Politics

‘บิ๊กตู่’ ดีใจคนไทยจะได้รับวัคซีนโควิด-19 อันดับแรกๆ ของโลก

“นายกรัฐมนตรี” ดีใจคนไทยจะได้รับ “วัคซีนโควิด” อันดับแรกๆ ของโลก ลั่นตราบใดประเทศชาติยังไม่เรียบร้อยคนไทยไม่มีความสุข ผมก็ไม่มีความสุข

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha ระบุว่า รู้สึกดีใจที่คนไทยจะได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นอันดับแรกๆ ของโลกในปีหน้า

วันนี้ได้มีการลงนามสัญญาจัดหาวัคซีน COVID – 19 โดยได้ทำการจองล่วงหน้ากับบริษัท AstraZeneca ไปแล้ว ขอให้พวกเราทุกคนมั่นใจได้ว่า คนไทยจะต้องเข้าถึงยา เข้าถึงการรักษา ได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง

รัฐบาลยังคงพร้อมจะสนับสนุนส่งเสริมอย่างต่อเนื่องในการวิจัยและพัฒนาอันเกี่ยวกับสุขภาพ ขอให้พวกเราทุกคนยังคงรักษาวินัยดูแลตัวเองและคนใกล้ชิดเหมือนเดิม คนไทยทุกคนยังคงต้องร่วมมือกันป้องกันสังคมของเราให้ปลอดภัยอย่างต่อเนื่องนะครับ ขอบคุณทุกคน ทุกหน่วยงานที่ร่วมกันทำเพื่อให้ประเทศไทยมีวันนี้ #ทีมประเทศไทย #รวมไทยสร้างชาติ #วัคซีนโควิด-19 #AstraZeneca

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวตอนหนึ่งระหว่างให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ขอให้คนไทยทุกคนได้ช่วยกันตั้งจิตให้ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยดีแล้วกัน เมื่อเช้าได้ไปเยี่ยมประชาชนตามคลองผดุงกรุงเกษมมาแล้ว ทุกคนมีความสุขตามอัตภาพพอสมควร ที่เดือดร้อนรัฐบาลก็จะดูแลเป็นขั้นเป็นตอนไปแล้วกัน

“ขอให้ทำสิ่งดีๆ เถอะ วันไหนได้ทำอะไรที่ไม่มีปัญหา ตนก็มีความสุข ตราบใดที่ประเทศชาติยังไม่เรียบร้อยอะไรต่างๆ คนเป็นนายกฯ คนเป็นรองนายกฯ และคนเป็นรัฐมนตรี ไม่มีความสุข เพราะเห็นคนไทยไม่มีความสุข แต่ความสุขมันต้องอยู่ในกรอบที่มันควรจะเป็น ตามหน้าที่ สิทธิเสรีภาพ ความรับผิดชอบ กฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม ไม่อย่างนั้นประเทศตีกันตายใช่ไหม” นายกรัฐมนตรี ระบุ

เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่จะขยายผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งเป็นเยาวชนต่ำกว่า 18 ปีด้วย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทางกระทรงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังหารือกันอยู่ว่า จะให้ใครได้รับสิทธิบ้าง ทางรัฐบาลต้องการอยากจะให้ทั้งหมด แต่ก็ต้องดูด้วยว่าให้ไหวหรือไม่ทั้ง 70 ล้านคน ก็ต้องขอไปดูก่อน

ตอนนี้ให้สำหรับคนที่มีรายได้น้อยอยู่แล้ว อย่างน้อยจะได้มีซื้อของ ซื้ออาหาร ได้ในราคาที่ถูกลงเป็น 2 เท่า ตนยืนยันว่า รัฐบาลเดินหน้าโครงการนี้ต่อไปในเดือน มกราคม 2564 เพื่อให้มีมาตรการนี้ต่อไปอย่างน้อยอีก 3 เดือน เพราะจะต้องพิจารณาเป็นโครงการๆ ไป ครั้งละ 3 เดือน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK