เดนิส มุกเวเก แพทย์ผู้ช่วยเหลือเหยื่อความรุนแรงทางเพศในคองโก และนาเดีย มูรัด นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิของชาวยาซิดี ผู้รอดชีวิตจากการตกเป็นทาสทางเพศของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)ร่วมกันคว้ารางวัลโนเบลสันติภาพในปีนี้
นางเบริต รีส แอนเดอร์เซน ประธานคณะกรรมการโนเบล ระบุว่า บุคคลทั้งคู่ได้รับเลือกให้เป็นผู้ได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ เพราะความพยายามที่จะยุติการใช้ความรุนแรงทางเพศเป็นอาวุธในการทำสงคราม และความขัดแย้ง
“โลกจะมีสันติภาพได้มากกว่านี้ เพียงแค่มีการตระหนัก และปกป้องความปลอดภัยของผู้หญิง และสิทธิขั้นพื้นฐานของพวกเธอในการทำสงคราม” นางแอนเดอร์เซน กล่าว
แถลงการณ์ของคณะกรรมการโนเบล ระบุด้วยว่า เดนิส มุกเวเก เป็นผู้ช่วยเหลือที่อุทิศชีวิตตัวเองให้กับการปกป้องเหยื่อเหล่านี้ ขณะที่นาเดีย มูรัด ก็เป็นพยานที่บอกเล่าเรื่องราวการล่วงละเมิดที่เกิดขึ้นกับตัวเธอ และคนอื่นๆ
บุคคลทั้ง 2 ต่างมีวิธีของตัวเองที่จะแสดงให้เห็นอย่างขัดเจนถึงความรุนแรงทางเพศที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาการทำสงคราม ซึ่งจะทำให้ผู้กระทำผิดต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา
ทั้งนี้ มุกเวเก เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลปันซีในเมืองบูกาวู ทางตะวันออกของคองโก โดยโรงพยาบาลแห่งนี้เปิดดำเนินการในปี 2542 แต่ละปีให้การรักษาคนไข้หญิงหลายพันคน ส่วนใหญ่ต้องเข้ารับการผ่าตัดเพราะถูกกระทำรุนแรงทางเพศ
ส่วนมูรัด เป็นนักเคลื่อนไหวให้กับชนกลุ่มน้อยยาซิดี ในอิรัก รวมถึง ผู้อพยพ และสิทธิสตรีด้วย เธอเคยถูกกลุ่มไอเอส ในโมซุลข่มขืน และตกเป็นทางเพศของกลุ่มเคลื่อนไหวนี้เมื่อปี 2557