Politics

แม่สอดโผล่อีก! เปิดไทม์ไลน์ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 1 ราย

พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 อีก 1 รายที่แม่สอด จังหวัดตาก โดยเป็นชาย ชาวปากีสถานวัย 43 ปี ไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ไว้เพื่อต้องการเดินทางไปประเทศสิงค์โปร์ ที่โรงพยาบาลแม่สอด ปรากฎว่า ผลตวจออกมาเป็นบวก

สำหรับไทม์ไลน์นั้น แพทย์โรงพยาบาลแม่สอดพบเชื้อไวรัสโควิด-19 อาศัยอยู่ที่ หมู่ที่ 1 ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด ก่อนพบเชื้อยังไม่มีอาการป่วยเดินทางไปคลีนิกแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครแม่สอด เพื่อขอใบรับรองแพทย์จะเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ และไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลแม่สอด จนทราบว่า มีเชื้อโควิด-19 และแพทย์ได้แยกห้องทำการรักษาทันที

สำหรับไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อ เดือนพฤศจิกายน  เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ด้วยรถยนต์ส่วนตัว พักในโกดังเก็บรถของเพื่อนแถวรังสิต

  1 ธันวาคม 2563 

ช่วงเช้าเดินทางไปรักษาโรคที่คลินิกแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครแม่สอด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ส่วนตอนเย็นไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ

  2 ธันวาคม 2563

เช้าไปติดต่อทำพาสปอร์ต ที่บริษัททิพย์ปัญญาการบัญชี ไปส่งเพื่อนในพื้นที่ ตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด และแวะซื้อของร้านสะดวกซื้อ ส่วนช่วงบ่ายไปบริษัทที่อยู่ชายแดน ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด ไปกินข้าวที่ร้านไก่ย่าง และตอนเย็นออกไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อริมเมย

 3 ธันวาคม 2563

รับพัสดุที่คอนโด ไปส่งของ รับเอกสารที่ทิพย์ปัญญาการบัญชี และเดินทางไปสนามบิน เพื่อซื้อตั๋วเครื่องบิน ช่วงบ่ายขอรับการตรวจ COVID-19 เพื่อจะเดินทางกลับสิงคโปร์ ส่วนช่วงเย็นไปกินข้าวที่ร้านไก่ย่าง และกลับที่พัก

  4 ธันวาคม 2563 

ผลตรวจพบติดเชื้อ COVID-19  เบื้องต้นทีมสอบสวนโรคของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตาก และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 2 จังหวัดพิษณุโลก เร่งติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดเพื่อกักตัวตรวจหาเชื้อ แบ่งเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 8 คน และผู้มีความเสี่ยงต่ำอีก 15 คน

นับเป็นรายที่ 3 ในอำเภอแม่สอด ทำให้ผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้นจากเดิมชายชาวเมียนมา 1 ราย หญิงไทย 1 ราย และล่าสุดชาวปากีสถานดังกล่าวอีก 1 ราย รวมทั้งหมด 3 รายที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลแม่สอด

ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา ด้านชุมชนอิสลามคณะกรรมการชุมชน ร่วมกับอสม.ได้ประสานเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแม่สอด ฝ่ายปกครอง ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก และตำรวจสภ.แม่สอด ควบคุมตัวชายชาวเมียนมา 2 คน ลักลอบข้ามแดนมาอาศัยอยู่ในชุมชน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปเพื่อดำเนินการตามระเบียบต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight