ผลชันสูตรชี้ “มาราโดนา” ตำนานลูกหนังโลก ชาวบราซิล เสียชีวิตขณะนอนหลับ จากอาการหัวใจวาย ทั้งยังพบว่า กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแอลง สูบฉีดเลือดเลี้ยงร่างกายไม่พอ
จากกรณีการเสียชีวิตของ “เสือเตี้ย” ดิเอโก มาราโดนา ตำนานนักเตะโลก ชาวอาร์เจนตินา ที่เสียชีวิตอย่างกระทันหัน ในบ้านพักชานกรุงบัวโนสไอเรส ด้วยวัยเพียง 60 ปี สร้างความเสียใจให้กับเหล่าผู้คนในวงการฟุตบอลทั่วโลกนั้น
ล่าสุด มีรายงานผลชันสูตรศพ ออกมาแล้ว โดยแพทย์ ระบุว่า มาราโดนา เสียชีวิตในระหว่างนอนหลับ หลังจากหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้ เขาได้เข้ารับการผ่าตัด จากภาวะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง และเพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาได้เพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น
ในการชันสูตรครั้งนี้ แพทย์ยังตรวจพบว่า กล้ามเนื้อหัวใจของเขาอ่อนแอลง และไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปยังส่วนอื่นของร่างกายได้เพียงพอ
รายงานข่าวระบุด้วยว่า ก่อนเสียชีวิต อดีตนักฟุตบอลชื่อดังวัย 60 ปีรายนี้ ได้ลงมารับประทานอาหารเช้า ด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว และบอกกับหลานชายของเขาว่า รู้สึกหนาว และไม่สบาย ก่อนที่จะกลับขึ้นห้องไปนอน
พยาบาลได้ขึ้นไปดูอาการของเขา ในเวลาก่อนเที่ยงวันเล็กน้อย แต่ปลุกไม่ตื่น มีการเรียกรถพยาบาล แต่มาราโดนาเสียชีวิตก่อนที่ความช่วยเหลือจะมาถึง
ขณะที่ รัฐบาลอาร์เจนติน่า ประกาศให้ลดธงครึ่งเสาทั่วประเทศเป็นเวลา 3 วัน เพื่อร่วมไว้อาลัยให้กับมาราโดนาทั่วประเทศ โดยร่างของเขาจะถูกเก็บรักษาไว้ที่ทำเนียบประธานาธิบดีอาร์เจนตินา ตลอดช่วงเวลาดังกล่าว
ทั้งนี้ มาราโดนามีชื่อเต็มว่า ดิเอโก อาร์มันโด มาราโดนา เป็นอดีตนักฟุตบอลชาวอาร์เจนตินา และอดีตผู้จัดการทีมชาติอาร์เจนตินา เขาถือเป็น 2 นักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล โดยเขาได้รับรางวัลผู้เล่นฟีฟ่าแห่งศตวรรษ ร่วมกับเปเล่ ตำนานลูกหนังบราซิล
ตอนอายุ 8 ปี เขาเริ่มเล่นฟุตบอลให้กับสโมสรท้องถิ่นเอสเตรยา โรจา ก่อนจะถูกเรียกให้มาติดสโมสรเยาวชนของอาร์เฆนติโนสยูนิออร์ส, โบกายูนิออร์ส, บาร์เซโลนา, นิวเอลล์โอลด์บอยส์ และ นาโปลี ทั้งยังสร้างสถิติในเรื่องค่าสัญญาในระดับนานาชาติด้วยค่าตัว 7.6 ล้านดอลลาร์ ที่ย้ายไปอยู่กับบาร์เซโลนา ในสเปน
เขาลงเตะให้กับทีมชาติอาร์เจนตินา 91 นัด ทำประตู 34 ประตู ได้ลงเตะในฟุตบอลโลก 4 ครั้ง โดยในการแข่งขันฟุตบอลโลก 1986 เขานำทีมอาร์เจนตินา ชนะทีมเยอรมันตะวันตกในรอบสุดท้าย และยังได้รับรางวัลลูกบอลทองคำในฐานะผู้เล่นยอดเยี่ยม
ในการแข่งครั้งนี้ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย เขาทำคะแนน 2 ประตู จากผล 2–1 เหนือทีมอังกฤษ โดยในประตูแรกเป็นที่รู้จักในชื่อ “หัตถ์พระเจ้า” ในขณะที่ประตูที่ 2 เป็นการครองลูกระยะ 60 เมตร เลี้ยงหลบผู้เล่นอังกฤษ 6 คน จนได้รับขนานนามว่า “ประตูแห่งศตวรรษ”
จากหลายเหตุผล ทำให้มาราโดนาเป็น 1 ในนักกีฬา ที่มีข้อขัดแย้ง และเป็นที่ต้องการของนักข่าวมากที่สุดคนหนึ่ง เขาถูกพักการเล่นฟุตบอลเป็นเวลา 15 เดือนในปี 1991 หลังจากตรวจพบว่า เสพโคเคนในอิตาลี และถูกส่งกลับบ้านในฟุตบอลโลก 1994 ที่สหรัฐอเมริกา หลังจากตรวจพบใช้สารอีเฟดรีน
หลังจากที่เขาเกษียณจากการเป็นนักเตะฟุตบอลในวันครบรอบอายุ 37 ปี เมื่อปี 1997 มาราโดนาต้องทนทุกข์กับอาการป่วยมากขึ้น และน้ำหนักเพิ่ม ทั้งยังติดโคเคนอย่างต่อเนื่อง
ในปี 2005 หลังการผ่าตัดท้อง ช่วยทำให้เขาควบคุมเรื่องน้ำหนักได้ ในเวลาต่อมา เขายังสามารถเลิกโคเคนได้ เขายังเป็นพิธีกรรายการชื่อดังในอาร์เจนตินาด้วย
มาราโดนาเคยรับงานคุมทีมอูร์รากัน (Hurracan) ในดิวิชัน 1 อาร์เจนตินา แต่ทำทีมจนตกชั้นตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่ทำงาน เมื่อปี 2009 มาราโดนาเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติอาร์เจนตินา แต่กลับทำทีมหมิ่นเหม่ต่อการตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2010 เคราะห์ยังดีที่อาร์เจนตินาเอาชนะอุรุกวัยไปได้ 1–0 ในนัดสุดท้าย ของรอบคัดเลือก จึงผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2010 ได้สำเร็จ
เป็นเหตุให้มาราโดนาต่อว่านักข่าวที่เคยวิพากษ์วิจารณ์เขามาตลอด ทำให้สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ลงโทษแบนเขา 2 เดือน จากนั้นในเดือนมิถุนายน 2010 มาราโดนานำทีมชาติอาร์เจนตินาสู้ศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ เข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ก่อนจะแพ้ให้กับทีมชาติเยอรมนี 0–4
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ช็อก! ‘สุรเชษฐ์’ อดีตนักบอล ‘สุโขทัย เอฟซี’ ผูกคอเสียชีวิตกลางสนามบอลโรงเรียน
- สูญเสียอีก! ‘ปาเป ดิยุฟ’ อดีตปธ. ‘โอลิมปิก มาร์กเซย์’ ติดโควิด-19 เสียชีวิต
- ข่าวเศร้าลูกหนังโลก! ‘เรเยส’ อดีตทีมชาติสเปนเสียชีวิตในวัย 35 ปี