COLUMNISTS

2 เดือนแห่งความหวัง การท่องเที่ยวกระตุ้นอสังหาฯ

Avatar photo
รองกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนากลยุทธ์และบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร
515

แม้สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย แต่นโยบายเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติประเภทพิเศษ Special Tourist VISA (STV) หรือ การเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาแบบมีเกณฑ์จำกัด ก็มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว โดยในช่วงปลายเดือนตุลาคม เป็นต้นมา ก็มีนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกเดินทางมาถึงประเทศไทยแล้ว และมีกระบวนการกักตัวตามเงื่อนไข ตามด้วยนักท่องเที่ยวกลุ่มที่ 2 และนักธุรกิจเริ่มทยอยเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย และเข้าสู่กระบวนการกักตัว ตามลำดับ

ข่าวนี้ถือว่าเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อประเทศไทย ที่สะท้อนว่าความต้องการเดินทางมาท่องเที่ยวและทำธุรกิจในประเทศไทยยังมีอยู่ตลอด แม้ว่าสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกยังน่ากังวล แต่เมื่อไทยเปิดรับนักท่องเที่ยวก็มีกระแสตอบรับทันที นั่นแสดงว่าในอนาคตหากสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกตินักท่องเที่ยวก็พร้อมจะกลับเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม แม้การเปิดรับนักท่องเที่ยวแบบมีเงื่อนไขพิเศษนี้ จะไม่ได้ส่งผลดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์โดยตรง แต่ก็ส่งผลต่อความเชื่อมั่นเศรษฐกิจโดยรวม ให้ผู้ประกอบการมีความหวัง ประกอบกับล่าสุดมีข่าวความคืบหน้าของวัคซีน ก็ยิ่งทำให้บรรยากาศการลงทุนทั่วโลกกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง

อสังหา112

ส่วนการที่นักลงทุน จะกลับเข้ามาลงทุน หรือ ผู้บริโภคจะกลับมามีกำลังซื้อในอสังหาริมทรัพย์ช้าหรือเร็วนั้น ส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับความมั่นใจของผู้บริโภค ซึ่งก็สอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจ หากเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้เร็ว กำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์ก็จะกลับมาเช่นกัน เพราะถึงอย่างไรที่อยู่อาศัยก็ถือเป็นปัจจัย 4 ของการดำรงชีวิต ความต้องการของกลุ่มผู้ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงจึงยังมีอยู่ เพียงแต่ช่วงนี้อาจจะมีบางส่วนที่รอดูทิศทางเศรษฐกิจระยะหนึ่ง

นอกจากนี้ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน รัฐบาลก็ได้มีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวทั้งการเพิ่มวันหยุดยาว และการเพิ่มมาตรการเราเที่ยวด้วยกันลดค่าตั๋วเครื่องบิน 40% ของมูลค่าตั๋วไม่เกิน 2,000 บาท ซึ่งถือเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่ดีที่จะช่วยให้ไฮซีซั่นปีนี้กลับมามีสีสันได้อีกครั้ง ถึงแม้จะไม่สามารถเทียบกับปีที่ผ่านๆ มาได้ก็ตาม

ขณะเดียวกัน ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้เผยผลสำรวจพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 พบว่า กลุ่มตัวอย่างมีแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวคิดเป็นสัดส่วน 77.3% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับผลสำรวจในช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่การท่องเที่ยวยังมีความไม่แน่นอนสูง เมื่อกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มองว่าหากมีการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศจะมีผลต่อการปรับแผนการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงที่เหลือของปีนี้ รวมถึงยังมีประเด็นการเมืองที่ต้องติดตาม

จากข้อมูลทั้งหมดก็ยังถือว่า 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้เริ่มมีแสงสว่างในภาคการท่องเที่ยวเข้ามา และนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่หัวเมืองท่องเที่ยวเองก็ต้องปรับแผนรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยกลุ่มที่เคยเน้นการปล่อยเช่ารายเดือนให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็จะเริ่มมีโอกาสจากการที่นักท่องเที่ยวประเภทพิเศษเริ่มทยอยเข้ามา ซึ่งก็เป็นกลุ่มที่เข้ามาพักผ่อนระยะยาว ก็ต้องมีการเตรียมห้องเช่าให้น่าอยู่และมีความพร้อม สามารถแข่งขันกับโรงแรมได้ เช่น การเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน (ผ้าเช็ดตัว, Wi-fi, มินิบาร์ต้อนรับ) และนอกจากกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ แล้วอาจปรับกลยุทธ์มาที่กลุ่มชาวไทยด้วย เช่น กลุ่มแรงงานแฝงหรือคนที่เข้ามาทำงานในเมืองท่องเที่ยว

โดยเจ้าของห้อง อาจจะเพิ่มโปรโมชั่นต่างๆ และสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ผู้เช่าที่ต้องทำงานผ่านอินเทอร์เน็ต รวมถึงอาจจะเพิ่มบริการพิเศษเพื่อเป็น Add-on service เช่น บริการส่งน้ำดื่มฟรีตลอดระยะเวลาการเช่า หรือการใช้น้ำ-ไฟ ฟรี หรือ อาจจะต้องปรับราคาเช่าลง เพื่อให้เกิดรายได้เข้ามาก่อนในช่วงนี้ อีกทั้งต้องปรับรูปแบบการทำการตลาดให้ตรงกลุ่มมากขึ้น เช่น จากเดิมที่เข้าไปโพสต์หาผู้เช่าในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการเช่าอสังหาฯ เป็นไปประกาศในกลุ่มคนทำงาน หรือกลุ่มอื่นๆ ที่ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น

อ่านข่าวเพิ่มเติม