เกรฮาวด์ แบรนด์ไทย ผงาดสู่ทศวรรษ 5 ใต้ปีก มัดแมน ลุยขยายธุรกิจทั้งกลุ่มร้านอาหาร เสื้อผ้าแฟชั่น สยายปีกธุรกิจ ปั้นแบรนด์ไทยไปเวทีโลก พร้อมลุยออนไลน์
เกรฮาวด์ แบรนด์ไทย (Greyhound) ที่ก่อตั้งโดย “ภาณุ อิงคะวัต” นักโฆษณาชื่อดัง โดยเริ่มสร้างตำนานแบรนด์ จากกลุ่มสินค้าแฟชั่น ตั้งแต่ 30 ตุลาคม 2523 และขยายสู่ธุรกิจร้านอาหาร เกรฮาวด์ คาเฟ่ ในปี 2539 พร้อมขยายแบรนด์ใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
จากนั้นในปี 2557 เกรฮาวด์ ได้ขายกิจการทั้งหมด ให้กับ บริษัท ทรัพย์ศรีไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทมัดแมน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ทรัพย์ศรีไทย ทั้ง บริษัทเกรฮาวด์ จำกัด (แฟชั่น) และบริษัทเกรฮาวด์ คาเฟ่ จำกัด รวมมูลค่า 1.853.80 ล้านบาท
สำหรับย่างก้าวสู่ทศวรรษที่ 5 ของแบรนด์เกรฮาวด์ ภายใต้การบริหารงานของ มัดแมน จะยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งในกลุ่มร้านอาหาร และเสื้อผ้าแฟชั่น อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการขยายสาขา พัฒนาแบรนด์ใหม่ โดยมีเป้าหมายคือ การสร้างแบรนด์ไทย ไปผงาดในตลาดโลก
ลิมลี่ ทิพพงษ์ประภาส กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท เกรฮาวด์ ภายใต้บริษัท มัดแมน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ความสำเร็จของเกรฮาวด์ตลอด 40 ปีที่ผ่านมา เกิดจากการมีแบรนด์ดีเอ็นเอ ที่แข็งแกร่งเป็นเอกลักษณ์ “Basic with a Twist” โดดเด่นต่างจากคู่แข่ง โดยเน้นเรื่องความเรียบง่าย ที่แฝงด้วยลูกเล่น และความคิดสร้างสรรค์ในทุก ๆ ผลิตภัณฑ์
ขณะที่ก้าวเดินนับจากนี้ บริษัทจะยังไม่หยุดพัฒนา คุณภาพและบริการ ให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการปรับปรุงระบบการทำงานให้มีประสิทธิภาพ และปรับตัวให้กลุ่มบริษัท ให้เข้ากับสถานการณ์ตลาด พฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อให้เกิดสินค้าและบริการใหม่ ๆ โดยเฉพาะให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย
“เกรฮาวด์ กรุ๊ป พร้อมก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 5 อย่างแข็งแกร่ง มุ่งมั่นที่จะนำพาแบรนด์ไลฟ์สไตล์ของคนไทยไปสร้างปรากฏการณ์บนเวทีโลก” ลิมลี่ กล่าว
แผนการไปสู่เป้าหมายดังกล่าวนั้น นอกจากจะเพิ่มการลงทุน เพื่อขยายสาขาปีละ 5-10 สาขา ทั้งในไทยและต่างประเทศแล้ว บริษัทยังมองหาการร่วมทุนกับแบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้พอร์ตโฟลิโอ
เริ่มจากปีนี้ ที่จะใช้จุดแข็งด้านความคิดสร้างสรรค์ ต่อยอดในธุรกิจแบบ Licensing จับมือกับพาร์ทเนอร์ยักษ์ใหญ่ ต่อยอดเป็นสินค้าใหม่ออกจำหน่าย รวมถึงธุรกิจแบบ แฟรนไชส์ เพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น และครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
