สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง แจงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเดือนตุลาคม 2563 สินเชื่อประเภทพิโกไฟแนนซ์ สิ้นต.ค. 63 มีผู้ได้รับใบอนุญาต ประกอบธุรกิจสินเชื่อประเภทพิโกไฟแนนซ์ 870 ราย ใน 75 จังหวัด เปิดดำเนินการแล้ว 782 ราย ใน 73 จังหวัด
นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เปิดเผยว่าสิ้นเดือนตุลาคม 2563 การประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) มีผู้ที่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ และเปิดดำเนินการแล้วสะสมสุทธิ 867 ราย ใน 73 จังหวัด ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบธุรกิจในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (514 ราย) รองลงมาภาคกลาง (136 ราย) ภาคเหนือ (113 ราย) ภาคตะวันออก (61 ราย) และภาคใต้ (43 ราย) ตามลำดับ
ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2559 ที่กระทรวงการคลังได้เปิดให้มีการประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ จนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2563 ได้มีการอนุมัติสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ ให้กับประชาชนรายย่อยไปแล้วทั้งสิ้น 347,668 บัญชี รวมเป็นวงเงิน 8,649.09 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 24,877.44 บาทต่อบัญชี ดังนี้
1. สินเชื่อประเภทพิโกไฟแนนซ์ ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2563 มีจำนวนผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อประเภทพิโกไฟแนนซ์สะสมสุทธิทั้งสิ้น 870 ราย ใน 75 จังหวัด และมีจำนวนผู้เปิดดำเนินการแล้ว 782 ราย ใน 73 จังหวัด (เพิ่มขึ้น 1 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดยะลา) โดยจังหวัดที่มีผู้เปิดดำเนินการมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ นครราชสีมา (67 ราย) กรุงเทพมหานคร (59 ราย) และขอนแก่น (45 ราย)
2. สินเชื่อประเภทพิโกพลัส ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2563 มีจำนวนผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อประเภทพิโกพลัสสะสมสุทธิทั้งสิ้น 111 ราย ใน 39 จังหวัด และมีจำนวนผู้เปิดดำเนินการแล้ว 85 ราย ใน 29 จังหวัด โดยจังหวัดที่มีผู้เปิดดำเนินการมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ นครราชสีมา (14 ราย) อุดรธานี (8 ราย) และอุบลราชธานี (7 ราย)
3. ภาพรวมสถานะสินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นเดือนกันยายน 2563 มียอดสินเชื่อคงค้างจำนวนทั้งสิ้น 157,350 บัญชี คิดเป็นจำนวนเงิน 3,607.23 ล้านบาท โดยมีสินเชื่อค้างชำระ 1 – 3 เดือน สะสมรวมทั้งสิ้น 21,645 บัญชี หรือคิดเป็นจำนวนเงินสะสมรวม 534.31 ล้านบาท หรือคิดเป็น 14.81% ของยอดสินเชื่อคงค้างสะสม และมีสินเชื่อค้างชำระที่เกินกว่า 3 เดือน (NPL) สะสมรวมจำนวน 24,862 บัญชี หรือคิดเป็นจำนวนเงินสะสมรวม 570.76 ล้านบาท หรือคิดเป็น 15.82% ของยอดสินเชื่อคงค้างสะสม ซึ่งมีแนวโน้มลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับยอด NPL ของเดือนสิงหาคม 2563 (16.39%)
นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง ยังคงดำเนินการร่วมกับ หน่วยงานภาคีแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การดำเนินการอย่างจริงจังกับเจ้าหนี้นอกระบบที่ผิดกฎหมาย ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 จนถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2563 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ดำเนินการจับกุมผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบ ที่กระทำผิดกฎหมายจำนวนสะสม 7,636 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2563 จำนวน 160 ราย
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร และรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ ที่เปิดดำเนินการได้ทางเว็บไซต์ www.1359.go.th และสามารถร้องเรียน หรือแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับเงินกู้นอกระบบที่ผิดกฎหมาย ได้โดย ตรงที่
• สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สายด่วน 1599
• ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โทร. 0 2255 1898
• ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์การกู้ยืมเงินโดยสัญญาที่ไม่เป็นธรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สายด่วน 1155
• ศูนย์ดำรงธรรม สายด่วน 1567
• ศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สายด่วน 1359
• ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม (ศนธ.ยธ.) โทร. 0 2575 3344
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ข้าวราคาตก อย่ารีบขาย ธ.ก.ส. จัดให้ สินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน สร้างมูลค่าเพิ่มข้าว
- ครม. ไฟเขียวเพิ่มเงิน ‘ประกันราคาข้าว’ 2.8 หมื่นล้าน เตรียมจ่ายชดเชยงวด 2-4
- ลุ้น ครม. ไฟเขียวเพิ่มเงิน ‘ประกันราคาข้าว’ จ่ายส่วนต่างงวดถัดไป 7 ธันวาคม