา โดยแต่ละห้องสามารถเดินทะลุผ่านกันได้ ภายใน มีความงดงามของหินที่หยดย้อย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่บ้านให้เราได้สักการะบูชา
อีกหนึ่งไฮไลต์ที่ธรรมชาติสรรสร้างคือ เมื่อมีแสงรอดผ่านช่องลมด้านบนของถ้ำ จะทำให้องค์ประกอบต่างๆในถ้ำสวยงามและมหัศจรรย์ไปพร้อมๆกัน เป็นภาพถ่ายยอดฮิต ที่นักสะสมเรื่องราวอย่างผม ควรมาเก็บภาพนี้กับไปฝากผู้คนครับ
จุดเช็คอินที่ 5 “อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “เขาวัง”
เขาวัง ถือเป็นโบราณสถาน แหล่งที่ท่องเที่ยวที่สำคัญและเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดเพชรบุรีเลยก็ว่าได้ เนื่องจากเขาวังถือเป็นพระราชวังเดียวในประเทศไทยที่อยู่บนยอดเขา (วังสำหรับเสด็จแปรพระราชฐาน ของในหลวงรัชกาลที่ 4 – สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ.2403) ตั้งคาบเกี่ยวอยู่บนเขา 3 ลูก มีความสูงมากกว่า 92 เมตร สถาปัตยกรรมส่วนใหญ่ถูกออกแบบสไตล์ตะวันตกผสมผสานสถาปัตยกรรมแบบจีนครับ
หากใครแวะมา ณ สถานที่แห่งนี้ ผมมีข้อแนะนำครับ คือ แนะนำให้สวมรองเท้าผ้าใบ เพื่อสะดวกต่อการเดิน เนื่องจากระยะทางในแต่ละจุดค่อนข้างอยู่ห่างจากกัน พกน้ำดื่มขวดเล็กๆไว้จิบดื่มระหว่างทางครับ และเพื่อให้ได้องค์ความรู้ที่ครบถ้วน ไม่ควรรีบครับ ค่อยๆอ่าน ค่อยๆศึกษาที่ละโซน เพื่อให้ครบองค์ประกอบการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพราะบนเขา มีหลายส่วนที่มีประวัติทรงคุณค่า เช่น พระที่นั่ง ตำหนัก วัด กลุ่มอาคาร และป้อมต่างๆ และธรรมชาติอีกมากมายที่น่าดูน่าชมครับ เพราะเราสามารถมองวิวรอบเมืองได้โดยรอบเลยครับ
เมื่อเราใช้เวลาบนยอดเขาสักพักใหญ่ จนร่างกายเริ่มหิว แนะนำให้มาที่ร้านอาหารหนึ่งชื่อว่า ร้านเจ๊กเม้ง (JM Cuisine) ร้านอาหารเมนูครีเอท รสชาติดีเยี่ยม ที่ได้รับการการันตีจากเครื่องหมาย SHA ด้านความสะอาดปลอดภัยครับ
เมนูอาหารที่แนะนำมี บะหมี่ไข่เจียวกรรเชียงปูราดซอสตาลโตนด ก๋วยเตี๋ยวหมูสับโบราณ มาม่าลาวา ข้าวกะเพรากุ้งกะต่อมไข่เป็ดดาว และเมนูอื่นๆอีกมากมายคอยให้บริการ ที่ชอบที่สุดก็เห็นจะเป็นคอนเซ็ปต์ของร้านที่การันตีความน่ารักของการให้บริการนี่แหละครับ ติดอยู่หน้าร้านว่า “หน้าไม่งอ รอไม่นาน” ครับ :)) ซึ่งก็จริงตามที่บอกครับ บริการรวดเร็ว พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใสดีครับ
นอกเหนือจากสถานที่ทั้ง 5 ที่ผมกล่าวมา จังหวัดเพชรบุรี ยังมีความน่าสนใจอีกหลายที่เลยครับ อยากให้ทุกท่านลองมาเที่ยวที่นี่ แล้วจะหลงรักความเป็นเพชรบุรีครับ
หากคุณเคยมา หรือ กำลังจะมา มาเล่าสู่กันฟังนะครับ
#Amazingไทยเท่ #เที่ยวไทยเที่ยวง่ายสนุกทุกทริป #FightingDuo
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เที่ยวบางสะพาน ‘ประจวบคีรีขันธ์ สร้างรอยยิ้มให้ความสุข
- เที่ยวเพชรบุรี ประทับใจ จำไม่รู้ลืม
- 15 วิถีเที่ยว New Normal @ ประจวบคีรีขันธ์
