ซูเปอร์โพล เปิดผลสำรวจ คนไทยกว่า 98% บอกม็อบ หยุดได้แล้ว และเบื่อรัฐมนตรีเอาแต่เดินสายเปิดงาน เสียดายงบประมาณ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง “ราษฎร จะไปต่อ ทางออกประเทศไทย” จากประชาชน จำนวน 2,108 ตัวอย่าง พบว่า ประเด็น การหยุดม็อบคุกคามผู้อื่น หยุดเบียดเบียนผู้อื่น หยุดสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นที่ต้องการเดินทางสัญจรไปมา ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ หรือ 98.2% ระบุ หยุดได้แล้ว ขณะที่ มีเพียงร้อยละ 1.8% ระบุว่า ทำต่อไป
เมื่อถามถึงความรู้สึกเบื่อหน่ายของราษฎร ผลสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่หรือ 98.6% รู้สึกเบื่อหน่าย บรรดารัฐมนตรีที่เอาแต่เปิดงาน นิทรรศการ วันเปิดคือวันปิด เสียดายงบประมาณ ประชาชนไม่ได้ประโยชน์ ควรทำอะไรที่เป็นโครงการที่เด็กและเยาวชนและประชาชนจับต้องได้จะดีกว่า
จากนั้น เมื่อถามถึง ความต้องการของราษฎร เรื่อง ที่เป็นประโยชน์เรื่องแรก คือ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ควรเป็นผู้ถือธง นำปฏิรูปการศึกษา ทั้งระบบของประเทศ พบว่า ส่วนใหญ่หรือ 91.8% ระบุต้องการให้ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้ถือธงนำปฏิรูปการศึกษาทั้งระบบของประเทศ ในขณะที่เพียง 8.2% ไม่ต้องการ
ที่น่าเป็นห่วง คือ เมื่อถามถึง ความเห็นของราษฎร ต่อ อุปสรรคของการศึกษา พบว่า ส่วนใหญ่หรือ 97.5% ระบุ ตัวเด็ก นักเรียน นักศึกษาเอง คือ อุปสรรค รองลงมา 96.7% มองว่า คุณภาพชีวิตของ ครู อาจารย์ ภาระหนี้สิน ค่าตอบแทนที่ไม่ดีพอ
ขณะที่ 96.5% ระบุ การเรียนการสอน หลักสูตร, 96.4% ระบุ รัฐบาลและนโยบายด้านการศึกษา, 96.1% ระบุ ความไม่พร้อมของแต่ละโรงเรียน และสถานศึกษาแต่ละแห่ง
สำหรับ 96% ระบุ พ่อแม่ผู้ปกครอง คือ อุปสรรค, 94.2% ระบุ ตัวครู อาจารย์ ไม่มีความรู้ความสามารถพอ คุณภาพไม่ดีพอ
นอกจากนี้ 93.8% ระบุ ม็อบและการยุยงปั่นกระแส สร้างทัศนคติและพฤติกรรมของเด็กเยาวชนเป็นอุปสรรค ในขณะที่ เพียง 28.9% เท่านั้นที่ระบุ การแต่งกาย เครื่องแบบนักเรียน นักศึกษา เป็นอุปสรรคของการศึกษามากถึงมากที่สุด
เมื่อถามถึง ความต้องการเร่งด่วนของราษฎร ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการใช้กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา เป็นช่องทางช่วยเหลือเด็กยากจน แก้อุปสรรคของการศึกษา พบว่า ส่วนใหญ่หรือ 98.4$ ต้องการ ในขณะที่ 1.6% เท่านั้นที่ไม่ต้องการ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กล่าวว่า การปฏิรูปไม่ใช่ยารักษาทุกโรค และการปฏิรูปหลาย ๆ เรื่องอาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงบานปลาย ในกลุ่มต่าง ๆ ของสังคม
แต่การตอบโจทย์ตรงเป้าความต้องการ ของกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ต่างหาก จะช่วยบรรเทาเยียวยาความเจ็บปวด ความทุกข์ยากของ ทุกกลุ่มเป้าหมายได้ดีกว่า โดยเฉพาะเรื่อง การปฏิรูปการศึกษา ที่กลุ่มราษฎร ต้องการให้ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้ถือธงนำการปฏิรูปการศึกษาด้วยตนเอง
ทั้งนี้ อาจจะเริ่มแก้ปัญหาสำคัญเร่งด่วน ที่รัฐบาลกำลังทำอยู่คือ การใช้กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ที่เกิดขึ้นในยุคของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เร่งรัดช่วยเหลือเด็กนักเรียนยากจนพิเศษที่ฝาบ้านไม่ครบสี่ด้าน จะส่งผลดี ในการเสริมสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ ความเชื่อมั่นและการสนับสนุนของกลุ่มราษฎร ต่อภารกิจด้านการศึกษาของรัฐบาลได้
ผลที่ตามมาคือ กลุ่มย่อย ๆ ในม็อบราษฎร จะได้รับการตอบสนองแบบ เลือกสรรสิ่งที่ตอบโจทย์ตรงเป้าความต้องการ ของม็อบราษฎร (Mob Selective Appeal) ทีละกลุ่มย่อย ๆ จนกระทั่งนำไปสู่การเดินหน้าต่อของราษฎรที่ดี อันเป็นทางออกของประเทศด้วยสันติวิธีปกติสุขได้ทางหนึ่ง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘สุวินัย’ เปิดหน้า พลังเงียบ ‘อาศรมสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา’ โผล่ต้าน ‘ยุบธรรมศาสตร์’
- ม็อบ ‘หมดฤทธิ์’ นิด้าโพลเผย บิ๊กตู่ ไม่สะเทือน หลังพ้นคดีบ้านพักหลวง
- ปีนี้แค่เปิดแผล! ‘อานนท์’ ลั่นม็อบลากยาวถึงปีหน้า เข้มข้นกว่าเดิม