หมอศิริราช เผยเชื้อ “โควิด” จากประเทศเมียนมาเป็นสายพันธุ์ G ชนิดเดียวกับยุโรป สามารถแพร่ระบาดเร็วกว่าเชื้อจาก “อู่ฮั่น” ขอความร่วมมือทุกคนอย่าปกปิดข้อมูล
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล แถลงถึงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกว่า เชื้อโควิด-19 ที่พบในเมียนมาจะเป็นสายพันธุ์ G ซึ่งเป็นคนละสายพันธุ์ที่ระบาดที่อู่ฮั่นซึ่งเป็นสายพันธุ์ D เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ G ในเมียนมาสามารถแพร่ระบาดได้รวดเร็ว แต่ยังไม่สามารถระบุว่า มีความรุนแรงของโรค ที่จะทำให้อัตราการเสียชีวิตเพิ่มสูง เนื่องจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนระบบสาธารณสุขไม่สามารถรองรับได้
ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ที่เกิดในตอนนี้ ยังเกิดในกลุ่มผู้สัมผัสเสียงสูง จากกลุ่มบุคคลที่เดินทางกลับจากเมียนมา ยังไม่ถือว่าเป็นการระบาดรอบที่สอง ขอให้ประชาชน เข้มงวดไหนมาตรการป้องกันควบคุมโรค เนื่องจากยังไม่ทราบข้อมูลที่ชัดเจนว่า ผู้เดินทางกลับจากจังหวัดพักขี้เหล็ก ประเทศเมียนมานั้น มีกี่รายและเดินทางไปยังจุดใดบ้าง
“การที่มีคนไทยลักลอบกลับจากประเทศเมียนมาเข้ามาประเทศไทย และปกปิดข้อมูลจึงเป็นอันตรายกับตัวเอง คนในครอบครัว สังคม บุคลากรทางการแพทย์ที่ให้การดูแล” ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ กล่าว
สถานการณ์ไทยวันนี้ทำให้เห็นว่า จุดอ่อนแม้แต่จุดเดียว อาจส่งผลมหาศาลต่อประเทศและส่งผลกระทบเชิงลบให้กับสังคม จึงขอความร่วมมือคนไทยยกการ์ดขึ้นสูง ใช้วัคซีนที่เรามี คือ การปฏิบัติตามคำแนะนำ สวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่างอย่างเคร่งครัด ให้ความร่วมมือลงทะเบียนเข้า-ออกเมื่อใช้สถานที่ ช่วยกันแนะนำคนรู้จักให้ปฏิบัติอย่างถูกต้อง เพื่อให้ป้องกันโควิดได้ทันทีโดยไม่ต้องรอวัคซีนที่ยังต้องใช้เวลาอีกนานไม่ต่ำกว่าครึ่งปีกว่าจะได้ใช้
คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า ขณะนี้หลายโรงพยาบาล มีการพูดคุย เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ เตรียมพร้อมเครื่องมือ และ บุคคลากร เพื่อรองรับหากเกิดการแพร่ระบาด ส่วนเรื่องวัคซีนที่ผลิตอยู่ หลายบริษัท ได้ถูกจองวัคซีนในล็อตแรกหมดแล้ว และในบางประเทศ มีการจองวัคซีนที่เกินกว่าจำนวนประชาชน โดยประเทศไทย ได้มีร่วมลงนามกับ บ.เอสตราเซเนกา ซึ่งประเทศไทยจะได้รับวัคซีนอย่างแน่นอน
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า สถานการณ์ในประเทศไทย มีปัจจัยที่น่าห่วงคือ เรื่องของอากาศเย็น ที่ทำให้คนอยู่ในอาคารซึ่งเป็นพื้นที่ปิดและไม่สวมหน้ากากมากขึ้น เพื่อนบ้านตามแนวชายแดนที่มีการแพร่ระบาดรุนแรงมากขึ้น ทั้งเมียนมา มาเลเซีย โดยเฉพาะคนที่ลักลอบเข้ามาเป็นปัจจัยเสริมให้เกิดการระบาดได้ และการชุมนุมต่างๆ แต่อยากให้เข้าใจและย้ำเตือนเพราะไม่มีใครชนะหากเกิดการระบาดขึ้น จึงอยากขอให้หลีกเลี่ยง
ในส่วนของโรงพยาบาล ขณะนี้ทุกแห่ง ได้เตรียมการรับมือแล้ว แต่ก็หวังจะไม่เกิดการระบาดรุนแรง ส่วนความคืบหน้าการผลิตวัคซีน ล่าสุดบริษัทต่างๆ ที่ผลิตใน 2 ลอตแรกถูกจองหมดแล้ว สำหรับประเทศไทยที่มีข้อตกลงกับแอสตร้าเซเนกา หากไทยได้รับข้อมูลองค์ความรู้มาเมื่อไหร่ ก็จะต้องผ่านกระบวนการผลิตอีก 4 เดือน และต้องผ่านการตรวจสอบจาก อย.อีก 3 รอบ ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน คาดว่าจะได้ฉีดครั้งแรกหลังเดือน พฤษภาคม 2564