ที่สำคัญคือ การเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ถือเป็นปัจจัยเร่งให้เกิดการพัฒนาช่องทางการขายใหม่ ทั้งแฟชั่นและอาหาร ผ่านช่องทางออนไลน์ และแพลทฟอร์มต่าง ๆ เช่น ทางโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ aggregator รวมถึงมาร์เก็ตเพลสชั้นนำต่าง ๆ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในช่วงวิกฤติโควิด
ร้านอาหาร เรือธงผงาดแบรนด์ไทยในต่างแดน
ด้าน ปิยพงศ์ รินทรานุรักษ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เกรฮาวด์ คาเฟ่ จำกัด กล่าวว่า บริษัทมุ่งมั่นสร้างแบรนด์ไทย ธุรกิจของคนไทย ให้เติบโตในต่างประเทศ ซึ่งในปัจจุบัน เกรฮาวด์ คาเฟ่ ในต่างประเทศ มีทั้งสิ้น 15 สาขา ครอบคลุม 6 เดสทิเนชั่น คือ จีน, ฮ่องกง, สิงคโปร์, เวียดนาม, อินโดนีเซีย และอังกฤษ
ในปี 2564 ทางเกรฮาวด์ กรุ๊ป วางแผนที่จะขยายเพิ่มอีกอย่างน้อย 2 ประเทศ ซึ่งปัจจุบันได้มีการเซ็น MOU กับพาร์ตเนอร์ในประเทศฟิลิปปินส์ แล้ว รวมถึงการมองหาโอกาส ในตลาดที่มีศักยภาพ ทั้งในเอเชีย และยุโรป โดยไม่ได้จำกัดรูปแบบในการต่อยอดและพัฒนาธุรกิจ
พร้อมกันนี้ ยังให้ความสำคัญกับความหลากหลายของกลยุทธ์ ในการขยายสาขาทั้งในรูปแบบ การขยายสาขาของบริษัทเอง, การร่วมทุน ไปจนถึงการขยายในรูปแบบแฟรนไชส์ เพราะเชื่อในการทำงานร่วมกัน ระหว่าง เกรฮาวด์ กรุ๊ป กับพาร์ทเนอร์ที่มีความคุ้นเคยกับตลาดของประเทศนั้น ๆ
“การขยายสาขาในต่างประเทศ นอกจากจะช่วยเพิ่มรายได้แล้ว ยังช่วยบริหารความเสี่ยงจากการพึ่งพาการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจภายในประเทศเพียงอย่างเดียวอีกด้วย”ปิยพงศ์ กล่าว
กฤตินาท อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เกรฮาวด์จำกัด กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นเสมือนตัวเร่งให้ผู้บริโภคยอมรับพฤติกรรมการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น จึงเกิดการปรับกลยุทธ์การขาย เพื่อให้สินค้ามีความน่าสนใจ และเกิดการตัดสินใจซื้อ ความรวดเร็วและเรื่องราว (Speed and Story)เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้าแฟชั่นง่ายขึ้น
ขณะเดียวกันไลฟ์สไตล์แบบ Work From Home และการประชุมผ่านทางออนไลน์ต่าง ๆ ก็มีส่วนทำให้ทิศทางการแต่งตัวเป็นแบบ Less Formal มากขึ้น ซึ่งเราจำเป็นต้องมีสินค้าที่ตอบโจทย์นี้ ซึ่งยังคงมีคุณภาพสมราคาและสร้างเอกลักษณ์ของผู้ใส่ได้เป็นอย่างดี
สำหรับปีนี้ เกรฮาวด์ ออริจินัล ได้เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ในชื่อ ออริจินัล เกรฮาวด์ (Original Greyhound) ในสไตล์สตรีตแวร์ ที่อิงกับวัฒนธรรมดนตรี ในรูปแบบที่เข้าถึงง่าย เหมาะกับคนรุ่นใหม่ จะเห็นว่า โลโก้ของออริจินัล เกรฮาวด์ มีที่มาจากเกรฮาวด์ที่กลับหัวกับคำว่าออริจินัล เพื่อแสดงให้เห็นว่านี่คืออีกมุมหรืออีกด้านของแบรนด์
