General

‘สุวินัย’ ส่อง ม็อบคณะราษฎร ถึงจุดใกล้จบ ‘นับวันยิ่งฝ่อลง’ ปรากฏการณ์ใหม่เมืองไทย

ม็อบคณะราษฎร ถึงจุดใกล้จบ จากมุมมอง สุวินัย ชี้ จุดติดแต่นับวันยิ่งฝ่อลง นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ ม็อบประเทศไทยในรอบ 20 ปี

รศ.ดร.สุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์ วิชาการ สถาบันทิศทางไทย และ อดีตอาจารย์ประจำคณะศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เพจเฟซบุ๊ก “Suvinai Pornavalai” ถึงข้อสังเกตว่า ม็อบคณะราษฏร ถึงจุดใกล้จบ เพราะนับวันยิ่งฝ่อลง โดยระบุว่า

ม็อบคณะราษฎร

“ข้อสังเกตเกี่ยวกับจุดใกล้จบของม็อบคณะราษฎรจากมุมมองของศาสตร์ Mass Action

(1) ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ม็อบที่จุดติดแล้วทุกม็อบ ล้วนยุติการชุมนุมเอง เพราะบรรลุเป้าหมายของแกนนำ ในการจัดชุมนุม ในระดับหนึ่งแล้ว ไม่ว่าม็อบพันธมิตรฯ หรือม็อบ กปปส. หรือไม่ก็เป็นเพราะว่า ม็อบนั้นถูกทางการสลายการชุมนุม

อย่างการชุมนุมของม็อบคนเสื้อแดง ซึ่งถึงแม้จะถูกสลายม็อบ แต่ก็ไปชนะในการเลือกตั้งแทน จนได้เป็นรัฐบาล จึงเรียกได้ว่าบรรลุเป้าหมายของแกนนำ ในการจัดชุมนุมอยู่ดี แม้จะโดยอ้อมก็ตาม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแนบแน่นทางการเมือง ระหว่างแกนนำ กับมวลชนที่เข้าร่วมม็อบ

(2) มีแต่ม็อบคณะราษฎรนี้แหละ ที่จุดติดแล้ว แต่กลับฝ่อลงเอง ในเวลาไม่กี่เดือน โดยที่ทางการแทบไม่ต้องทำอะไรเลย

นี่เป็นปรากฏการณ์ม็อบครั้งแรก ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ที่ม็อบฝ่อเอง โดยแกนนำ และผู้อยู่เบื้องหลังแกนนำ ไม่ได้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้เลย มิหนำซ้ำยังเสียหายทางการเมืองอย่างหนัก ระดับป่นปี้ยับเยิน ในสายตาของสังคม

(3) สาเหตุหลัก ๆ มาจากการนำที่ขาดสติ แบบสิ้นคิด และไร้ปัญญา ของพวกแกนนำ ที่เปิดเผยออกมาเองอย่างล่อนจ้อน ในสายตาของผู้คนในสังคม ในช่วงสี่เดือนที่ผ่านมา

ที่พีคสุด ๆ คือ รายการโทรทัศน์ ที่อาจารย์อานนท์ “สั่งสอน” รุ้งที่เป็นหนึ่งในแกนนำ ออกหน้าจอโทรทัศน์ที่ผู้คนได้ดูกันทั้งประเทศ จนผู้คนจำนวนมาก ตาสว่างแล้วว่า สติปัญญาของแกนนำ โง่กว่าตนเอง

(4) แต่สาเหตุจริง ๆ ที่ ม็อบคณะราษฎร ล้มเหลวขนาดนี้ มาจากการที่ “ผู้อยู่เบื้องหลังแกนนำ”ทั้งหลายไม่ยอมและไม่กล้าออกมาร่วมเป็นร่วมตาย กับพวกเด็ก ๆ หรือไม่กล้าเข้ามา กุมการนำม็อบคณะราษฎรเสียเองต่างหาก

(5) คนอยู่เบื้องหลังอย่าง บรรดาอาจารย์ นักวิชาการ ปัญญาชนหัวก้าวหน้า ที่แอบหนุนหลัง ม็อบคณะราษฎร … คนพวกนี้ ล้วนไม่มีประสบการณ์ในการทำม็อบ – คุมม็อบ ซึ่งเป็นทักษะพิเศษของนักปฏิวัติ

คนพวกนี้ ปลูกฝังความคิดให้แก่พวกเด็ก จนพวกเด็กยอมตาย หรือยอมเสียอนาคต เพื่ออุดมการณ์ความคิด ที่ตัวเองหลงเชื่ออย่างหัวปักหัวปำ แต่คนพวกนี้ กลับแอบอยู่ข้างหลัง อย่างคนขลาดและเห็นแก่ตัว

คนพวกนี้ ได้พิสูจน์ตนเอง (ผ่านการไม่ยอมร่วมหัวจมท้าย ตกอยู่ในชะตาเดียวกันกับพวกแกนนำ )แล้วว่า ไม่จริงใจต่อพวกเด็ก แค่หลอกใช้พวกเด็ก เพื่อความสะใจทางความคิดของตัวเองเท่านั้น

(6) มวลชนคนรุ่นใหม่ ที่เข้ามาร่วมม็อบคณะราษฎรในช่วงแรก ๆ มิใช่คนโง่ หรือไร้สติปัญญา ส่วนใหญ่พวกเขาและพวกเธอ มีความฉลาดโดยเฉลี่ย เหนือกว่าพวกแกนนำด้วยซ้ำ เพียงแต่ที่ผ่านมา เสพรับข้อมูลข้างเดียว และบิดเบือนมากไปหน่อยเท่านั้น

แต่การต่อสู้ทางความคิดอย่างแหลมคม ระหว่างฝ่ายล้มเจ้า กับฝ่ายพิทักษ์เจ้า ทำให้ความจริง และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ได้รับการเปิดเผยออกมาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้มวลชนคนรุ่นใหม่ ที่มีความคิดเป็นของตนเอง และมีใจบริสุทธิ์ เริ่มตาสว่างอย่างแท้จริง

จึงเกิดปรากฏการณ์ ผละม็อบ หรือเปลี่ยนใจย้ายข้าง ขึ้นมามากมาย ในโลกออนไลน์ ในช่วงที่ผ่านมา

(7) ม็อบที่ทรงพลังที่สุด คือ ม็อบที่แกนนำ กับมวลชน แนบแน่นเป็นหนึ่งเดียว ในการมุ่งบรรลุเป้าหมายการชุมนุม ที่ควรมีเพียงข้อเดียว และมีความเป็นไปได้ ในทางปฏิบัติ ในโลกแห่งความเป็นจริง

นี่คือศาสตร์แห่ง Mass Action แกนนำคนไหน ละเลยศาสตร์อันนี้ ย่อมล้มเหลวไม่เป็นท่า ดังตัวอย่างล่าสุด ของม็อบคณะราษฎร”

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo