ฝรั่งเศสเตรียมยกเลิกคำสั่งห้ามออกจากบ้านตามกำหนด แต่จะเริ่มใช้มาตรการเคอร์ฟิว จำกัดเวลาการออกนอกบ้านในช่วงกลางคืน เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ไปจนถึงช่วงปีใหม่
นายกรัฐมนตรีฌอง กัสแต็กซ์ แห่งฝรั่งเศส กล่าวว่า อัตราการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ได้ลดลงเร็วเท่าที่รัฐบาลตั้งความหวังไว้ หลังจากที่ดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ ในช่วงปลายเดือนตุลาคม
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้รัฐบาลตัดสินใจที่จะยกเลิกคำสั่งที่ให้ประชาชนอยู่แต่ภายในที่พัก ในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ ตามกำหนดเดิมที่วางไว้ แต่จะหันไปใช้มาตรการเคอร์ฟิว ห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 20.00 น- 06.00 น. แทน รวมทั้ง เลื่อนกำหนดการเปิดศูนย์วัฒนธรรมต่างๆ
นอกจากนี้ จะไม่มีการยกเลิกมาตรการนี้ ในช่วงคืนวันส่งท้ายปีเก่าแต่อย่างใด เพื่อป้องกันการรวมตัวกันของผู้คนจำนวนมาก แต่จะผ่อนผันให้ในวันคริสมาสต์ โดยผู้ใหญ่จะรวมตัวกันได้ไม่เกิน 6 คน
ทั้งนี้ รัฐบาลฝรั่งเศส ได้กำหนดเงื่อนไข จะผ่อนคลายมาตรการควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็ต่อเมื่อจำนวนผู้ป่วยใหม่รายวันลดลงมาอยู่ประมาณ 5,000 คนต่อวัน แต่จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันในขณะนี้ ยังคงอยู่ในระดับสูงกว่า 10,000 คนต่อวันอยู่
“เรายังไม่สามารถยุติการระบาดระลอก 2 นี้ได้ และเราจะไปไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ เรายังประมาทไม่ได้ เราต้องมีสมาธิ และหาทางผ่านช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้าด้วยความระมัดระวังอย่างสูง”
ทั้งนี้ การยกเลิกคำสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน จะทำให้ประชาชนสามารถเดินทางไปพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศได้อีกครั้ง แต่นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสย้ำว่า ศูนย์วัฒนธรรมและสถานบันเทิงต่างๆ เช่น พิพิธภัณฑ์, โรงภาพยนตร์, โรงละคร และศูนย์กีฬาต่างๆ ซึ่งเดิมทีจะเปิดในวันอังคารหน้า จะถูกปิดต่อไปอีก 3 สัปดาห์
บาร์กับร้านอาหารจะปิดไปจนถึงอย่างน้อยวันที่ 20 มกราคม 2564 ส่วนร้านค้าเริ่มเปิดตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมาแล้ว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- คุมไม่อยู่ !? โควิดวันนี้ 11 ธ.ค. ทั่วโลกพุ่งเกิน 70 ล้าน ‘สหรัฐ’ ทะลุ 16 ล้านคน
- โควิดวันนี้ 11 ธ.ค. ไทยพบติดเชื้อใหม่ 11 คน จากต่างประเทศทั้งหมด เชียงรายเจอ 3 ราย อยู่ใน LQ
- ‘หมอธีระวัฒน์’ ฟันธง เจาะเลือด ปลายนิ้ว ตอบโจทย์คัดกรองคนจำนวนมาก