สถานการณ์โควิดรอบโลก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา นับถึงเมื่อวานนี้ (10 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น สหรัฐ ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อ และเสียชีวิต จากไวรัสโควิด-19 มากสุดในโลก รายงานตัวเลข ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ที่ 217,779 คน ทำให้มียอดสะสม ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ล่าสุดที่ 16,039,393 คน
ขณะยอดสะสม ผู้เสียชีวิต จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ 299,692 ราย เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 2,974 ราย
ทางด้าน อินเดีย ประเทศที่มี ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากสุด เป็นอันดับ 2 ของโลก มียอด โควิดวันนี้ 11 ธ.ค. ที่ 9,796,992 คน หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 34,666 คน ส่วนยอดสะสม ผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อ ไวรัสโควิด-19 ของอินเดีย ล่าสุดอยู่ที่ 142,222 ราย เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 487 ราย
ขณะที่ บราซิล รายงานการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 53,425 คน ทำให้มียอดสะสม ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ล่าสุดอยู่ที่ 6,783,543 คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิต อยู่ที่ 179,801 ราย เพิ่มขึ้น 769 ราย
อินโดนีเซีย ประเทศที่มี จำนวนผู้ติดเชื้อ และเสียชีวิต จากเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุด ในกลุ่มประเทศสมาชิก สมาคมประชาชาติ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และติดอยู่ในอันดับ 19 ของโลก รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ 6,033 คน ทำให้มียอดสะสม ผู้ติดเชื้อทั่วประเทศล่าสุด ที่ 598,933 คน
ยอดสะสมผู้เสียชีวิต จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของอินโดนีเซีย ล่าสุดอยู่ที่ 18,336 ราย เพิ่มขึ้น 165 ราย
ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า พบ ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 1,383 คน ส่งผลให้ขณะนี้ ฟิลิปปินส์ มีจำนวน ผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสม อยู่ที่ 445,540 คน โดยมียอดสะสมผู้เสียชีวิต จากการติดเชื้อ ไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ 8,701 ราย เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 24 ราย
กระทรวงสาธารณสุข และการกีฬา ของเมียนมา แถลงว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีจำนวน 1,321 ราย ส่งผลให้ขณะนี้เมียนมามีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 104,487 ราย
นอกจากนี้ จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 27 ราย สู่ระดับ 2,201ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเมียนมา ได้พุ่งขึ้นอย่างมาก นับตั้งแต่ที่มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อ เป็นครั้งแรก เพียง 2 ราย ในวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา
ขอบคุณ Siriraj Pr
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- คุมไม่อยู่ !? โควิดวันนี้ 11 ธ.ค. ทั่วโลกพุ่งเกิน 70 ล้าน ‘สหรัฐ’ ทะลุ 16 ล้านคน
- อัพเดทล่าสุด!! ‘คนละครึ่งเฟส 2’ เตรียมพร้อมก่อนลงทะเบียน 16 ธ.ค.นี้
- อัพเดทสถานการณ์ ‘โควิด’ วันที่ 11 ธันวาคม 2563
