Business

วันนี้ชาวนา 6 แสนคนรับเงิน ‘ประกันรายได้’ แต่เก็บเกี่ยวหลัง 15 พ.ย.-งวด 3 ต้องรอ!

เงินเข้าแล้วนะ! วันนี้ชาวนา 6 แสนรายรับเงิน “ประกันรายได้” งวด 2 แต่เก็บเกี่ยวหลัง 15 พ.ย. -ผู้มีสิทธิ์งวด 3 กว่า 2 ล้านคนต้องรอเรื่องเข้า ครม. อีกรอบ

ขอแสดงความยินดีกับผู้ปลูกข้าว เพราะวันนี้ (25 พ.ย. 63) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้จ่ายเงินประกันรายได้ เกษตรกร หรือ ประกันราคาข้าว รอบ 2 ให้เกษตรกรแล้วกว่า 6 แสนราย

อย่างไรก็ตาม กรอบวงเงินที่ ครม. เคยเห็นชอบไว้ไม่เพียงพอ ดังนั้นรัฐบาลจึงขอให้ผู้ที่เก็บเกี่ยวหลังวันที่ 15 พฤศจิกายน 2563 และเกษตรกรที่มีสิทธิ์รับเงินชดเชยส่วนต่างใน งวด 3 รอการดำเนินการขั้นตอนต่างๆ ก่อน แล้วจะเร่งจ่ายเงิน ประกันรายได้ ให้ทันที

ประกันรายได้ งวด 3

โดยนายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในคราวประชุมเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 อนุมัติงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการ ประกันรายได้ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2563/64 เบื้องต้นจำนวน 18,096.06 ล้านบาท ซึ่ง ธ.ก.ส. ได้ดำเนินการโอนเงินชดเชยส่วนต่างฯ ให้แก่เกษตรกรในงวดที่ 1 ไปแล้วจำนวน 786,219 ครัวเรือน เป็นเงิน 9,128.48 ล้านบาท

ส่วนการจ่ายเงิน ประกันรายได้ ในงวดที่ 2  ซึ่งเดิมกำหนดจ่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 แต่เนื่องจากสถานการณ์ราคาข้าวเปลือกแต่ละชนิดในปีนี้ลดต่ำกว่าปีที่ผ่านมาค่อนข้างมาก ส่งผลให้เงินชดเชยส่วนต่างฯ  ที่ ครม. อนุมัติไว้ไม่เพียงพอสำหรับการจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างฯ ให้แก่เกษตรกรในงวดที่ 2 ได้ทั้งหมด

อย่างไรก็ตามเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร ธ.ก.ส. ได้มีการหารือกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์อย่างใกล้ชิด ซึ่งในการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงข้าว เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 ได้มีมติให้ ธ.ก.ส. จ่ายเงินชดเชยส่วนต่างฯ งวดที่ 2 ให้กับเกษตรกรตามวันเก็บเกี่ยวที่เกษตรกรระบุไว้ในการขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับ กรมส่งเสริมการเกษตร คือตั้งแต่วันที่ 9 – 14 พฤศจิกายน 2563 จำนวน 636,118 ราย วงเงิน 5,684 ล้านบาท ตามงบประมาณที่เหลือ ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563

shutterstock 756191968

สำหรับเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2563 จำนวน 602,485 ราย วงเงิน 5,641 ล้านบาท และเกษตรกรที่มีสิทธิ์รับเงินชดเชยส่วนต่างในงวดที่ 3 อีกจำนวน 1,497,508 ราย วงเงิน 12,900 ล้านบาท รวมแล้วจำนวน 2,099,993 คน คิดเป็นวงเงินรวม 18,514 ล้านบาท จะต้องรอไปก่อน

โดยกระทรวงพาณิชย์จะนำเสนอ ครม. เพื่อพิจารณาอนุมัติวงเงินเพิ่มเติมตามมติคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) แล้ว ซึ่งเมื่อ ครม. ให้ความเห็นชอบ ธ.ก.ส. จะเร่งโอนเงินให้แก่เกษตรกรโดยเร็วต่อไป

ทั้งนี้ ธ.ก.ส มีสภาพคล่องเพียงพอสำหรับรองรับการดำเนินโครงการ ประกันรายได้ พืชเศรษฐกิจสำคัญตามนโยบายรัฐบาลทั้ง 5 ชนิด มิได้ขาดสภาพคล่องตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64 ได้ประกาศราคากลาง ณ 23 พฤศจิกายน 2563  และกำหนดชดเชยส่วนต่างราคาประกันงวด 3 ไปแล้ว ดังนี้

  • ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ อยู่ที่ตันละ 11,940.67 บาท มีส่วนต่างที่ต้องจ่ายตันละ 3,059.33 บาท
  • ราคาข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 11,718.59 บาท มีส่วนต่างตันละ 2,281.41 บาท
  • ราคาข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 8,963.80 บาท มีส่วนต่างตันละ 1,036.20 บาท
  • ราคาข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 9,944.39 บาท มีส่วนต่างตันละ 1,055.61 บาท
  • ราคาข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 11,003.42 บาท มีส่วนต่างตันละ 996.58 บาท

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo