กระทรวงพลังงานจับตา 1 สัปดาห์ก่อนหลัง 4 พฤศจิกายน หวั่นวิกฤติน้ำมัน หลังสหรัฐใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านรุนแรง ย้ำหากขึ้นถึง 90-100 ดอลลาร์ต้องหามาตรการเสริมช่วยเหลือ ยันดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันว่า ยังคงปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดวันนี้ (3 ต.ค.) น้ำมันดิบเบรนท์ปรับขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และดูไบก็ปรับขึ้นมาในระดับที่ใกล้กันแล้ว
โดยยืนยันว่าดูแลราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตรไปในระยะหนึ่งอย่างน้อยจนถึงสิ้นปีนี้หรือ 1-2 เดือนแรกของปี 2562 ซึ่งสถานะของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในปัจจุบัน ยังถือว่ามีเสถียรภาพในการรักษาระดับราคา ขณะนี้มีวงเงินเหลืออยู่ 26,000 ล้านบาท
“ค่าการตลาดของน้ำมันดีเซลต่ำกว่าปกติ หรืออยู่ที่ 1.12 บาทต่อลิตร ต้องขอบคุณผู้ค้ามาตรา 7 ที่ช่วยตรึงค่าการตลาด ไม่ปรับราคาในช่วงนี้” นายศิริ กล่าว
อย่างไรก็ตาม มีช่วงเวลาที่ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดช่วง 1 สัปดาห์ก่อน และหลังวันที่ 4 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ซึ่งถือเป็นวันครบกำหนด 180 วัน นับจากวันที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน และเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ระงับการซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านโดยสิ้นเชิงภายในวันที่ 4 พฤศจิกายน มิฉะนั้นจะถูกสหรัฐทำการคว่ำบาตร ดังนั้นช่วงเวลานี้จะอ่อนไหวมากที่จะจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
“หากราคาน้ำมันขึ้นสูงแตะระดับ 90 -100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอย่างที่หลายๆสำนักคาดการณ์ เราก็ต้องหามาตรการที่เหมาะสมที่สุด ราคาน้ำมันดีเซลก็ต้องปรับขึ้นไปบ้างในช่วงสั้นๆ”
ขณะเดียวกันต้องมาดูว่ากรอบวงเงินที่จะตรึงดีเซลรวม 1 บาทต่อลิตร ไม่เกิน 6,000 ล้านบาท ตามที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้มีมติอนุมัติเมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมาว่าเพียงพอหรือไม่ โดยตอนนี้ใช้เงินกองทุนฯตรึงดีเซลไปแล้วรวม 60 สตางค์ต่อลิตร
อย่างไรก็ตามกระทรวงพลังงานก็มีมาตรการดูแลภาคขนส่งมาโดยตลอด ด้วยการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการขนส่งและบริการรถโดยสารสาธารณะมาใช้น้ำมันดีเซลเกรดพิเศษ บี 20 ซึ่งมีราคาถูกกว่า 3 บาทต่อลิตร ซึ่งปัจจุบันมียอดการใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
และในวันที่ 3 ตุลาคม นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานยังเป็นประธานในงานวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงพลังงาน ประจำปี 2561 ซึ่งเป็นปีที่ 16 ในการสถาปนากระทรวงพลังงาน โดยมีผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ และผู้ที่เกี่ยวข้องในแวดวงพลังงานเข้าร่วมกิจกรรม ที่สำคัญ ได้แก่ พิธีสักการะพระพรหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของกระทรวงพลังงาน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้ประกาศงดรับกระเช้าและของขวัญต่างๆ ในการแสดงความยินดี และขอให้ร่วมสมทบทุน เพื่อซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ อาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา ของโรงพยาบาลศิริราช เป็นการทดแทน โดยมียอดบริจาครวม 1,180,000 บาท
โดยนายศิริ กล่าวว่าในโอกาสวันสถาปนากระทรวงพลังงาน ว่าได้มอบนโยบายให้ผู้ปฏิบัติงานในสังกัด ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด มีวินัย เปิดเผย โปร่งใส ไม่รับของกำนัล
“กระทรวงพลังงานใช้หลักการวิชาการเป็นพื้นฐาน เคารพในการทำงาน เพื่อประโยชน์ของส่วนร่วม สังคม และเน้นความมั่นคง ซึ่งเป็นพื้นฐานการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ”
