เอดีบี คาด เศรษฐกิจไทย ปีนี้ ติดลบ 7.8% ก่อนฟื้นตัวขึ้นไปขยายตัว 4% ในปี 2564 มองแนวโน้มการค้าการลงทุน และบริโภคเอกชน ค่อย ๆ กระเตื้องขึ้น
ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) เปิดเผย รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจเอเชีย ฉบับเพิ่มเติมล่าสุด ในวันนี้ (10 ธ.ค.) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย จะหดตัว ติดลบ 0.4% ในปีนี้ ก่อนจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งที่ 6.8% ในปีหน้า เนื่องจากภูมิภาคเริ่มฟื้นตัวจากผลกระทบทางเศรษฐกิจ ที่เกิดจากการแพร่ระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโควิด-19
ในการประเมินเมื่อเดือนกันยายนนั้น เอดีบี ระบุว่า เศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย จะติดลบ 0.7% ในขณะที่แนวโน้มการเติบโตในปี 2564 อยู่ที่ระดับ 6.8% ระดับเดียวกับการประเมินครั้งล่าสุดนี้
อย่างไรก็ตาม รายงานเตือนว่า แนวโน้มการเติบโตในภูมิภาคมีความหลากหลาย โดยคาดว่า เศรษฐกิจเอเชียตะวันออก จะเติบโต ในขณะที่เศรษฐกิจในหลายอนุภูมิภาคยังคงหดตัวอยู่
นายยาซูยูกิ กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียส่งสัญญาณที่ดีขึ้น โดยมีการปรับประมาณการเศรษฐกิจจีน และอินเดีย ซึ่งเป็น 2 เศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ในทิศทางที่ดีขึ้น
การแพร่ระบาดใหญ่ของโควิด-19 ที่ยืดเยื้อยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงหลัก อย่างไรก็ตาม การพัฒนาวัคซีนล่าสุดนี้ ทำให้ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดลดน้อยลง โดยวัคซีนที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และส่งมอบตรงเวลา จะเป็นแรงหนุนสำคัญ ที่ทำให้การเปิด และฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาค กลับมาเติบโตอีกครั้ง
สำหรับไทยนั้น เอดีบี คาดว่า เศรษฐกิจไทย จะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย โดยหดตัวลดลง จากที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนกันยายนที่ติดลบ 8% มาอยู่ที่ติดลบ 7.8%เนื่องจากเศรษฐกิจในไตรมาส 3 ติดลบน้อยลง เกือบครึ่งหนึ่งจากการติดลบ 12.1% ในไตรมาส 2 มาอยู่ที่ติดลบ 6.4% ในไตรมาส 3
ขณะที่การค้า การลงทุน และการบริโภคภาคเอกชนค่อยๆ กระเตื้องขึ้นอันเป็นผลจากมาตรการที่ผ่อนปรนทั้งจากภายใน และคู่ค้าต่างๆ ทั้งการบริโภค และการลงทุนภาครัฐ ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ยังเป็นแรงสนับสนุนเพิ่มเติมให้เศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้น ส่วนการคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2564 คาดว่าจะปรับตัวลดลงเล็กน้อยจาก 4.5% ไปอยู่ที่ 4%
สำหรับเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคต่างๆ ในเอเชีย คาดว่า จะหดตัวในปีนี้ ยกเว้นในอนุภูมิภาคเอเชียตะวันออก ซึ่งมีการปรับประมาณการขึ้น โดยคาดว่าจะเติบโตที่ 1.6% ในปีนี้ เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน และไต้หวันเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจของเอเชียตะวันออกยังคงที่อยู่ที่ 7% ในปี 2564
ส่วนเศรษฐกิจเอเชียใต้ คาดว่า จะหดตัวติดลบ 6.1% ใน 2563 ซึ่งเป็นการปรับขึ้นจากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ติดลบ 6.8% เมื่อเดือนกันยายน การเติบโตของเอเชียใต้คาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวที่ 7.2% ในปี 64
เศรษฐกิจอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศในอนุภูมิภาคที่มีระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุด คาดว่า จะหดตัวติดลบ 8% ซึ่งลดลงจากที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนกันยายนที่ติดลบ 9% ในขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจปี 2564 ยังคงขยายตัวอยู่ที่ 8%
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงอยู่ในภาวะตึงเครียดจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 รวมทั้งมาตรการการควบคุมของรัฐที่เข้มงวดอย่างต่อเนื่องในอินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์
สำหรับการเติบโตของอนุภูมิภาคนี้ คาดว่า จะหดตัวเพิ่มมากขึ้นจะติดลบ 4.4% เมื่อเทียบกับการหดตัวที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนกันยายนที่ติดลบ 3.8% สำหรับแนวโน้มการเติบโตของอนุภูมิภาคนี้ในปี 2564 คาดว่าจะเติบโตลดลงที่ 5.2% เมื่อเทียบกับที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 5.5% เมื่อเดือนกันยายน
ด้านเศรษฐกิจในแปซิฟิกยังคงเดิม โดยเติบโตติดลบ 6.1% ในปีนี้และปีหน้า 1.3% ส่วนเศรษฐกิจของเอเชียกลางคาดว่าจะติดลบ 2.1% และในปี 64 คาดว่าจะอยู่ที่ 3.8% ขณะที่เงินเฟ้อของประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียคาดว่าจะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 2.8% ในปีนี้ ส่วนเงินเฟ้อในปี 64 คาดว่าจะอยู่ที่ 1.9%
เอดีบี ยังคาดการณ์ถึงสถานการณ์เงินเฟ้อของประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย โดยประเมินว่า จะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 2.8% ในปีนี้ จากเมื่อเดือนกันยายน ที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.9% เพราะราคาน้ำมัน ความต้องการลดต่ำลง
ธนาคารคาดว่า เงินเฟ้อในปี 2564 จะอยู่ที่ 1.9% ลดลงจากเดิมที่ประเมินไว้ 2.3% โดยราคาน้ำมันจะยังตรึงราคาไว้ที่ 42.50 ดอลลาร์ต่อบาเรล ก่อนที่จะปรับขึ้นไปที่ 50 ดอลลาร์ต่อบาเรลในปี 2564
อ่านข่าวเพิ่มเติม