Finance

ราคาทองคำ ‘ขาลง’ หลังหลุด 1,800 ดอลลาร์ จ่อแตะ 1,750 ดอลลาร์ในสัปดาห์หน้า

ราคาทองคำ เข้าสู่ “ขาลง” หลังในสัปดาห์ที่ผ่านมาดิ่งลงมากที่สุดตั้งแต่เดือนก.ย. หลุดระดับ 1,800 ดอลลาร์/ออนซ์  โดยปรับลงมากถึง 300 ดอลลาร์จากระดับสูงสุดในเดือนส.ค. 

ราคาทองคำร่วงหนักกว่า 2% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลุดแนวต้านสำคัญ ที่ระดับ 1,800 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากนักลงทุนเทขายอย่างหนัก จากคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวจากการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 และการถ่ายโอนอำนาจของว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งคาดว่าจะรัฐบาลใหม่สหรัฐจะออกมาตรการกระตุ้นครั้งใหญ่

ราคาทองคำในตลาดซื้อขายทันที หรือ ตลาดสปอต ร่วงลง 1.3% แตะระดับ 1,787.46 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยในช่วงเปิดตลาดดิ่งลึกลงแตะระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนก.ค. ที่ 1,773.10 ดอลลาร์/ออนซ์ เช่นเดียวกับราคาทองฟิวเจอร์(COMEX) ลดลง 1.3% อยู่ที่ระดับ 1,781.90 ดอลลาร์/ออนซ์

สมาคมผู้ค้าทองคำ ประกาศ ราคาทองคำ ในประเทศเมื่อวันเสาร์ที่ 28 พ.ย. โดยปรับลดลง 250 บาท/บาททองคำ ซึ่งราคาทองคำแท่ง ขายออก 25,700 บาท และรับซื้อคืน 25,600 บาท ส่วนทองคำรูปพรรณ์ ขายออก 26,200 บาท และรับซื้อคืน 25,135.28 บาท

นักวิเคราะห์กล่าวว่าทันทีที่ราคาร่วงแตะ 1,800 ดอลลาร์ ได้เกิดแรงเทขายอย่างหนัก ในสัปดาห์หน้าอาจได้เห็นร่วงต่อไปทดสอบ 1,750 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยเหตุผลหลักมาจากวัคซีนโควิด-19 ทำให้นักลงทุนเทขาย เพื่อโยกเงินไปซื้อสินทรัพย์เสี่ยง รับเศรษฐกิจจะฟื้นตัวเร็ว

“ความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้สะท้อนในราคาหุ้นทั่วโลกที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง มูลค่าการซื้อขายคึกคัก ชี้ให้เห็นว่านักลงทุนมองในเชิงบวกอย่างมาก ต่อสถานการณ์โควิด-19 แม้จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อยังสูงขึ้น”

ตลาดหุ้นทั่วโลกปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ ยังขยับขึ้น โดยดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 37.9 จุด หรือ 0.13% อยู่ที่ 29,910.37 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 8.7 จุด หรือ 0.24% ปิดที่ 3,638.35 จุด และ ดัชนี Nasdaq ปิดเพิ่มขึ้น 111.44 จุด หรือ 0.92% ปิดที่ 12,205.85 จุด

ดัชนี MSCI ตลาดหุ้นทั่วโลด ปรับเพิ่ม 0.39% อยู่ที่ 623.75 หลังทะยานขึ้นไปที่ 624.29 โดยหุ้นตลาดเกิดใหม่ เพิ่มขึ้น 0.12% ขณะที่ดัชนีนิเกอิ เพิ่มขึ้น 0.40%

ผลกระทบต่อราคาทองคำยิ่งกว่านั้น นอกจากวัคซีนโควิด-19 คือ การค้าโลก ซึ่งนักลงทุนเชื่อว่านายโจ ไบเดน จะมีนโยบายการค้าที่ต่างจากประธานาธิบดีทรัมป์ ทำให้การค้าโลกจะกลับมาสู่ภาวะปกติ และ นั่งโต๊ะเจรจาการค้ามากกว่าใช้อำนาจเข้าบังคับประเทศคู่ค้าด้วยมาตรการทางภาษีและการเมือง

อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังมีโอกาสทรงตัวอยู่ได้ ไม่ดิ่งลงมากนัก เนื่องจากยังมีความเสี่ยงสำคัญรออยู่ข้างหน้า นั่นคือการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลก โดยขณะนี้ยังไม่อาจประเมินได้ชัดเจนนักว่าหลังจากมีวัคซีนโควิด-19 เศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้เร็วแค่ไหนและเป็นไปอย่างทั่วถึงหรือไม่

นักวิเคราะห์กล่าวว่าขณะนี้อัตราดอกเบี้ยโลกถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำมาก โดยธนาคารกลางแต่ละประเทศยังคงรักษาระดับอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อีกทั้งมีการอัดฉีดเงินเข้าระบบมหาศาล ซึ่งจะผลักดันให้เงินเฟ้อขยับสูงขึ้น

นักวิเคราะห์จากสภาผู้ค้าทองคำโลกระบุว่าต้องยอมรับว่าข่าววัคซีนโควิด-19 และความชัดเจนการเมืองสหรัฐ กระทบราคาทองคำอย่างรุนแรง เพราะในปีนี้ทั้ง 2 ปัจจัย ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ช่วยหนุนราคาทอง ซึ่งราคาทองที่ร่วงลงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้สะท้อนความคาดหวังของนักลงทุนว่าทุกอย่างจะดีขึ้น

ดูรายละเอียด สถิติราคาทองคำโลก

แต่ราคาทองคำยังมีปัจจัยที่หนุนราคา โดยต้องจับตาอย่างใกล้ชิด แม้มีวัคซีนออกมาใช้ แต่ต้องดูว่าจะมีอย่างทั่วถึงแค่ไหน นอกจากนี้ต้องจับตาตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นในปีนี้จะใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะฟื้นตัว

“ในทางตรงกันข้าม ผลดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หากทุกอย่างกลับมาก็จะช่วยหนุนราคาทองคำให้ฟื้นตัวจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น โดยเฉพาะตลาดเครื่องประดับในจีนและอินเดีย ที่เป็นตลาดใหญ่”

อ่านข่าวเพิ่มเติม :

Avatar photo