COVID-19

เที่ยวปีใหม่ จัดกิจกรรมได้ทุกจังหวัด สธ.ยันอีกรอบ 7 จังหวัดพบผู้ป่วยโควิด ไม่แพร่ระบาด

เที่ยวปีใหม่ จัดกิจกรรมได้ทุกจังหวัด สธ.ยันไม่มีการแพร่ระบาดใน 7 จังหวัดที่พบผู้ป่วยโควิด 19 จากท่าขี้เหล็ก ไม่ต้องกักตัว 

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดี กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า สถานการณ์ผู้ป่วยโควิด 19 ที่มาจาก จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ขณะนี้สามารถควบคุมได้ ดังนั้น สามารถ เที่ยวปีใหม่ จัดกิจกรรมได้ทุกจังหวัด เนื่องจากไม่มีพื้นที่จังหวัดไหน ที่มีการแพร่ระบาด ของโควิด-19

เที่ยวปีใหม่ จัดกิจกรรมได้ทุกจังหวัด

ทั้งนี้ จากการตรวจผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ และการคัดกรองเชิงรุกในพื้นที่ ที่เกี่ยวข้องกับ ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา รวมกว่า 7,000 คน พบผลเป็นลบ โดยมีการติดเชื้อเพียง 2 ราย ที่อยู่ในการดูแลรักษาแล้ว

ส่วนผู้ติดเชื้อที่เคยพบใน 7 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ กทม. พะเยา พิจิตร ราชบุรี และสิงห์บุรี ได้ระดมความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ เข้าควบคุม และติดตามผู้สัมผัสได้รวดเร็ว ส่งผลให้ไม่มีการระบาดเป็น วงกว้าง ถือว่ามีความปลอดภัยเท่ากับจังหวัดอื่น

ดังนั้น ขอความร่วมมือภาคเอกชน ทำความเข้าใจตรงกันว่า ผู้ที่เดินทางกลับมาจากจังหวัดเหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องกักตัว

กรณีชายไทย ลักลอบเดินทางเข้าประเทศทาง อ.แม่สอด จ.ตาก เดินทางโดยรถตู้สายแม่สอด-มุกดาหาร ไป จ.นครพนม ซึ่ง อสม.เป็นผู้พบความผิดปกติ ทำให้ควบคุมบุคคลนี้ได้ เมื่อตรวจหาเชื้อผลเป็นลบ ไม่มีการติดเชื้อตามที่เป็นข่าว และติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดแล้ว

“ความสำเร็จในการควบคุมโรค และติดตามผู้สัมผัส เกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนและประชาชน เมื่อเราร่วมมือกันเช่นนี้ ประเทศจะปลอดภัย ประชาชนสามารถไปพักผ่อนท่องเที่ยวได้”นายแพทย์โอภาส กล่าว

นพ.โอภาส 1
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์

อย่างไรก็ตาม การจัดงานรื่นเริงต่างๆ ในช่วงวันหยุดยาว จนถึงปีใหม่ เน้นขอความร่วมมือผู้จัดงาน ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค มีจุดคัดกรองวัดไข้ ลงทะเบียนไทยชนะ จัดอุปกรณ์ป้องกัน เช่น หน้ากาก เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ มีการแยกกิจกรรม เพื่อไม่ให้เกิดการปะปนมากเกินไป

ขณะที่ บริเวณที่มีความเสี่ยงติดเชื้อ เช่น ห้องน้ำ ต้องทำความสะอาดบ่อย ๆ บริเวณขายอาหารและเครื่องดื่ม ผู้ค้าจะต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา และเว้นระยะห่าง หรือบริเวณหน้าเวที ระวังอย่าให้ใกล้ชิดจนแออัด อีกทั้งผู้เข้าร่วมงาน ต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา ยกเว้นช่วงรับประทาน ล้างมือ บ่อยๆ และลงทะเบียนไทยชนะ

หากกลับจากการท่องเที่ยวแล้ว มีอาการไม่สบาย เป็นไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ขอให้ไปสถานพยาบาล และแจ้งประวัติ

นอกจากนี้ ยังมีการตรวจตราร้านค้า ผู้ประกอบการต่างๆ ให้ปฏิบัติตามมาตรการด้วย หากไม่ปฏิบัติตามจะแจ้งเตือน หากไม่ปรับปรุงจะปิดสถานที่ และขอให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา หากปฏิบัติเช่นนี้จะทำให้มีกิจกรรมช่วงเทศกาลอย่างมีความสุขทุกคน

ท่าขี้เหล็ก

ในส่วนของกรณีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อโควิด 19 ช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม พบการติดเชื้อจำนวน 108 คน แต่เมื่อรู้จักโรคนี้ดีขึ้น ทำให้ช่วงหลังจากเดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา ไม่พบบุคลากรทางการแพทย์ ติดเชื้ออีกเลย

จนกระทั่งมี 1 รายที่ติดเชื้อจากการปฏิบัติหน้าที่ ในสถานกักกันโรคแห่งรัฐทางเลือก (ASQ) และนำไปติดเพื่อนที่เป็นบุคลากรด้วยกัน ซึ่งไม่ได้ติดจากการทำงาน แต่เป็นการติดจากการใช้ชีวิตประจำวันร่วมกัน จึงต้องเคร่งครัดมาตรการใส่เครื่องป้องกัน ซักซ้อมการถอดใส่อุปกรณ์ตามมาตรฐานมากขึ้น ยังไม่ถึงขั้นต้องให้บุคลากรทางการแพทย์ปฏิบัติงานในโรงพยาบาล โดยไม่ออกมาภายนอก

สธ. 3

 

ด้านนายแพทย์จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน กรมควบคุมโรค กล่าวว่า บุคลากรทางการแพทย์ที่ติดเชื้อโควิด 19 ขณะนี้มีเพียง 6 ราย โดยผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในโรงพยาบาลเอกชน 31 ราย ตรวจหาเชื้อครั้งแรกวันที่ 5 ธันวาคม ผลเป็นลบ ตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 ผลเป็นลบ 30 ราย ติดเชื้อ 1 ราย คือผู้ป่วยรายที่ 6 โดยจะมีการตรวจเชื้อครั้งที่ 3 ต่อไป

ด้านผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในหอพัก ห้องสัมภาษณ์งานโรงพยาบาลรัฐ และสมาชิกครอบครัว ให้ผลเป็นลบทั้งหมด ได้เก็บตัวอย่างแล้ว คาดว่าผลจะออกในวันที่ 12-13 ธันวาคม ขณะที่ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 888 รายผลเป็นลบ

“ส่วนกรณีผู้ป่วยรายแรกที่มีการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า MRT และ BTS ช่วงเวลาสั้นๆ 10-15 นาที มีการสวมหน้ากากตลอดเวลา และไม่มีการพูดคุย ถือว่ามีความเสี่ยงต่ำ ดังนั้น การใส่หน้ากากขณะโดยสารรถขนส่งสาธารณะต่างๆ จะช่วยป้องกันตัวเองและลดความเสี่ยงลงได้”นายแพทย์จักรรัฐ กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo