ชาวสวนยางลุ้น! นัดทุกฝ่ายเคลียร์ปม “บัตรสีชมพู” มีสิทธิ์หรือไม่ จ่ายเงิน “ประกันราคายางพารา” งวดแรก 2 พันล้านให้ทันสัปดาห์นี้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เกษตรกรชาวสวนยางต้องรอเก้อ เนื่องจากการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ได้เลื่อนการจ่ายเงิน โครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 2 งวดแรก จำนวน 2,116 ล้านบาท ออกไปจากกำหนดเดิมวันที่ 26-27 พฤศจิกายน 2563
ปัญหาดังกล่าวเกิดจากสำนักงบประมาณมีมติแย้งเรื่องการจ่ายเงิน ประกันราคายางพารา ให้ผู้ถือ บัตรสีชมพู (เกษตรกรที่ปลูกยางพาราในที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์) โดย กยท. คาดว่าการจ่ายเงินงวดแรกจะล่าช้าออกไป 1 สัปดาห์ หากคำนวณแล้ว การโอนเงินงวดแรกน่าจะดำเนินการได้ในปลายสัปดาห์นี้หรือต้นสัปดาห์นี้ ซึ่งต้องมารอลุ้นกันว่า ภาครัฐจะเคลียร์ปัญหาจบและมีความชัดเจนของเรื่องนี้ออกมาเมื่อใด
ทั้งนี้ ล่าสุดจะมีการนัดเคลียร์ระหว่างกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงสำนักงานประมาณเพื่อหาข้อยุติให้ได้โดยเร็ว
ประสาน ธ.ก.ส. พร้อมจ่ายเงิน รอแค่ไฟเขียว
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยถึงโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางพารา ระยะที่ 2 วงเงินรวม 10,042 ล้านบาทว่า เดิมเงิน ประกันราคายางพารา งวดแรกจำนวน 2,116 ล้านบาท มีกำหนดโอนให้เกษตรกรในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2563 แต่ล่าสุดการโอนเงินงวดแรกจะต้องล่าช้าไปอีก 1 สัปดาห์
ปัญหาดังกล่าวเกิดจากความล่าช้าในการรับรองสวนยาง โดยเฉพาะผู้ถือบัตรสีชมพู เพราะรายละเอียดแนบท้ายประกันรายได้ระยะที่ 2 ระบุว่า จะอนุมัติเฉพาะผู้ถือบัตรสีเขียว (เกษตรกรที่ปลูกยางพาราในพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์) เท่านั้น ดังนั้น กยท. จึงอยู่ระหว่างการพิจารณาละเอียดอีกครั้ง
โดยเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา ได้จัดประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 2 ที่มีนายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน ณ ห้องสถลสถานพิทักษ์ กยท. สำนักงานใหญ่ กรุงเทพฯ
ผลที่ประชุมฯ ให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งทำความเข้าใจในระเบียบการจ่ายเงินเกษตรกรชาวสวนยางผู้มีสิทธิ์ตามโครงการฯ ที่ผ่านมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้เกษตรกรชาวสวนยางที่มีสิทธิ์ได้รับเงินโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 เห็นชอบโครงการ ประกันราคายางพารา ระยะที่ 2 โดยจะจ่ายเงินประกันรายได้ เป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 6 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ถึง เดือนมีนาคม 2564 ภายใต้กรอบงบประมาณทั้งสิ้นกว่า 1 หมื่นล้านบาท
ราคาประกันรายได้ที่โครงการตั้งไว้ คือ
- ยางแผ่นดิบคุณภาพดี ราคา 60 บาทต่อกิโลกรัม
- น้ำยางสด (DRC 100%) ราคา 57 บาทต่อกิโลกรัม
- ยางก้อนถ้วย (DRC 50%) ราคา 23 บาทต่อกิโลกรัม
การจ่ายเงินงวดแรกประจำเดือนตุลาคม 2563 กำหนดราคายางอ้างอิงย้อนหลัง 60 วัน คือตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน – 23 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งราคาเป็นดังนี้
- ราคายางแผ่นดิบ เฉลี่ยอยู่ที่ 62.62 บาทต่อกิโลกรัม ไม่ได้รับเงินชดเชย
- ราคาน้ำยางสด (DRC 100%) อยู่ที่ 52.86 บาทต่อกิโลกรัม ชดเชยส่วนต่าง 4.14 บาทต่อกิโลกรัม
- ราคายางก้อนถ้วย (DRC 50%) อยู่ที่ 19.09 บาทต่อกิโลกรัม ชดเชยส่วนต่าง 3.19 บาทต่อกิโลกรัม
ในส่วนของเกษตรกรที่ผ่านการเข้าร่วมโครงการประกันรายได้ ระยะที่ 1 และมีคุณสมบัติครบถ้วน คือขึ้นทะเบียนก่อน 12 สิงหาคม 2562 เมื่อโครงการฯ ระยะที่ 2 เริ่มอนุมัติจ่ายเงิน ประกันรายได้ จะสามารถจ่ายเงินเข้าบัญชีได้ทันที
ส่วนเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเพิ่มเติมตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2562 แต่ไม่เกิน 15 พฤษภาคม 2563 กยท. จะเข้าตรวจสอบข้อมูลพื้นที่ปลูกยางเพิ่มเติมโดยเร็วที่สุด เพื่อส่งข้อมูลการจ่ายเงินส่วนต่างประกันรายได้ตามโครงการฯ ให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อจ่ายเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยเร็วที่สุด
วิธีเช็คสิทธิ์ “ประกันราคายางพารา”
ชาวสวนยางสามารถตรวจสอบสิทธิ์โครงการประกันรายได้เกษตรกรได้ง่ายๆ ดังนี้
- เข้าเว็บไซต์ www.rubber.co.th คลิกที่นี่
- คลิกเลือกประเภท “บุคคลธรรมดา”
- คลิกเลือกโครงการ “ตรวจสอบ ประกันรายได้ ระยะที่ 2”
- กรอกหมายเลขบัตประชาชน 13 หลัก
- กดปุ่ม “ตรวจสอบข้อมูล”
ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยหรือไม่พบข้อมูลการขึ้นทะเบียน สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) สำนักงานใหญ่, กยท.จังหวัด และ กยท. สาขา ทั่วประเทศ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เฮดังๆ ไฟเขียวจ่ายเงิน ‘ประกันราคายางพารา’ บัตรสีชมพู เริ่มโอนเงินสัปดาห์หน้า
- ด่วน! เลื่อนโอน ‘ประกันราคายางพารา’ การยางฯ รับปากเร่งประสานจ่ายเงินเร็วที่สุด
- ชาวสวนยางมามุง! เปิดวิธีเช็คสิทธิ์ ‘ประกันราคายางพารา’ อีก 3 วันเงินเข้า