เช่นเดียวกับแบรนด์สไมลี่ฮาวด์ ที่เพิ่งเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ในหมวดน้ำหอม รองเท้า และสินค้ากีฬา นอกจากนี้ ยังต้อนรับการกลับมาของแอนิมอล เฮ้าส์ (Animal House) ที่ร่วมกับซีพี ออลล์ จำหน่ายผ่านทาง 24shopping.co.th
ปัจจุบัน ธุรกิจเสื้อผ้าแฟชั่นของเกรฮาวด์ มีทั้งสิ้น 3 แบรนด์ ได้แก่ เกรฮาวด์ ออริจินัล 4 สาขา, สไมลี่ฮาวด์ 10 สาขา โดยเตรียมเปิดอีก 2 สาขา ที่ เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน และแฟชั่นไอส์แลนด์ รวมถึงแบรนด์แอนิมอล เฮ้าส์ ที่จำหน่ายเฉพาะช่องทางออนไลน์เท่านั้น คาดว่าทำรายได้รวม เติบโตขึ้นจากปีที่แล้ว
ผุดโมเดลร้านอาหารใหม่ไซส์เล็ก – ผลิตภัณฑ์ทู โก
ฐิติภูมิ วงศ์เกียรติขจร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัท เกรฮาวด์ จำกัด และบริษัท เกรฮาวด์ คาเฟ่ จำกัด กล่าวว่า ในส่วนของปีนี้มีการเปิด เกรฮาวด์ คาเฟ่ 2 สาขาใหม่ที่เดอะมอลล์ งามวงศ์วานและเซ็นทรัล อีสต์วิลล์
อีกทั้งเตรียมเปิดตัวโมเดลธุรกิจใหม่ ในชื่อ “เกรฮาวด์ คาเฟ่ ซีเล็คเท็ด” (Greyhound Cafe Selected) 1 สาขาที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว ซึ่งเป็นโมเดลร้านอาหารที่ไม่ต้องการพื้นที่ขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มความคล่องตัว ในการขยายสาขา
นอกจากนี้ ยังเตรียมเปิดตัว “เกรฮาวด์ คาเฟ่ ทู โก โปรดักต์ ไลฟ์ อิส ทู ชอร์ต ฟอร์ แบ้ด สแน็คส์” Greyhound Café To Go Products “Life Is Too Short For Bad Snacks” จำหน่ายขนมขบเคี้ยว แยม และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ซึ่งน่าจะช่วยเพิ่มยอดขายต่อสาขาได้อย่างมีนัยสำคัญ
ปัจจุบัน เกรฮาวด์มีเครือข่ายร้านอาหารรวม 7 แบรนด์ ได้แก่ เกรฮาวด์ คาเฟ่ 17 สาขา, อนาเธอร์ ฮาวด์ คาเฟ่ 3 สาขา, กิน+เฮ 1 สาขา, ไก่ฮาวด์ 3 สาขา, เกรฮาวด์ คอฟฟี่ 15 สาขา และบ้านฮาวด์ ซึ่งจำหน่ายเฉพาะช่องทางออนไลน์เท่านั้น
ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา เกรฮาวด์ กรุ๊ป ได้ผลักดันนโยบายเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็น เกรฮาวด์ ออริจินัล กรีน เลเบล (Greyhound Original Green Label) กลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เกิดขึ้นจากการจับมือกับ T zero ซึ่งเป็นผู้ผลิตผ้ารีไซเคิล เพื่อจำหน่ายเสื้อผ้าที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมมากยิ่งขึ้น การใช้ผลิตภัณฑ์อัพไซเคิล (upcycle) ตกแต่งสไมลี่ฮาวด์ แฟล็กชิปสโตร์ (Smileyhound Flagship Store) สาขาสยามเซ็นเตอร์
ส่วน เกรฮาวด์ คาเฟ่ เปิดตัวแคมเปญเป็นมิตรต่อโลก Zero Waste Project ด้วยความตั้งใจที่จะลดการใชพพลาสติกครั้งเดียวทิ้ง มีการยกเลิกขายน้ำดื่มขวดพลาสติก เปลี่ยนเป็นขวดแก้ว เพื่อลดการใช้ขวดน้ำพลาสติกกว่า 500,000 ใบต่อปี
อ่านข่าวเพิ่มเติม
