World News

วัคซีนโควิด-19 จาก 2 บริษัทใกล้ถึง ‘นิวยอร์ก’ ย้ำไม่ปล่อย VIP ลัดคิวฉีดก่อน

วัคซีนโควิด-19 จาก 2 บริษัทใกล้ถึง “นิวยอร์ก” นายกเทศมนตรีย้ำไม่ปล่อยกลุ่ม VIP ลัดคิว” ฉีดก่อน ด้าน “บราซิล” วางแผนเริ่มฉีดไม่เกิน ม.ค. 64

วานนี้ (9 ธ.ค. 63) บิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กของสหรัฐ โพสต์ทวิตเตอร์ว่า วัคซีนโควิด-19 ที่ผลิตโดยไฟเซอร์ (Pfizer) จะถูกขนส่งมายังนคร นิวยอร์ก อย่างเร็วภายในวันที่ 15 ธันวาคม 2563 ส่วนวัคซีนจากโมเดอร์นา (Moderna) จะมาถึงอย่างเร็วภายในวันที่ 22 ธันวาคม 2563

นิวยอร์ก วัคซีนโควิด-19

เราจะฉีดวัคซีนให้เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงานแนวหน้าและคนในบ้านพักคนชราก่อน” เดอ บลาซิโอกล่าว “วัคซีนใกล้มาถึงแล้ว อย่าเพิ่งยอมแพ้ เราต้องร่วมมือกันเพื่อคุมจำนวนผู้ป่วย” พร้อมเสริมว่า อัตราการติดเชื้อ โควิด-19 ในนิวยอร์กเฉลี่ย 7 วันลดลงอยู่ที่ 4.81% จาก 4.94% ในวันก่อนหน้า

เดอ บลาซิโอแสดงคำมั่นระหว่างแถลงข่าวว่า เขาจะไม่ปล่อยให้กลุ่มคนมีสิทธิพิเศษ “ลัดคิว” เพื่อฉีดวัคซีนก่อนคนในบ้านพักคนชรา แรงงานบริการสุขภาพ และผู้ปฏิบัติงานแนวหน้า

“พวกเขาจะได้ฉีดวัคซีนภายหลัง” เดอ บลาซิโอกล่าว “เราต้องปกป้องกลุ่มคนที่ทำงานเพื่อเราและผู้ที่เปราะบางที่สุด เราจะพยายามเต็มที่เพื่อให้เป็นไปตามนั้น”

shutterstock 1708068619

เมื่อวันอังคาร (8 ธ.ค.) ที่ประชุมของ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) ตัดสินใจให้เจ้าหน้าที่บริการสุขภาพและคนในบ้านพักคนชราได้รับวัคซีนโรค โควิด-19 เป็นกลุ่มแรกในสหรัฐ โดยระบุว่ามีแรงงานบริการสุขภาพติดเชื้อแล้วกว่า 240,000 ราย และเสียชีวิต 858 ราย

การประชุมข้างต้นเกิดขึ้นหลังโมเดอร์นา ผู้ผลิตยาของสหรัฐยื่นขออนุมัติการใช้งานฉุกเฉินของวัคซีนต้านโรคโควิด-19 เอ็มอาร์เอ็นเอ-1273 (mRNA-1273) ต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) ตามหลังวัคซีนอีกตัวจากไฟเซอร์ (Pfizer) และไบโอเอ็นเทค (BioNtech) ที่ยื่นขออนุมัติประเภทเดียวกันเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2563

โดยอเล็กซ์ อาซาร์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของสหรัฐระบุว่า วัคซีนโรค โควิด-19 ทั้ง 2 ตัวจะพร้อมฉีดให้ชาวอเมริกันก่อนวันคริสต์มาส

เดอะ ซิตี โครงการติดตามสถิติผู้ป่วย-ผู้เสียชีวิตของนิวยอร์ก โดยอ้างอิงข้อมูลของหน่วยงานสุขภาพและสุขอนามัยทางจิตของนิวยอร์กซิตี สำนักงานผู้ว่าการรัฐ โครงการติดตามสถานการณ์โรคโควิด-19 และศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ รายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ของนิวยอร์กอยู่ที่ 24,416 ราย ส่วนผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 337,232 ราย เมื่อนับถึงบ่ายวันอังคาร (8 ธ.ค. 63)

