นักท่องเที่ยวต่างชาติ ฟื้นสู่ปกติ 40 ล้านคนปี 2567 รมว.คลัง มองบวก จีดีพีไทย กลับมาเติบโต 4-4.5% ปีหน้า จากท่องเที่ยว ยืดคนละครึ่งต่ออีก 3 เดือน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐิ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน “Thailand 2021 New game New normal” ว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติ จะกลับเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยเท่ากับสถานการณ์ปกติก่อนเกิดโควิด-19 ที่ปีละ 40 ล้านคน ภายในปี 2567 หรืออีก 4 ปีนับจากนี้
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า ในปี 2564 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ เข้ามาเที่ยวประเทศไทยราว 8 ล้านคน จากนั้นในช่วงปี 2565 – 2566 จะทยอยเพิ่มเป็น 16 ล้านคน และ 32 ล้านคน จากนั้นจะเพิ่มกลับมาสู่ระดับ 40 ล้านคน
นอกจากนี้ ยังมองว่า เศรษฐกิจไทย จะใช้เวลาในการฟื้นตัวในอีก 2 ปี โดยปีหน้า คาดว่าจีดีพีไทย จะขยายตัวเป็นบวกอยู่ที่ระดับ 4-4.5% โดยเป็นผลมาจากการท่องเที่ยว ที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาราว 8 ล้านคน และการต่ออายุมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านโครงการคนละครึ่ง ออกไปอีก 3 เดือน
สำหรับโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ที่ผ่านมา สามารถกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศได้เพียงครึ่งเดียว หรือประมาณ 3% เท่านั้น และอยู่ระหว่างให้กระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา พิจารณาปรับเงื่อนไข เพื่อจูงใจให้มากขึ้น
ปัจจุบัน การท่องเที่ยวในประเทศคิดเป็น 6% ของผลผลิตมวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ขณะที่การท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ คิดเป็น 12% ของ จีดีพี ที่หายไป อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวท่องเที่ยว จะขึ้นกับวัคซีนและประเทศต้นทาง ด้วย
ขณะนี้ พบว่า เศรษฐกิจไทยเริ่มมีการฟื้นตัวแล้ว แม้ว่า 3 ไตรมาสที่ผ่านมา จะขยายตัวติดลบ แต่หากเทียบไตรมาสต่อไตรมาสจะพบว่า ขยายตัวได้ดีขึ้น โดยไตรมาสสามปีนี้ ขยายตัวดีกว่าไตรมาสสองถึง 6.5% สะท้อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น แต่อาจจะไม่หวือหวา เพราะกำลังซื้อมีเฉพาะในประเทศเท่านั้น
จากแนวโน้มที่เห็นสัญญานการฟื้นตัว ทำให้เชื่อมั่นว่า ปีหน้า จีดีพี ประเทศไทย จะพลิกกลับมาเป็นบวก และสามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่าเมื่อเกิดวิกฤตปี 2540 โดยคาดว่า เศรษฐกิจไทยจะใช้เวลาในการฟื้นตัวในอีก 2 ปี
อีกประเด็นที่จะเห็นชัดเจนในปีหน้า คือ “New Game New Normal” ทำให้เกิดการใช้เทคโนโลยีมากขึ้น ทั้งในบริการทางการแพทย์ ธุรกิจออนไลน์ การเรียนรู้ทางไกล การท่องเที่ยว การเดินทาง
ในส่วนของภาครัฐ ก็จะเห็นพัฒนาการของ Digital payment ซึ่งกระทรวงการคลังเกี่ยวข้องการรับจ่ายเงิน G to C ผ่านพร้อมเพย์ ตัวอย่างคือ โครงการคนละครึ่ง ระยะแรกประชาชนไม่ค่อยสนใจเพราะยุ่งยาก แต่ระยะหลังก้ได้รับความนิยม ขณะนี้มีร้านค้าเข้าร่วมกว่า 8 แสนร้านค้า ประชาชนใช้งาน 10 ล้านคน
สำหรับระบบนิเวศทางการเงิน ต่อภาพรวมเศรษฐกิจนั้น จะต้องสอดประสานกับนโยบายการคลัง ที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ถ้านโยบายการเงินไม่เอื้อ เศรษฐกิจก็ไปไม่ได้ โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจต้องการการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมที่ดีจะเอื้อต่อภาคเอกชน
“ และเมื่อรัฐบาลใช้จ่ายเงินลงไป เม็ดเงินต้องอยู่ในระบบ นโยบายการเงินต้องดู ไม่ใช่ว่า เมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้น นโยบายการเงินจะเริ่มเข้มงวดไม่ได้ เพราะการฟื้นตัวต้องใช้เวลา”นายอาคมกล่าว
ด้านกระทรวงการคลัง จะพัฒนาระบบรองรับการเบิกจ่ายระหว่างรัฐกับรัฐ และรัฐกับเอกชน และ รวมถึง การปรับโครงสร้างภาษีที่จะออกมารองรับการจัดเก็บรายได้ที่เพิ่มขึ้น โดยการจัดเก็บภาษีสินค้า และบริการออนไลน์ให้มากขึ้น
“เมื่ออยู่ในภาวะรายจ่ายเยอะ ขณะที่ การจัดเก็บรายได้เหมือนเดิม รายการลดหย่อนภาษีมากขึ้น เราจำเป็นต้องปรับโครงสร้างภาษี โดยจะเน้นการเก็บภาษีสินค้าและบริการออนไลน์มากขึ้น”นายอาคมกล่าว
ขณะเดียวกัน รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการดูแลธุรกิจเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดคณะรัฐมนตรีอนุมัติการค้ำประกินสินเชื่อเอสเอ็มอีทั่วไปวงเงินไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อราย และเอสเอ็มอีรายย่อยวงเงิน 5 แสนบาทต่อราย โดยรัฐบาลจะสนับสนุนต้นทุนให้ในวงเงิน 2.9 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ ที่ผ่านมา เมื่อค้ำประกันไปแล้วมีหนี้ดีถึง 94%
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- 2 เดือนแห่งความหวัง การท่องเที่ยวกระตุ้นอสังหาฯ
- กระตุ้นเศรษฐกิจหลังโควิด ชู ‘ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ’ วิถีถิ่น ประเดิม ทัวร์วัดโพธิ์
- เผยอนาคต การเดินทางท่องเที่ยว คนไทย ‘ฉลาดเลือก รักษ์โลก เน้นปลอดภัย’