บิลล์ เกตส์ วัคซีนโควิด-19

อย่างไรก็ตาม บิลล์ เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟต์ (Microsoft) กล่าวกับสื่อมวลชนว่า การแจกจ่ายวัคซีน โควิด-19 ในสหรัฐอาจจะ “ยุ่งยากและค่อนข้างประหลาด” เนื่องจาก ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) ไม่ได้มีบทบาทที่ชัดเจนระหว่างการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19

เกตส์ ซึ่งเป็นประธานร่วมของมูลนิธิบิลล์ แอนด์ เมลินดา เกตส์ (Bill & Melinda Gates Foundation) ให้สัมภาษณ์กับรายการ “ทูเดย์” (Today) ของเอ็นบีซี (NBC) เมื่อสัปดาห์ก่อนว่า “รัฐบาลกลางได้ละเลยหลายสิ่งหลายอย่างระหว่างการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19”

เกตส์กล่าวว่า โดยรวมแล้ว รัฐบาลสหรัฐน่าจะรับมือกับการระบาดใหญ่ของโรค โควิด-19 ได้ดีกว่านี้ พร้อมเสริมว่า “พอทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น มีหลายสิ่งหลายอย่าง เช่น การสื่อสารชวนสับสนและการขาดภาวะผู้นำ ที่ดูจะเป็นความผิดของฝ่ายบริหาร”

ณ การประชุมออนไลน์ของสหประชาชาติว่าด้วยการรับมือกับโรค โควิด-19 ก่อนหน้านี้ เกตส์เรียกร้องให้เพิ่มความพยายามเพื่อบรรลุเป้าหมายกำจัดโรคโควิด-19 ทั่วโลก ขณะทั้งโลกกำลังตั้งความหวังกับการพัฒนาวัคซีนเพื่อหยุดยั้งโรคระบาดใหญ่

ด้านรัฐบาลบราซิลประกาศแผนการเริ่มใช้งานวัคซีนป้องกันโรค โควิด-19 ของไฟเซอร์ ภายในเดือนธันวาคมปีนี้ หรือมกราคม 2564 ตามการอนุมัติจากหน่วยงานสาธารณสุขของประเทศ

เอดัวร์โด ปาซูเอลโล รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็น (CNN) ว่า การฉีดวัคซีนอาจเกิดขึ้นภายในสิ้นเดือนมกราคมหรือในเดือนธันวาคมนี้ หากหน่วยงานสาธารณสุขแห่งชาติอย่างอันวิซา (Anvisa) อนุมัติการใช้งานฉุกเฉินกับวัคซีนของไฟเซอร์

ขณะวัคซีนป้องกันโรค โควิด-19 ของไฟเซอร์เริ่มต้นการใช้งานในสหราชอาณาจักรเมื่อวันอังคาร (8 ธ.ค. 63) รัฐบาลบราซิลได้เปิดเผยข้อตกลงที่ทำกับไฟเซอร์เพื่อจัดซื้อวัคซีน 70 ล้านโดส รวมถึงการจัดซื้อวัคซีนจากแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) อีก 100 ล้านโดสด้วย

ทั้งนี้ บราซิลมีผู้ป่วยโรค โควิด-19 เสียชีวิตสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐ และผู้ป่วยสะสมสูงสุดเป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากสหรัฐ และอินเดีย

กระทรวงฯ เผยว่า เมื่อวันพุธ (9 ธ.ค. 63) บราซิลตรวจพบผู้ป่วยใหม่ 53,453 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมทั่วประเทศอยู่ที่ 6,728,452 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม 836 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมง ทำให้ยอดผู้ป่วยเสียชีวิตรวมอยู่ที่ 178,995 ราย

ที่มาสำนักข่าวซินหัว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo